กรมการขนส่งฯ สั่งรถเมล์เตรียมวิ่งแทนรถตู้หมดอายุ พื้นที่ “อนุสาวรีย์-มีนบุรี”กระทบหนักสุด หยุดวิ่ง 400 คัน
นายเชิดชัย สนั่นศรีสาคร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมมาตรการรองรับกรณีรถตู้โดยสารปรับอากาศร่วมองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ (ขสมก.) หยุดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไปว่า
กรมการขนส่งฯ ได้ประสานงานกับ ขสมก. และบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เพื่อจัดหารถมาวิ่งเสริมในทุกเส้นทางที่มีรถตู้หมดอายุ สำหรับบางเส้นทางมีปริมาณผู้โดยสารมาก จะประสานรถโดยสารไม่ประจำทาง (หมวด 30) มาวิ่งเสริมด้วย
จากการตรวจสอบพบว่า ในปี 2561 จะมีรถตู้โดยสารหมดอายุรวมทั้งหมด 1,333 คัน ไม่ถึง 1,800 คันตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ แบ่งเป็นรถตู้หมวด 1 ให้บริการในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จะหมดอายุรวมทั้งสิ้น 954 คัน และรถตู้โดยสารหมวด 2 ที่ให้บริการระหว่างกรุงเทพฯ-ต่างจังหวัด จะหมดอายุ 379 คัน
สำหรับปี 2562 หมดอายุ 892 คัน, ปี 2563 หมดอายุ 1,441 คัน, ปี 2564 หมดอายุ 385 คัน, ปี 2565 หมดอายุ 115 คัน, ปี 2566 หมดอายุ 62 คัน, ปี 2567 หมดอายุ 43 คัน , ปี 2568 หมดอายุ 51 คัน, ปี 2569 หมดอายุ 48 คัน , ปี 2570 หมดอายุ 18 คัน และปี 2571 หมดอายุ 12 คัน ซึ่งรถตู้จะทยอยหมดอายุไปแต่ละปีจนถึงปี 2571 รวมทั้งสิ้น 4,183 คัน
“เส้นทางที่มีรถตู้หมดอายุและหยุดวิ่งให้บริการ อาจจะส่งผลกระทบกับผู้โดยสารบ้าง เนื่องจากเป็นจุดที่ขนส่งคนจากในเมืองไปยังชานเมือง คือ บริเวณอนุสาวรีย์ฯ จะมีรถจำนวน 11 เส้นทาง รถตู้กว่า 260 คัน, บริเวณมีนบุรี มีรถ 7 เส้นทาง หมดอายุ 191 คัน และบริเวณรังสิต 1 เส้นทางมีรถหมดอายุ 28 คัน” นายเชิดชัยกล่าว
ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการรถตู้โดยสารที่จะหมดอายุ รีบทำเรื่องขอเปลี่ยนเป็นรถตู้ใหม่ในปีนี้ ก็จะสามารถให้บริการต่อไปได้อีก 10 ปีทันที แต่ในปี 2562 เป็นต้นไป ผู้ประกอบการจะต้องเปลี่ยนเป็นรถมินิบัสเท่านั้น
สำหรับกรณีที่ผู้ประกอบการรถตู้โดยสารกังวลว่า หากรัฐบาลมีการก่อสร้างรถไฟฟ้า 10 สายแล้วเสร็จจะส่งผลกระทบต่อเส้นทางการให้บริการรถตู้จากชานเมืองเข้ากรุงเทพนั้น
ขณะนี้ทางกรมการขนส่งฯ ได้ว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อมาดูเรื่องเส้นทางรถเมล์ ภายหลังการก่อสร้างไฟฟ้าแล้วเสร็จ ซึ่งการศึกษาจะดูเส้นทางรถเมล์ให้สอดคล้อง ปริมาณประชาชนที่ใช้บริการจริง ขณะเดียวกันจะดูเส้นทางรถตู้ให้มีความสอดคล้องในสถานการณ์จริงในตอนนั้นด้วย
พ.อ.สมบัติ ธัญญะวัน รองผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล ม.2 รอ.) ในฐานะคณะทำงานจัดระเบียบรถตู้โดยสาร กล่าวว่าคณะทำงานฯ ไม่มีนโยบายจะผ่อนผันขยายอายุรถตู้ไปอีก 5 ปี เนื่องจากคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนที่มาใช้บริการ เพราะรถที่มีอายุเกิน 10 ปีจะมีสภาพทางกายภาพไม่เหมาะและมีความเสี่ยงสูง รวมถึงกรมการประกันภัยจะไม่รับประกันรถที่มีอายุเกิน 10 ปี ดังนั้นหากมาให้บริการและเกิดอุบัติเหตุจะไม่สามารถคุ้มครองผู้โดยสารได้ นอกจากนั้นรถที่อายุเกิน 10 ปีจะมีมลภาวะเป็นพิษบนท้องถนนหากนำมาวิ่งบนถนน
ส่วนมาตรการรองรับหากผู้ประกอบการรถตู้โดยสารหยุดให้บริการจริงทางคณะทำงานได้มีการประสานงานกับ ขสมก. ที่นำรถมาให้บริการแทนทันที ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมสำรองรถไว้แล้ว โดยคาดว่าบริเวณอนุสาวรีย์ฯ และมีนบุรี ผู้โดยสารอาจจะได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากรถที่จะหยุดวิ่งเนื่องจากหมดอายุรวมกันกว่า 400 คัน
