Politics

‘บิ๊กป้อม’ ยกเลิกทุกภารกิจ ตั้งวอร์รูมเตรียมรับมือม็อบคณะราษฎร!

“พล.อ.ประวิตร” ยกเลิกทุกภารกิจ ใช้มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด เป็นที่ประชุมตั้งวอร์รูมคุม “ม็อบคณะราษฎร”

มีรายงานข่าวจากฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ยกเลิกภารกิจการประชุมและตรวจเยี่ยมมอบนโยบาย และติดตามผลการดำเนินงานของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ หรือ กอนช. ภายหลังมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินรุนแรงในเขตท้องที่ และแต่งตั้งให้พล.อ.ประวิตร เป็นผู้กำกับการปฏิบัติงานหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง

ประวิตร15101

ข่าวแจ้งว่า ได้มีการเรียกหน่วยงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้องเข้าหารือร่วม เพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองภายในมูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออก ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีความร้ายแรงในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ พร้อมประกาศ 4 ฉบับว่า สำหรับเหตุผล และความจำเป็นที่ต้องประกาศ เพื่อให้เกิดความสงบเรียร้อยในประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ และเพื่อป้องกันเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นได้ในอนาคต

โดยจะเห็นจากเหตุการณ์เมื่อวานนี้ (14 ต.ค.) ที่มีเหตุการณ์ที่มีผลกระทบกับชาวไทยจำนวนมาก จากกรณีการชุมนุมที่กระทบขบวนเสด็จพระราชดำเนิน และมีการก้าวล่วงสถาบัน โดยการใช้วาจาปลุกปั่นก้าวล่วง ดังนั้น รัฐบาลป้องกันไม่ให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างคนไทยด้วยกันเอง เพราะจะเห็นว่า หลายส่วนไม่ต้องการให้กลุ่มชุมนุมก้าวล่วงและพาดพิง  รวมทั้งไม่ต้องการเหตุการณ์การแบบเมื่อวานขึ้นอีก

อนุชา15101

ดังนั้น รัฐบาลจึงจำเป็นต้องรักษาความสงบเรียบร้อยและป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ รัฐบาลจึงต้องขอความร่วมมือประชาชนให้ระมัดระวังการดำเนินการต่างๆ หลังจากนี้ไป โดยมีข้อกำหนดได้แก่

  1. ห้ามมิให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุมตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป หรือกระทำการใด อันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย
  2. ห้ามเสนอข่าว จำหน่าย หรือทำให้แพร่หลายซึ่งหนังสือ สิ่งพิมพ์ หรือสื่ออื่นใด รวมตลอดทั้งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์บรรดาที่มีข้อความอันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว หรือเจตนาบิดเบือนข้อมูล
  3. ห้ามใช้เส้นทางคมนาคม หรือยานพาหนะ หรือให้ใช้เส้นทางคมนาคม หรือยานพาหนะโดยมีเงื่อนไข ตามที่หัวหน้าผู้รับผิดชอบประกาศกำหนด
  4. ห้ามใช้ เข้าไป หรืออยู่ในอาคารหรือสถานที่ใดๆ และให้ออกจากอาคาร หรือสถานที่ใด ๆ ตามที่หัวหน้าผู้รับผิดชอบประกาศกำหนด

อย่างไรก็ตาม เรื่องเหล่านี้ รัฐบาลมีความกังวลจึงต้องป้องกันเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต และเพื่อป้องกันการเผชิญหน้ากลุ่มที่มีความเห็นต่างกัน ซึ่งคิดว่า การพูดคุยกันในเวทีรับฟังความคิดเห็นสามารถทำได้ รัฐบาลอยากให้ผู้ชุมนุมเคารพในสิทธิและเสรีภาพส่วนรวมด้วย

โดยเฉพาะปัจจุบัน ยังอยู่ในช่วงเฝ้าระวังโควิด-19 และด้านเศรษฐกิจ ที่หลายส่วนย้ำว่า ถ้ามาตรการที่จะออกมาและมาตรควบคุมโรคที่ได้รับความชื่นชมจากต่างประเทศ จะไม่ประสบความสำเร็จหากในประเทศไม่สงบเรียบร้อย ดังนั้น ขอให้ระมัดระวังเรื่องที่เกิดกระทบกระทั่งกับปัญหาเหล่านี้ด้วยและเพื่อไม่ให้เกิดการเผชิญหน้า

นายอนุชา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ที่สำคัญในโซเชียลมีเดียที่ ต้องขอให้ระมัดระวังการโพสต์ข้อความและความเห็นต่างๆ เพราะตอนนี้ไม่ใช่แค่เรื่องชุมนุมอย่างเดียว แต่มีการใช้โซเชียลในทางที่ไม่ถูกต้อง ในส่วนของแกนนำหรือผู้กระทำผิดกฎหมายก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ แต่รัฐบาลขอให้ทุกคนร่วมมือในการรักษาความสงบเรียบร้อย เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo