Politics

อ่านข้อเท็จจริง! ทำไมต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง

ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง อ่านข้อเท็จจริง! ทำไมต้องประกาศ ชี้มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า มีการกระทำที่มีความรุนแรงจนกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ

สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รายงานว่า วันนี้ (16 ตุลาคม 2563) เวลา 10.00 น. ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (นัดพิเศษ) เรื่อง การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2563 เวลา 04.00 นาฬิกา เป็นต้นไป ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ

ข้อเท็จจริง

1. โดยที่ได้ปรากฏข้อเท็จจริงว่ากลุ่มบุคคลที่เรียกตัวเองว่า “คณะราษฎร 2563” ซึ่งมีแกนนำที่สำคัญ อาทิ นายอานนท์ นำภา นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง นายกรกช แสงเย็นพันธ์ หรือ ปอ นายลภนพัฒน์ หวังไพสิฐ แกนนำกลุ่มนักเรียนเลว นายทัดเทพ เรืองประไพกิจเสรี หรือ ฟอร์ด นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว

และนางสาวจุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ ได้เชิญชวน ปลุกระดม และดำเนินการให้มีการชุมนุมสาธารณะโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะขึ้นในกรุงเทพมหานครจำนวนหลายครั้ง โดยล่าสุดได้ประกาศนัดชุมนุมในวันที่ 14 ตุลาคม 2563 เวลา 14.00 น ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน และต่อมาได้มีการเคลื่อนขบวนของผู้ชุมนุมมาปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลในช่วงดึกของวันดังกล่าว

2. ในช่วงที่มีการชุมนุม กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้กระทำการที่ล่วงละเมิดต่อบทบัญญัติของกฎหมายเกี่ยวกับการชุมนุมสาธารณะในหลายประการ และได้ใช้วิธีการและช่องทางต่าง ๆ ก่อให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวายและความไม่สงบเรียบร้อยของประชาชน รวมทั้งมีการกระทำที่กระทบต่อขบวนเสด็จพระราชดำเนิน

นอกจากนี้ยังมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำที่มีความรุนแรงจนกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยในชีวิตหรือทรัพย์สินของรัฐหรือบุคคล ทั้งยังกระทบโดยตรงต่อสัมฤทธิผลของมาตรการควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อันส่งผลกระทบโดยตรงต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศที่อยู่ในภาวะเปราะบางอีกด้วย

การดำเนินการที่ผ่านมา เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาการชุมนุมสาธารณะโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายของกลุ่ม “คณะราษฎร 2563” เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2563 นายกรัฐมนตรีจึงได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2563 เวลา 04.00 นาฬิกา เป็นต้นไป ส่งผลให้รัฐบาลสามารถควบคุมการชุมนุมมิให้เกิดความรุนแรง และไม่เป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ รวมทั้งความปลอดภัยในชีวิตหรือทรัพย์สินของรัฐหรือบุคคล

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง ดังกล่าว เป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ทำให้นายกรัฐมนตรี ไม่อาจขอความเห็นจากคณะรัฐมนตรี ได้ทันท่วงทีซึ่งสามารถดำเนินการได้ตามมาตรา 5 วรรคแรกแห่งพระราชบัญญัติกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2558

ดังนั้น เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และเอื้อประโยชน์ในการรักษาความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยในชีวิต หรือ ทรัพย์สินของรัฐหรือบุคคลให้ได้อย่างต่อเนื่อง จึงเห็นควรนำเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2563 เวลา 04.00 นาฬิกา เป็นต้นไป

ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 15 ตุลาคม 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร ความว่า

โดยที่ปรากฏว่า มีบุคคลหลายกลุ่ม ได้เชิญชวน ปลุกระดม และดำเนินการให้มีการชุมนุมสาธารณะ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะขึ้นในกรุงเทพมหานคร โดยใช้วิธีการและช่องทางต่างๆ ก่อให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นนวาย และความไม่สงบเรียบร้อยของประชาชน มีการกระทำที่กระทบต่อขบวนเสด็จพระราชดำเนิน

มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า มีการกระทำที่มีความรุนแรง กระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยในีวิตหรือทรัพย์สินของรัฐหรือบุคคล อันมิใช่การชุมนุมโดยสงบที่ได้รับการรับรองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาไทย อีกทั้งยังกระทบโดยตรงต่อสัมฤทธิผลของมาตรการควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อันส่งผลกระทบโดยตรงต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศที่อยู่ในภาวะเปราะบาง

กรณีจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีมาตรการเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหากรณีดังกล่าวให้ยุติได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที เพื่อให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายและรักษาความสงบเรียบร้อยและประโยชน์ส่วนรวม

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 และมาตรา 11 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2548 นายกรัฐมนตรีจึงให้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2563 เวลา 04.00 น. เป็นต้นไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo