Business

ขายพรุ่งนี้! สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดเกล็ดดาว ลุ้นล้าน เพิ่มเลขท้ายสองตัว

สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดเกล็ดดาว เปิดขายวันแรกพรุ่งนี้ หน่วยละ 5,000 บาท รวม 3 ล้านหน่วย กรอบวงเงิน 15,000 ล้านบาท ลุ้นเงินล้าน เพิ่มรางวัลเลขท้ายสองตัว

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. กำหนดเปิดขาย สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดเกล็ดดาว วันแรก พรุ่งนี้ (20 ตุลาคม 2563) โดยเปิดจำหน่ายหน่วยละ 5,000 บาท จำนวนรวม 3 ล้านหน่วย กรอบวงเงิน 15,000 ล้านบาท

สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดเกล็ดดาว

 

สำหรับ สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดเกล็ดดาว แบ่งเป็น 3 หมวด ๆ ละ 1 ล้านหน่วย อายุสลาก 2 ปี ผลตอบแทนหน้าสลาก 0.4% ต่อปี ออกรางวัลทุกเดือน รวม 24 ครั้ง (24 เดือน) คิดเป็นโอกาสในการถูกรางวัลสูงถึง 0.0045% ดังนี้

  • รางวัลที่ 1 มูลค่า 1,000,000 บาท/หมวด
  • รางวัลที่ 2 มูลค่า 50,000 บาท จำนวน 4 รางวัล/หมวด
  • รางวัลที่ 3 มูลค่า 5,000 บาท จำนวน 20 รางวัล/หมวด
  • รางวัลที่ 4 มูลค่า 500 บาท จำนวน 20 รางวัล/หมวด
  • รางวัลเลขท้าย 3 ตัว รางวัลละ 100 บาท
  • รางวัลเลขสลับเลขท้าย 3 ตัว รางวัลละ 50 บาท
  • รางวัลเลขท้าย 2 ตัว รางวัลละ 50 บาท
  • รางวัลเลขสลับเลขท้าย 2 ตัว รางวัลละ 20 บาท

การออกสลากดังกล่าว จะเป็นการสร้างมิติใหม่ ในการออม ให้แก่ลูกค้าประชาชน ที่ต้องการออม ในผลิตภัณฑ์ที่เมื่อฝากเงินครบกำหนด จะได้รับทั้งผลตอบแทนที่ดี เงินต้นที่ฝากไว้ยังอยู่ครบ และยังมีโอกาสได้ลุ้นรางวัลพิเศษทุกเดือน รวมถึงได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ในการสร้างโอกาส ทำให้คนไทยได้มีบ้าน

ทั้งนี้ สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดเกล็ดดาวจะเริ่มออกรางวัลครั้งแรก วันที่ 16 พฤศจิกายน 2563 หากถูกรางวัลที่ 1 มูลค่า 1 ล้านบาท จะถือเป็นการได้รับผลตอบแทนสูงถึง 200 เท่าของจำนวนเงินฝาก

สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดเกล็ดดาว

กรณีฝากครบ 2 ปี รับเงินต้น พร้อมดอกเบี้ยหน่วยละ 5,040 บาท หากซื้อจำนวน 100 หน่วย จะทำให้ผู้ซื้อมีโอกาสถูกรางวัลเลขท้ายทุกเดือน และแม้จะเคยถูกรางวัลแล้ว ก็ยังมีโอกาสถูกซ้ำได้อีกทุกเดือน อีกทั้งดอกเบี้ยและเงินรางวัล ที่ได้รับจากสลากออมทรัพย์ ธอส. ยังได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอีกด้วย

สำหรับ ธอส. จะนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายสลากชุดเกล็ดดาว ธอส. ไปจัดทำเป็นผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้าน Two Gen อัตราดอกเบี้ยต่ำ และผ่อนรายเดือนน้อย ซึ่งจะมีการเปิดตัวเร็ว ๆ นี้ต่อไป

