Economics

‘ปตท.สผ.’ หวังกวาดชนะประมูล ‘เอราวัณ-บงกช’ เสนอตัวเป็นผู้ถือหุ้นโควต้ารัฐ

ปตท.สผ.หวังกวาดชนะประมูลทั้งเอราวัณและบงกช พร้อมเสนอตัวเป็นผู้ถือหุ้นในโควตาสัดส่วนรัฐเพิ่มเติม ย้ำรัฐได้ผลประโยชน์ ทั้งภาษี การแบ่งปันรายได้ และการถือหุ้นในปตท.สผ. ระบุมีเงินสดในมือกว่า 4,000 ล้านดอลลาร์ พร้อมลงทุน

PTTEP โกยกำไร
สมพร ว่องวุฒิพรชัย

นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยภายหลังยื่นประมูลแหล่งเอราวัณ และบงกช ว่า ต้องขอบคุณอธิบดีกรมเชื้อเพลิง และและผู้บริหารกรมเชื้อเพลิงที่ผลักดันให้เกิดการประมูลครั้งนี้ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับประเทศ

ปตท.สผ.ได้เตรียมการประมูลมาระยะหนึ่งแล้ว ทั้งบุคลากร การเงิน และศึกษา และเตรียมทำข้อเสนอ โดยเชื่อว่าการที่ปตท.สผ.ดำเนินการในอ่าวไทยมา 25 ปี มีประสบการณ์ ความพร้อม และประสิทธิภาพ สามารถลดต้นทุนให้สามารถแข่งขันได้ และเชื่อว่าประสบการณ์ จะทำให้เกิดความมั่นใจแก่ประเทศได้ว่าก๊าซธรรมชาติที่ผลิตได้จะสามารถตอบสนองต่อความต้องการของประเทศ ทั้งต้นทุนและประสิทธิภาพการแข่งขัน

“เชื่อว่าข้อเสนอของเราจะเป็นประโยชน์ที่สุดต่อประเทศ นอกเหนือจากเงื่อนไขที่กำหนดในสัมปทานที่ต้องแข่งขันกันแล้ว ปตท.สผ.ยังมีรัฐถือหุ้น ทำให้รัฐได้ประโยชน์มากขึ้น และเรายังได้ระบุกว้างๆว่าพร้อมจะเข้าไปถือหุ้นในแหล่งปิโตรเลียมในฐานะรัฐวิสาหกิจเพิ่มเติมด้วย”

นายสมพร กล่าวต่อว่า ปตท.สผ.คาดหวังจะชนะประมูลทั้งสองแหล่ง เพราะสามารถสร้างพลังร่วม (Synergy )ได้อย่างดี เพียงแต่แหล่งแรกที่ต้องมีผู้ถือหุ้นอย่าง บริษัท MP G2 (Thailand) Limited หรือ มูบาดาลา ปิโตรเลียม (ประเทศไทย) มาร่วมถือหุ้นสัดส่วน 26 % เพราะเอราวัณถือเป็นแหล่งใหม่ของปตท.สผ.

การมีผู้ร่วมทุนจะช่วยลดความเสี่ยง ขณะที่แหล่งบงกช ปตท.สผ.ดำเนินการมากว่า 25 ปีแล้ว มีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างดี  แต่อย่างไรก็ตามตามเงื่อนไขการประมูลหลังดำเนินการไปแล้ว 1 ปี สามารถดึงผู้ร่วมลงทุนเข้ามาเพิ่มเติมได้ ซึ่งบริษัทก็เปิดกว้างสำหรับนักลงทุนที่จะมาร่วมด้วย แต่ราคาก็จะสูงขึ้นกว่ามาร่วมกันครั้งแรก

“การประมูลครั้งนี้ จะทำให้ปตท.สผ.มีความเข้มแข็ง สามารถต่อยอดได้ในอนาคตทั้งในประเทศ และการลงทุนในต่างประเทศ ทั้งนี้เพื่อความมั่นคงของประเทศโดยเฉพาะพลังงาน”

oil

นายสมพร กล่าวถึงกรณีเงื่อนไขการประมูลที่เปิดให้รัฐเข้ามาถือหุ้น 25% ในแหล่งปิโตรเลียมว่า ปตท.สผ.นิยามตัวเราว่า เป็นหน่วยงานรัฐสามารถถือหุ้นในแหล่งปิโตรเลียมในโควต้าของหน่วยงานรัฐได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของกระทรวงพลังงานว่าจะเลือกเราหรือไม่

สำหรับความพร้อมทางการเงิน ปตท.สผ.พร้อมทางการเงินทั้งสองแปลง ปัจจุบันมีเงินสดในมือ (Cash in Hand) กว่า 4,000 ล้านดอลลาร์ โดยเชื่อว่าทั้งสองแปลงจะให้ประโยชน์ที่ดีที่สุด หากประมูลได้ทั้งหมดก็จะเกิดพลังร่วมได้อย่างดี เป็นฐานให้เราขยายกำลังผลิตต่อไปได้ในอนาคต

“เรามั่นใจ เพราะใส่ตัวเลขการแข่งขันที่ดี นอกจากนี้เองรัฐ ยังได้ประโยชน์เพิ่มเติม ในฐานะที่รัฐถือหุ้นเราอยู่  และหากชนะประมูลปตท.สผ.พร้อมใส่เงินลงทุนทันทีในปีหน้า“

ทางด้านนายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มงานกลยุทธ์ และพัฒนาธุรกิจ ปตท.สผ. กล่าวว่า บริษัทยื่นประมูลทั้งสองแปลงทั้งเอราวัณ และบงกช แหล่งแรกเราร่วมกับ บริษัท MP G2 (Thailand) Limited  ส่วนแหล่งบงกช ปตท.สผ.ยื่นประมูลเอง 100%

ก่อนหน้านี้จะร่วมลงทุนในแปลงเอราวัณกับเชฟรอนด้วย แต่สัดส่วนน้อย และไม่สามารถหาข้อสรุปได้ จึงยื่นประมูลเอง ประกอบกับมีผู้สนใจมาร่วมประมูลกับปตท.สผ. คือ บริษัท MP G2 (Thailand) Limited ซึ่งมาจากตะวันออกกลาง มีรัฐเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และเป็นผู้ดำเนินการผลิตน้ำมันในอ่าวไทย 30,000 บาร์เรลต่อวัน ใกล้กับแหล่งเอราวัณ ทำให้การพูดคุยบรรลุผลสำเร็จ

ด้านนายพงศธร ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ สำรวจและผลิตปิโตรเลียม ปตท.สผ. กล่าวว่า ได้เตรียมแผนงานพร้อมที่จะสร้างความมั่นใจได้ว่า สามารถส่งก๊าซธรรมชาติได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับในช่วงเปลี่ยนถ่ายจากรายเดิมเป็นรายใหม่ ในแหล่งบงกช

หากปตท.สผ.เป็นผู้ชนะประมูลก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่สำหรับแหล่งเอราวัณ หากชนะประมูลจะต้องประสานงานกับกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ  และผู้ประกอบการรายเดิม เพื่อทำให้การถ่ายโอนไม่ขาดตอน

“ขอให้มั่นใจว่า 25 ปีที่เราดำเนินการในบงกช ได้สร้างการเติบโตของโครงการได้ต่อเนื่อง หากชนะสองแปลงก็ยิ่งสร้างพลังร่วม ในการใช้อุปกรณ์และซัพพลายร่วมกัน  ทำให้ต้นทุนดำเนินการลดลงอย่างเด่นชัด”

 

Avatar photo