กระแสความนิยมละคร “บุพเพสันนิวาส” ของช่อง 3 ที่เริ่มออกอากาศวันที่ 21 กุมภาพันธ์ เป็นตอนแรกเริ่มต้นด้วย ค่าความนิยมเฉลี่ย (เรตติ้ง) 3.417 หรือผู้ชม 2.2 ล้านคน กับตอนล่าสุด วันพุธ 4 เมษายน 2561 ด้วยเรตติ้งทั่วประเทศ 17.4 หรือจำนวนผู้ชม 11.5 ล้านคน
ก่อนตอนจบบุพเพสันนิวาส ในตอน 15 วันพุธ 11 เมษายน นี้ และตอนพิเศษเบื้องหลังอีก 3 ตอน ปิดท้ายละครในวันที่ 19 เมษายน
“บุพเพสันนิวาส” ได้สร้างหลากหลายปรากฎการณ์ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย และหลายสถิติให้ช่อง 3 ก้าวขึ้นมายืนในตำแหน่งผู้นำในยุคทีวีดิจิทัล
“ช่อง3”เรตติ้งเบอร์1 ครั้งแรกในยุคทีวีดิจิทัล
สํานักนโยบายและวิชาการกระจายเสียงและโทรทัศน์ กสทช. รายงานว่า ในช่วงระยะเวลาการเปลี่ยนผ่านจากโทรทัศน์ในระบบอนาล็อกสู่ระบบดิจิทัล ตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา ช่องรายการที่ครองความนิยมสูงสุดอันดับ 1 เสมอมา คือ ช่อง 7
อย่างไรก็ดีเรตติ้ง ของเดือนมีนาคม 2561 ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้แก่วงการโทรทัศน์ในระบบดิจิทัล เนื่องจาก ช่อง 3 มีเรตติ้งสูงขึ้นจนสูงกว่าเรตติ้งของช่อง 7 ซึ่งเป็นช่องคู่แข่งมาอย่างยาวนาน
โดยการเปลี่ยนแปลงที่ช่อง 3 สามารถโค่นช่อง 7 แชมป์เก่าลงได้ เป็นผลมาจากความโด่งดังของละคร “บุพเพสันนิวาส” ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างท่วมท้นจากผู้ชมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
ออนไลน์ดึงผู้ชมดู“จอทีวี”
ในยุคที่คนไทยเข้าถึงอินเทอร์เน็ตคิดเป็นสัดส่วน 80% ของประชากรไทย จึงมักมีคำถามว่าคนไทยยังดูทีวีอยู่หรือไม่ “บุพเพสันนิวาส” ถือเป็นคอนเทนท์ที่ให้คำตอบเรื่องนี้ได้หลายแง่มุม
ไตรลุจน์ นวะมะรัตน นายกสมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย (MAAT) มองว่า “คอนเทนท์” ที่ดียังเป็นสิ่งที่ดึงดูดผู้ชมได้ใน “ทุกจอ” ไม่ว่าจะออฟไลน์ หรือออนไลน์ ด้วยคอนเทนท์เดิมที่คนไทยชื่นชอบ คือ ละครและเกมโชว์ โดยไม่จำเป็นต้องหารูปแบบคอนเทนท์ใหม่ เพียงแต่พัฒนาเนื้อหาให้โดนใจผู้ชม!!
“บุพเพสันนิวาส” เป็นตัวอย่างคอนเทนท์ ที่เริ่มจากจอทีวี เมื่อมีเนื้อหาโดนใจผู้ชม “สื่อออนไลน์” จึงเข้ามาสร้างกระแสต่อ กลุ่มที่กลัวตกกระแสออนไลน์ (Fear of missing out หรือ FOMO) และห่างหายไปจากการดูทีวีทุกวัย จึงกลับมาดูทีวีอีกครั้ง เมื่อคอนเทนท์ น่าสนใจจึงมีการติดตามอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากเรตติ้งที่เพิ่มขึ้นสูงนับจากตอนแรกที่ออนแอร์ และสะท้อนได้ว่าคนไทยยังดูทีวี
“เรตติ้งบุพเพสันนิวาส วันนี้ทำสถิติสูงสุดของช่อง 3 อีกทั้งทำให้ภาพรวมเรตติ้งช่อง 3 เดือนมีนาคม ขึ้นมาครองอันดับ 1 ถือเป็นสถิติในรอบ 10ปี”
นอกจากนี้ ในด้านรายได้โฆษณาละครบุพเพสันนิวาส ที่อยู่ในช่วงไพรม์ไทม์ ที่มีราคาโฆษณา (rate card) สูงสุดที่ นาทีละ 4.8 แสนบาท มีอัตราการขายโฆษณาเต็ม!! โดยสถานียังเสนอส่วนลด 15% เป็นปกติ
นอกจากนี้ยังเสนออีก 3 ตอนพิเศษ ที่เป็นเบื้องหลัง บอกเล่าที่มาที่ไปของละคร และต่อยอดจัดอีเวนท์ ชวนแฟนละครมาดูตอนจบ ที่โรงภาพยนตร์ วันที่ 11 เมษายนนี้ โดยเสนอขายแพ็คเกจสปอนเซอร์ให้กับสินค้าและแบรนด์ต่างๆ ที่สนใจ รวมทั้งการสร้างภาค 2