นายฉัตรชัย กล่าวว่า สำหรับการซื้อสลากออมทรัพย์ ทำได้ 2 ช่องทาง คือ Application : GHB ALL หรือที่ทำการสาขา โดยมีขั้นตอนดังนี้

  • กรณีซื้อสลากผ่าน Application GHB ALL

ผู้ที่ยังไม่เคยซื้อสลาก และยังไม่ได้สมัคร GHB ALL ต้องทำการเปิดบัญชีสลากออมทรัพย์ และบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ สำหรับเป็นบัญชีคู่โอน และลงทะเบียนสมัครใช้ GHB ALL ที่สาขาของธนาคารก่อน

หลังจากนั้น สามารถโอนเงินจากบัญชีใดก็ได้ เข้าบัญชีออมทรัพย์ ที่ผูกกับ GHB ALL เพื่อทำการซื้อสลากใน GHB ALL ผ่านเมนูสลากออมทรัพย์ ธอส. โดยสามารถซื้อสลาก ตามจำนวนที่ต้องการ ได้ด้วยตนเอง และเมื่อซื้อสลากสำเร็จแล้ว สามารถเรียกดูใบสลาก และรายละเอียดสลากที่ซื้อได้ โดยไม่ต้องเดินทางไปสาขา

  • กรณีซื้อสลาก ณ ที่ทำการสาขา

สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยซื้อสลากออมทรัพย์ ธอส. ต้องทำการเปิดบัญชีสลากออมทรัพย์ และเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ สำหรับเป็นบัญชีคู่โอน พร้อมทำการซื้อสลากตามจำนวนที่ต้องการ โดยสามารถรับใบสลากได้ทันที ที่สาขา (หากมีบัญชีสลากและบัญชีเงินฝากออมทรัพย์อยู่แล้วไม่ต้องเปิดบัญชีใหม่)

พร้อมกันนี้ ธอส. ได้มอบหมายให้ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นผู้ดำเนินการออกรางวัล สลากออมทรัพย์ชุดเกล็ดดาว ด้วยขั้นตอนและกระบวนการ ตามมาตรฐานสากล ISO 9001:2015 เช่นเดียวกับสลากออมทรัพย์ชุดอื่น ๆ ของธนาคาร

นายฉัตรชัย ยังกล่าวถึง ผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 30 กันยายน 2563 ว่า ธอส. ยังคงมีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยปล่อยสินเชื่อใหม่ได้จำนวน 155,980 ล้านบาท 96,634 บัญชี เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.90%

ขณะที่ ณ สิ้นไตรมาสที่ 3/2563 เทียบกับ ณ สิ้นปี 2562 ธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้างรวม 1,283,986 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.18% สินทรัพย์รวม 1,350,514 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.51% เงินฝากรวม 1,109,028 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.60% หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จำนวน 49,484 ล้านบาท คิดเป็น 3.85% ของยอดสินเชื่อรวม ลดลงจากสิ้นปี 2562 ที่มี NPL อยู่ที่ 4.09%

ในส่วนของกำไรสุทธิอยู่ที่ 8,415 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 18.45% และอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งโดยอยู่ที่ 15.09% ซึ่งสูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด

นอกจากนี้ ณ วันที่ 30 กันยายน 2563 ธนาคารยังได้ตั้งสำรองส่วนเกินแล้วจำนวน 5,552 ล้านบาท เพื่อรองรับการเลื่อนชั้นหนี้ และรองรับดอกเบี้ยที่รับรู้ตามเกณฑ์คงค้าง ทั้งตามเกณฑ์ปกติ และลูกหนี้ตามมาตรการช่วยเหลือลูกค้า ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทั้ง 10 มาตรการ

ปัจจุบัน ธอส. มีลูกค้าเข้ามาตรการช่วยเหลือ 423,380 บัญชี เงินต้นคงเหลือ 369,453 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มสิ้นสุดระยะเวลาความช่วยเหลือของมาตรการระยะที่ 1 ในวันที่ 31 ตุลาคม 2563 และสิ้นสุดความช่วยเหลือระยะที่ 2 ในวันที่ 31 มกราคม 2564 ไว้แล้ว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo