Politics

‘พุทธิพงษ์’ ลั่นสั่งตรวจทุกโซเชียล ไม่เฉพาะแอป Telegram ถ้าผิดจัดการทันที

ดีอีเอส ลั่น ตรวจสอบทุกโซเชียลมีเดีย ตามคำสั่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่เลือกปฏิบัติเฉพาะ แอป Telegram หากพบทำผิดกฏหมาย ดำเนินคดีทันที

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า ทางตำรวจได้ใช้อำนาจตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ให้กระทรวงดิจิทัลฯ และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ควบคุม เนื้อหาที่ผิดกฏหมายที่มีการยุยง ปั่นป่วน โดยหากพบว่ามีความผิด ให้แจ้งและลบเนื้อหานั้น และรวบรวมเพื่อดำเนินคดีได้ทันที

พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ 2

ทั้งนี้เป็นไปตามคำสั่งหัวหน้าผู้รับผิดชอบ ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงที่ 11/2563 เรื่องระงับการทำให้แพร่หลาย หรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ ออกจากกระบบคอมพิวเตอร์ ที่มีลักษณะฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 ประกอบมาตรา 11 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548

ดังนั้น การตวจสอบสื่อโซเชียลมีเดีย จึงรวมถึง แอปพลิเคชั่น Telegram ด้วย โดยได้สั่งการให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ค่ายมือถือ ตรวจสอบทุกสื่อ หากพบการกระทำความผิดกฏหมาย ก็ให้ดำเนินคดีทันที

ด้าน นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รักษาการแทน เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเย็นของวันนี้ (19 ต.ค.63) สำนักงาน กสทช. เพิ่งได้รับหนังสือจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เรื่อง ขอให้ดำเนินการระงับการกระทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์

สำนักงาน กสทช. ขอเรียนว่า หลักปฏิบัติโดยทั่วไป เกี่ยวกับการดำเนินการ เกี่ยวเนื้อหาที่เผยแพร่บนอินเทอร์เน็ตว่า ตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2563 กระทรวงฯ เป็นผู้มีอำนาจในการชี้ว่าเนื้อหาใดที่ปรากฏอยู่บนอินเทอร์เน็ต ผิดตาม พ.ร.บ. และจะประสานงานไปยังผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) และผู้ให้บริการโครงข่าย (IIG) ในประเทศไทย ให้ดำเนินการตามกฎหมาย และจะส่งเรื่องมาให้สำนักงาน กสทช. ช่วยกำชับไปยัง ISP และ IIG ให้ดำเนินการอย่างรวดเร็ว

ในกรณีนี้ หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความผิดร้ายแรง ได้มีคำสั่งที่ 11/2563 เรื่อง ระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ ที่มีลักษณะฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามความใน ม. 9 ประกอบ ม. 11 ตาม พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ให้สำนักงาน กสทช. และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ดำเนินการเพื่อระงับการทำให้แพร่หลาย หรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้น ออกจากระบบคอมพิวเตอร์

ทางกระทรวงฯ จึงได้ขอความร่วมมือให้ สำนักงาน กสทช. ประสานไปยังผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต และผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือทุกราย ดำเนินการตามคำสั่งของ หัวหน้าผู้รับผิดชอบ ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีความผิดร้ายแรงต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo