World News

‘เมียนมา’ เปิดทางคนไปใช้สิทธิ ยกเลิกข้อจำกัดโควิด-19 วันเลือกตั้ง

“เมียนมา” เปิดทางคนไปใช้สิทธิ ยกเลิกข้อจำกัด โควิด-19 ชั่วคราววันเลือกตั้ง ด้าน “ทางการฝรั่งเศส” ยอมรับยอดเสียชีวิตพุ่งแน่ ล่าสุดวันเดียวติดเชื้อ 5 หมื่นคน

กระทรวงสาธารณสุขและกีฬาของเมียนมา ประกาศยกเลิกข้อจำกัดเพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ซึ่งห้ามการรวมตัวของคนหมู่มากและสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งทั่วไปที่กำลังจะมาถึง โดยอนุญาตให้ผู้คนรวมตัวกันได้ตั้งแต่ 30 คนขึ้นไป ณ หน่วยเลือกตั้งในวันเลือกตั้ง

ทั้งนี้ เมียนมาออกคำสั่งห้ามรวมตัวกันตั้งแต่ 30 คนขึ้นไป ตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม 2563 เป็นต้นมา ตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19

ขณะเดียวกันกระทรวงฯ ยังประกาศว่าประชาชนในเขตเมืองที่ยังอยู่ภายใต้คำสั่งให้อยู่แต่บ้าน จะได้รับอนุญาตให้ไปลงคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งในวันเลือกตั้งได้ตามลำดับ

เมียนมา โควิด-19 เลือกตั้ง

ปัจจุบันเมียนมาได้บังคับใช้คำสั่งอยู่แต่บ้านในทุกเขตเมืองของรัฐยะไข่และภูมิภาคย่างกุ้ง ยกเว้นเขตโคโคคยูนและ 13 เมืองในมัณฑะเลย์ พะโค ภูมิภาคอิยาร์วดี รัฐมอญและรัฐคะฉิ่น เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคอย่างมีประสิทธิภาพ

โดยการเลือกตั้งทั่วไปของเมียนมาในปี 2563 จะจัดขึ้นในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2563 โดยวาระการบริหารประเทศของรัฐบาลพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) จะสิ้นสุดระยะ 5 ปี ในเดือนมีนาคม 2564

ด้านยอดผู้ป่วยโรค โควิด-19 ใน เมียนมา รวมอยู่ที่ 44,774 ราย มีผู้ป่วยเสียชีวิต 1,095 ราย เมื่อนับถึงเมื่อวานนี้ (25 ต.ค. 63)

 

“ฝรั่งเศส” หนัก! ติดเชื้อ โควิด-19 กว่าครึ่งแสนในวันเดียว

ในฝั่งยุโรป สำนักสาธารณสุขของฝรั่งเศสเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ฝรั่งเศสตรวจพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัส โควิด-19 เพิ่ม 52,010 ราย ในช่วง 24 ชั่วโมง ทำลายสถิติผู้ป่วยใหม่รายวันสูงสุดเมื่อวันเสาร์ (24 ต.ค. 63) ซึ่งอยู่ที่ 45,422 ราย

รายงานระบุว่า ฝรั่งเศสมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในประเทศสะสมอยู่ที่ 1,138,507 ราย นับตั้งแต่การแพร่ระบาดเริ่มต้น และมีผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่ม 116 รายภายในหนึ่งวัน ส่งผลให้ยอดผู้ป่วยเสียชีวิตรวมอยู่ที่ 34,761 ราย

โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม 2563 ฝรั่งเศสกลายเป็นประเทศยุโรปประเทศที่ 2 รองจากสเปน ที่มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 เกิน 1 ล้านราย

นอกจากนั้น 17% ของผู้รับการตรวจโรคโควิด-19 ในฝรั่งเศสมีผลตรวจโรคเป็นบวก เพิ่มขึ้นจาก 16% ในวันเสาร์ (24 ต.ค. 63) และ 15.1% ในวันศุกร์ (23 ต.ค. 63) พุ่งขึ้นจากช่วงต้นเดือนกันยายน ซึ่งอยู่ที่เพียง 4.5%

ฝรั่งเศส โควิด-19

การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ระลอก 2 กระตุ้นให้รัฐบาลฝรั่งเศสกำหนดมาตรการที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงคำสั่งเคอร์ฟิวในภูมิภาคส่วนใหญ่ของประเทศ โดยประชากรฝรั่งเศสมากกว่า 2 ใน 3 หรือราว 46 ล้านคน ถูกร้องขอให้อยู่แต่ในบ้านระหว่างเวลา 21.00-6.00 น. เป็นเวลา 6 สัปดาห์

ที่ประชุมสมัชชาแห่งชาติฝรั่งเศสได้รับรองวาระที่ 1 ของแผนการขยายระยะเวลาสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับรัฐจนถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 โดยโอลิวิเยร์ เวร็อง รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของฝรั่งเศส เผยว่าฝ่ายบริหารจะมีอำนาจกำหนดข้อจำกัดต่างๆ เพื่อรับมือกับ “วิกฤตที่กินเวลายาวนานและยากลำบาก” พร้อมเสริมว่ายอดผู้ป่วยเสียชีวิตจะ “เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่วันและสัปดาห์ข้างหน้า ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตาม” ซึ่งเป็นผลจากการแพร่ระบาดที่รุนแรงขึ้น

“หากเราไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ เราจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่เลวร้าย เราจำเป็นต้องมีมาตรการที่เข้มงวดกว่านี้” ฌอง คาสเท็กซ์ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (22 ต.ค. 63) พร้อมกับประกาศขยายคำสั่งเคอร์ฟิวในหลายภูมิภาคของประเทศ

ปัจจุบันหลายประเทศ อาทิ ฝรั่งเศส เยอรมนี จีน รัสเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ ต่างมุ่งมั่นแสวงหาวัคซีนป้องกันโรค โควิด-19 ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก โดย เว็บไซต์องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่ามีวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อยู่ระหว่างการพัฒนา จำนวน 198 รายการ เมื่อนับถึงวันที่ 19 ตุลาคม 2563 ซึ่งเข้าสู่ขั้นตอนการทดลองทางคลินิกแล้ว 44 รายการ

ที่มาสำนักข่าวซินหัว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo