ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (15 ต.ค.) ร่วงลง ท่ามกลางความกังวลว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะตกอยู่ในภาวะชะงักงัน หลังตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์พุ่งสูงเกินคาด และยังเกิดขึ้นเพียงวันเดียว หลัง “สตีเวน มนูชิน” ทำลายความหวังของตลาด เกี่ยวกับการได้ข้อตกลงอัดฉีดเศรษฐกิจรอบใหม่ ก่อนหน้าการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุด ที่ 28,366.66 จุด ปรับลงมา 147.34 จุด หรือ 0.52% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,462.58 จุด ลดลง 26.09 จุด หรือ 0.75% และดัชนีแนสแด็กที่ 11,640.50 จุด ลบ 128.22 จุด หรือ 1.09%
กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 898,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคมเป็นต้นมา และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 830,000 ราย หลังจากอยู่ที่ระดับ 845,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ดี ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ยังอยู่ต่ำกว่าระดับ 1 ล้านราย เป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน หลังจากพุ่งเหนือระดับ 1 ล้านรายเป็นเวลานาน 5 เดือน นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ตัวเลขว่างงานดังกล่าว เพิ่มความรู้สึกด้านลบให้กับตลาด ที่ยังเกาะติดกับความผิดหวัง จากการที่นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ ยอมรับก่อนหน้านี้ว่า ทำเนียบขาวและพรรคเดโมแครต อาจไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ ขณะที่พรรคเดโมแครต และรีพับลิกันยังคงมีความขัดแย้งกันในหลายประเด็น ซึ่งรวมถึงวงเงินในมาตรการดังกล่าว
นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาไปยังรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ของบรรดาบริษัทจดทะเบียน ซึ่งผลสำรวจพบว่า นักลงทุนส่วนใหญ่มีความเชื่อมั่นถึงรายได้ที่แข็งแกร่งลดลง โดยมีผู้ที่เชื่อว่า รายได้ภาคธุรกิจในไตรมาสนี้จะดีขึ้นเพียง 18.9% เท่านั้น ลดลงจากการสำรวจก่อนหน้านี้ที่อยู่ระดับ 25%
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด’ คาดเศรษฐกิจไทยปีนี้ดิ่งหนัก สั่งจับตาการเมืองใกล้ชิด!
- ‘คุมระบาด-ความสามารถรัฐ’ กุญแจสำคัญ เศรษฐกิจ ‘เอเชียตะวันออก’ ฟื้นตัวยั่งยืน
- หวั่นเศรษฐกิจถดถอย! ฉุดดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุนซบเซาต่อเนื่อง