Business

‘ช้อปดีมีคืน คนละครึ่ง’ ค้าปลีก – ไอที รับอานิสงส์ หดตัวลดลง

ช้อปดีมีคืน คนละครึ่ง หนุนค้าปลีก ไอที รับอานิสงส์ คาดตลาดค้าปลีก หดตัวลดลงเหลือ 6% จากเดิมคาดติดลบ 7.2% แนะเตรียมสต็อกสินค้าให้พร้อม

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในช่วงปลายปี 2563 นี้ ภาครัฐได้มีการออกมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายต่าง ๆ โดยเฉพาะ มาตรการ ช้อปดีมีคืน คนละครึ่ง รวมถึงมาตรการอื่น ๆ ที่ออกมาก่อนหน้านี้ คาดว่าจะช่วยหนุนภาพรวมธุรกิจค้าปลีกทั้งปี ให้หดตัวลดลงเป็นเหลือ 6% เมื่อเทียบกับหากไม่มีมาตรการ ฯ ซึ่งคาดว่าจะหดตัวราว 7.2%

ช้อปดีมีคืน คนละครึ่ง

ทั้งนี้ มาตรการ คนละครึ่ง จะเอื้อประโยชน์ ต่อร้านค้าปลีกรายย่อย ที่เน้นจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น ร้านธงฟ้า ร้านโชห่วย ร้านค้าปลีกขนาดเล็ก

ขณะที่ มาตรการ ช้อปดีมีคืน จะเอื้อประโยชน์ให้กับ ผู้ประกอบการค้าปลีก ที่จดทะเบียนอยู่ในระบบ และออกใบกำกับภาษีได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น ผู้ประกอบการขนาดกลางขึ้นไป

​จากการสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่าย ของผู้บริโภคมาตรการ “ช้อปดีมีคืน” (จำกัดวงเงินคนละไม่เกิน 30,000 บาท) โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่า สินค้าและบริการยอดนิยม 3 อันดับแรก คือ การรับประทานอาหารในร้านอาหาร อุปกรณ์ไอที และของใช้จำเป็นส่วนบุคคล เช่น แชมพู ครีมอาบน้ำ ยาสีฟัน ซึ่งปกติผู้บริโภคมีการรับประทานอาหารและซื้อของใช้จำเป็นส่วนบุคคลอยู่แล้ว จึงไม่ได้มีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นกว่า ช่วงที่ไม่มีมาตรการฯ มากนัก

ส่วนกลุ่มสินค้าอุปกรณ์ไอที น่าจะได้รับความสนใจ จากกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานมากขึ้น กว่าช่วงที่ไม่มีมาตรการฯ

นอกจากนี้ ยังพบว่า ผู้บริโภควางแผน จะใช้จ่ายผ่านห้างสรรพสินค้า (รวมถึงร้านค้าและร้านอาหารที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า) เป็นหลัก เนื่องจากห้างสรรพสินค้า เป็นช่องทาง ที่สามารถตอบโจทย์ ด้านสินค้าและบริการ ที่ครบวงจร

ขณะที่ E-market place เป็นช่องทางออนไลน์ ที่ตอบโจทย์พฤติกรรม ของผู้บริโภครุ่นใหม่ ที่เป็นวัยรุ่นและวัยทำงาน

19OCT พฤติกรรมผู้บริโภค ช้อปดีมีคืน 0

ดังนั้น ผู้ประกอบการควรเตรียมพร้อม ในเรื่องสต็อกสินค้า และการอำนวยความสะดวก เรื่องใบกำกับภาษี เช่น มีบริการจัดส่งใบกำกับภาษี ตามไปให้ถึงที่พักอาศัย หรือ ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งทำให้ผู้บริโภคไม่ต้องต่อคิวรอนาน ควบคู่ไปกับมาตรการดังกล่าว เพื่อจูงใจให้ผู้บริโภคตัดสินใจใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัด กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ความคืบหน้า ของการลงทะเบียนรับสิทธิ์ โครงการคนละครึ่งของประชาชน หลังเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 06.00 น. วันที่ 16 ตุลาคม ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com

ขณะนี้มีผู้สนใจลงทะเบียน 5.88 ล้านคน นับว่าเป็นยอดที่น่าพอใจ ยอมรับว่า หากประชาชนไม่มาลงทะเบียน แสดงว่าไม่ต้องการใช้สิทธิ์จากรัฐบาล และยังมีกำลังซื้อในการใช้จ่าย

ด้านมาตรการ ช้อปดีมีคืน จะเปิดให้ประชาชนที่มีสิทธิ เริ่มช้อปสินค้าและบริการ ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2563 เพื่อนำเงินที่ซื้อสินค้าและบริการ ที่มีใบกำกับภาษีมูลค่าเพิ่ม ไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ปี 2563

สินค้าที่สามารถซื้อได้ ในมาตรการ ช้อปดีมีคืน คือ 

1. สินค้าและบริการที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)

โดยปกติสินค้าและบริการที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มจะมีใบกำกับภาษีออกมาพร้อมกันด้วย ซึ่งการใช้สิทธิลดหย่อนช้อปดีมีคืนจะต้องใช้ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปที่ปรากฏชื่อและข้อมูลผู้ซื้อด้วย (ไม่สามารถใช้ใบกำกับภาษีอย่างย่อได้)

2. หนังสือ (รวมถึง e-book)

หนังสือ และ e-book ในที่นี้ไม่รวมถึงนิตยสารและหนังสือพิมพ์ โดยผู้ขายต้องเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเท่านั้น (เจ้าของร้านหนังสือเป็นบุคคลธรรมดาใช้ลดหย่อนไม่ได้)

3. สินค้า OTOP

สินค้าและบริการที่ไม่ได้รับสิทธิลดหย่อน

  • ค่าสุรา เบียร์ และไวน์
  • ค่ายาสูบ
  • ค่าน้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ
  • ค่ารถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ
  • ค่าหนังสือพิมพ์และนิตยสารและค่าบริการหนังสือพิมพ์และนิตยสาร ที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต
  • ค่าบริการจัดนำเที่ยว
  • ค่าที่พักในโรงแรม

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo