กสิกรไทย เดินหน้าช่วยเหลือลูกค้าต่อเนื่อง หลังมาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยครบกำหนดในวันที่ 22 ต.ค.นี้ ชี้ลูกค้า 81% กลับมาชำระหนี้ได้ปกติ
นายกฤษณ์ จิตต์แจ้ง กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า จากผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ลูกค้าธุรกิจ และลูกค้าบุคคล ได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก
ที่ผ่านมา ธนาคารได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทั้งการช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย เช่น ลดยอดการผ่อนต่อเดือน พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย และสนับสนุนเงินทุนด้วยสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่อง
ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทย ให้ความช่วยเหลือลูกค้าธุรกิจ และลูกค้าบุคคล ผ่านมาตรการระยะที่ 1 และ 2 ไปแล้ว รวม 860,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นการพักชำระเงินต้น และดอกเบี้ย ให้ลูกค้าธุรกิจ ที่เข้าร่วมมาตรการ 360,000 ล้านบาท ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 22 ตุลาคมนี้
ขณะที่ธนาคารได้มีการเตรียมความช่วยเหลือ สำหรับลูกค้าที่เข้ามาตรการพักชำระหนี้ เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีการติดต่อสอบถามลูกค้าแต่ละรายอย่างใกล้ชิด เพื่อพิจารณาสภาพคล่องหรือกระแสเงินสดของลูกค้า
จากการเข้าพบลูกค้าผู้ประกอบการที่เข้ามาตรการฯ ประมาณ 100,000 ราย พบว่าราว 81% สามารถกลับมาชำระหนี้ได้ปกติ ซึ่งเป็นธุรกิจที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมอุปโภคบริโภค โดยมีเพียง 18% ที่ต้องการมาตรการช่วยเหลือต่อ โดยส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และส่วนที่เหลือได้ปิดกิจการไปแล้ว
สำหรับลูกค้าที่ยังไม่สามารถกลับมาชำระปกติได้ ธนาคารได้ให้ความช่วยเหลือต่อเนื่อง โดยเน้นแก้หนี้ให้ตรงจุดแทนการช่วยเหลือเป็นการทั่วไป มาตรการช่วยเหลือของธนาคาร จึงมีหลายรูปแบบ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาวะอุตสาหกรรม และลักษณะธุรกิจ ของลูกค้าแต่ละราย โดยมีรูปแบบการช่วยเหลือ ดังนี้
1. การบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย เช่น การปรับลดภาระผ่อนชำระต่อเดือน การพักชำระเงินต้น การพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย
2. การให้เงินทุนเพื่อเสริมสภาพคล่อง เช่น การปล่อยสินเชื่อใหม่เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับกลุ่มลูกค้าธุรกิจผ่านโครงการค้ำประกันสินเชื่อ Soft Loan พลัส วงเงินสูงสุดไม่เกิน 100 ล้านบาท รวมทุกสถาบันการเงิน ค้ำประกันสินเชื่อ โดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ระยะเวลากู้สูงสุด 7 ปี และพักชำระเงินต้นสูงสุด 2 ปี
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าธนาคารจะมีมาตรการให้ความช่วยเหลือ ซึ่งเป็นการลดภาระหนี้ในปัจจุบัน แต่ภาระดอกเบี้ยในแต่ละเดือนตลอดช่วงการพักหนี้ ยังคงเป็นภาระแก่ลูกหนี้ในระยะยาว
ดังนั้น ลูกหนี้ที่ยังมีรายได้เพียงพอ ที่จะชำระคืนหนี้ ควรชำระหนี้ตามปกติ หลังหมดมาตรการ นอกจากนี้ การปรับตัวในการดำเนินธุรกิจ ของผู้ประกอบการ ทั้งในด้านการหาตลาดใหม่ ๆ และการบริหารต้นทุน ยังคงเป็นเรื่องสำคัญมาก
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ศูนย์วิจัยกสิกรไทย’ คาด ‘ช้อปดีมีคืน’ ดันเชื่อมั่นเศรษฐกิจฟื้น
- ‘กสิกรไทย’ ตั้ง 2 กรรมการผู้จัดการใหม่ ‘กฤษณ์-พิพัฒน์พงศ์’
- ‘กสิกรไทย’ ปลื้ม ‘ช่วยลูกค้าสู้โควิด-19’ รุดหน้า เร่งช่วยต่อเนื่องหลังคลายล็อก