“ในยุคที่คนไทยมีคอนเทนท์ให้เสพหลากหลายช่องทาง การรักษาแชมป์จึงเป็นเรื่องที่ยากไม่ต่างจากการคว้าแชมป์ เพราะผู้ชมจะมองหาสิ่งใหม่อยู่ตลอดเวลา”
Power of Content “บุพเพสันนิวาส”
นีลเส็น ประเทศไทย รายงานตัวเลขเรตติ้งทั่วประเทศ (Nationwide) ทีวีดิจิทัล เดือนมีนาคม 2561 ที่ถือเป็นสถิติใหม่ในยุคทีวีดิจิทัล ที่ “ช่อง 3” ขึ้นแท่นอันดับ 1 ด้วยเรตติ้ง 1.856 เฉือนอันดับ 2 ช่อง 7 ที่เรตติ้ง 1.804 ด้วยพลังของคอนเทนท์ฮิต “บุพเพสันนิวาส”
รัฐกร สืบสุข เทรดดิ้ง พาร์ทเนอร์ กรุ๊ปเอ็ม (ประเทศไทย) กล่าวว่า “บุพเพสันนิวาส” ถือเป็นกรณีศึกษาหลายด้านในยุคทีวีดิจิทัล ที่มาจาก Power of Content โดยแท้จริง
- ทั้งด้านการตอกย้ำว่า Content is King ยังเป็นเรื่องที่เป็นจริงอยู่เสมอ ในยุคนี้ มี “แพลตฟอร์ม” เข้ามาช่วยสนับสนุนให้คอนเทนท์เข้าถึงผู้ชมได้กว้างขึ้น
- “ทีวี” ยังเป็นสื่อที่ผู้คน “คุ้นเคย” และพร้อมกลับมารับชมผ่านจอทีวี การที่ผู้คนหายไปจากจอทีวี ไม่ได้มาจากสาเหตุสื่อออนไลน์ มาแย่งผู้ชม แต่เป็นเพราะคอนเทนท์ไม่โดนใจ!!
- หากเป็นคอนเทนท์ที่ดี สามารถต่อยอดได้สร้างรายได้ ได้หลายทิศทาง
- เป็นยุคที่สื่อออฟไลน์และออนไลน์ ต้องไปด้วยกัน หากย้อนกลับไปดู บุพเพสันนิวาส ตอนแรก เรตติ้ง ทั่วประเทศ 3.4 แต่มีกระแสพูดถึงในสื่อออนไลน์กว้างขวาง ทำให้คนที่พลาดรับชม กลับไปดูย้อนหลังผ่านยูทูบ และแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ และเกิดเป็นกระแสจากคอนเทนท์ที่โดนใจ ทำให้เรตติ้ง หน้าจอทีวี เพิ่มขึ้นทุกตอน ล่าสุดตอนที่ 13 เรตติ้ง 17.4 หากเป็นในอดีตที่ไม่มีสื่อโซเชียล หากเรตติ้งตอนแรกไม่สูง ตอนต่อไปจะขยับได้ยากมาก
- อีกทั้งยังสร้างปรากฏการณ์ สื่อออนไลน์ดึงผู้ชมที่ไม่ดูทีวี กลับมาดูทีวี เพราะกลัวตกกระแส
ช่อง3 ต่อยอดกระแส‘ออเจ้า’
สำหรับช่อง 3 ใช้จังหวะนี้ต่อยอดกระแส “ออเจ้า” ละครดังทุกทิศทาง โดยเฉพาะการเปิดตัว Mello แอพพลิเคชันรับชมคอนเทนท์ช่อง 3 ย้อนหลังช่องทางแรกหลังจากจอทีวี ที่สามารถสร้างสถิติผู้ชมสูงสุด 1.5 ล้านคนต่อวัน
ชาคริต ดิเรกวัฒนชัย หัวหน้าคณะผู้บริหารสายกิจการองค์กร สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 กล่าวว่า บุพเพสันนิวาส เป็นคอนเทนท์ที่ได้รับความนิยมจากผู้ชมจำนวนมาก และช่อง 3 กำลังต่อยอดของละคร ทั้งในทางด้านรายได้ และด้านที่อาจไม่ได้สร้างรายได้แต่เป็นประโยชน์ต่อสังคม เช่น ปลุกกระแสความสนใจในประวัติศาสตร์ของคนไทย โดยจะมีจัดกิจกรรมเพื่อขอบคุณผู้ชมในวันที่ 11 เมษายน นี้ ซึ่งเป็นวันที่เป็นตอนจบ ของละครบุพเพสันนิวาส
โดยชวนแฟน ๆ มาชมตอนจบของบุพเพสันนิวาส พร้อมกันกับนักแสดงที่ โรงภาพยนตร์ สยามภาวลัย พร้อมกิจกรรมเพื่อเป็นการขอบคุณแฟนละคร รวมทั้งนำเสนอละครพิเศษ 3 ตอน ในวันพุธ 12 เมษายน วันพุธ 18 และวันพฤหัสบดี 19 เมษายน ซึ่งเป็นเนื้อหาบอกเล่าเรื่องราวที่มา ที่ไปของตัวละคร เบื้องหลังที่ไม่ได้ออกอากาศ เป็นเหมือน ฟินาเล่ ส่งท้ายละคร ก่อนจะส่งไม้ต่อให้ ละครพีเรียด “หนึ่งด้าวฟ้าเดียว” มารับไม้ต่อในวันที่ 25 เมษายน นี้
บุพเพสันนิวาส โกยเรตติ้งสูงสุดในยุคทีวีดิจิทัล
