World News

สหรัฐจี้ ‘ทวิตเตอร์’ ยกเครื่องความปลอดภัยไซเบอร์

สหรัฐแนะ ทวิตเตอร์ ยกเครื่องความปลอดภัยไซเบอร์ หลังการตรวจสอบพบ โซเชียลมีเดียยอดนิยมรายนี้ ไม่มีการป้องกันความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เพียงพอ ทั้งยังไม่มีหัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของข้อมูล จากกรณีบัญชีผู้ใช้งาน ที่เป็นบริษัทคริปโตเคอเรนซีหลายแห่ง และบุคคลสาธารณะ ที่มีชื่อเสียงหลายรายถูกแฮ็กเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา 

ลินดา เอ. เลซเวลล์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริการทางการเงิน ที่ถูกอ้างถึงในรายงานการสอบสวน โดยกระทรวงบริการทางการเงินแห่งรัฐนิวยอร์ก (DFS) ระบุว่า แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย กลายมาเป็นแหล่งข่าว และแหล่งข้อมูลชั้นนำอย่างรวดเร็ว แต่ทวิตเตอร์ กลับไม่มีผู้ควบคุมดูแลความปลอดภัยทางไซเบอร์ ให้กับผู้ใช้งานอย่างเพียงพอ  ข้อเท็จจริงที่ว่า ทวิตเตอร์สุ่มเสี่ยงต่อการถูกโจมตีที่ไม่ทันสมัย และซับซ้อน แสดงให้เห็นว่าการกำกับดูแลด้วยตัวเองไม่ใช่คำตอบ

ทวิตเตอร์ ยกเครื่องความปลอดภัยไซเบอร์

รายงานระบุว่า แฮกเกอร์หลายรายเข้าถึงระบบของทวิตเตอร์ ด้วยการโทรศัพท์หาพนักงานของบริษัท และอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากแผนกไอทีของทวิตเตอร์

หลังจากแฮกเกอร์หลอกพนักงาน 4 คน ให้แจ้งข้อมูลเพื่อเข้าสู่ระบบแก่พวกเขา พวกเขาได้ขโมยบัญชีทวิตเตอร์ของนักการเมือง คนดัง และผู้ประกอบการหลายราย รวมถึงอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา, คิม คาร์เดเชียน เวสต์, เจฟ เบโซส,  อีลอน มัสก์ และบริษัทคริปโตเคอเรนซีหลายแห่ง ซึ่งบัญชีเหล่านี้มีผู้ติดตามหลายล้านคน

“การเลือกตั้งกำลังใกล้เข้ามาในอีกไม่ถึง 30 วัน เราต้องมุ่งมั่นกำกับดูแลบริษัทโซเชียลมีเดียขนาดใหญ่ให้มากขึ้น เพราะความสมบูรณ์ของการเลือกตั้งและตลาดของเรายึดโยงอยู่กับสิ่งนี้ จะเห็นได้ว่าการตอบสนองที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพของบริษัทระบบเงินตราเข้ารหัสที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกระทรวงฯ มีการกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพซึ่งสามารถส่งเสริมนวัตกรรมและการเติบโต และปกป้องผู้บริโภคไปพร้อมกันได้มากเพียงใด” เลซเวลล์กล่าว

กระทรวง กำลังออกรายงานฉบับนี้ เพื่อ “แจ้งเตือนผู้บริโภคและผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ระหว่างที่พวกเขาตระเตรียมจะใช้สิทธิขั้นพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตยแบบอเมริกัน ในการเลือกตั้งที่จะมีผลสืบเนื่องมากที่สุดครั้งหนึ่งในหลายชั่วอายุคน”

รายงานยังเน้นย้ำว่า ทวิตเตอร์ ต้อง ยกเครื่องความปลอดภัยไซเบอร์ โดยกลุ่มบริษัทโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ ซึ่งมีแพลตฟอร์มเข้าถึงผู้คนนับล้านทั่วโลก ควรได้รับการกำหนดให้เป็นสถาบันที่มีความสำคัญเชิงระบบ ด้วยการตั้งกฎระเบียบที่รอบคอบเพื่อจัดการกับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เพิ่มสูงขึ้น

เมื่อปี 2562 ทวิตเตอร์มีผู้ใช้งานเฉลี่ยมากกว่า 330 ล้านคนต่อเดือน โดยข้อมูลของศูนย์วิจัยพิว ระบุว่า ร้อยละ 71 ของชาวอเมริกันบนทวิตเตอร์ ใช้แพลตฟอร์มนี้ติดตามข่าวสาร และร้อยละ 42 ของชาวอเมริกัน ใช้ทวิตเตอร์เพื่อพูดคุยเรื่องการเมือง

ทวิตเตอร์ ยกเครื่องความปลอดภัยไซเบอร์

ทวิตเตอร์ ยกเครื่องความปลอดภัยไซเบอร์ หลังเจอแฮกเกอร์ป่วน

รายงานดังกล่าวมีขึ้น หลังเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา บัญชีทวิตเตอร์ของบุคคลสำคัญในสหรัฐ จำนวนมากถูกแฮกพร้อมกัน เพื่อเผยแพร่ข้อความหลอกลวงให้โอนเงินสกุลบิตคอยน์ หรือคริปโตเคอร์เรนซี

ข้อความเท็จดังกล่าวชักชวนให้ผู้คนส่งเงินคริปโตเคอร์เรนซีให้เหล่าคนดัง ตามบัญชีที่ให้ไว้ ภายใต้คำล่อลวงที่ว่า “การลงทุน” ของพวกเขาจะได้รับผลตอบแทนคืนเป็นสองเท่า

มหาเศรษฐีบิลล์ เกตส์ ผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญของสหรัฐ ที่เป็นเป้าหมายของแฮกเกอร์  ซึ่งตัวแทนของบิลล์ เกตส์ ยืนยันว่า “ทวีตนี้ไม่ได้ถูกส่งโดยบิลล์ เกตส์ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นปัญหาใหญ่ที่ทวิตเตอร์กำลังเผชิญ ทางทวิตเตอร์รู้ตัวแล้วและกำลังแก้ไขบัญชี”

ทวิตเตอร์เข้ามารับมือเหตุการณ์ดังกล่าว โดยฝ่ายสนับสนุนของบริษัทระบุว่า ตระหนักถึงปัญหาความปลอดภัย ที่ส่งผลกระทบต่อบัญชีทวิตเตอร์ โดยกำลังเร่งตรวจสอบและดำเนินการแก้ไข และจะอัปเดตให้ทุกฝ่ายทราบในไม่ช้า  พร้อมเสริมว่าผู้ใช้ทวิตเตอร์ อาจไม่สามารถทวีตข้อความ หรือรีเซ็ตรหัสผ่านได้ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและแก้ไขเหตุการณ์

คริสแทปส์ รองกา หัวหน้าผู้บริหารของ เนมซิโล (Namesilo) ซึ่งเป็นเว็บไซต์จดทะเบียนโดเมนที่นักต้มตุ๋นใช้ บอกกับเว็บไซต์เทค เคิร์ช สำนักข่าวเทคโนโลยีของสหรัฐว่า เว็บไซต์ของพวกเขาถูกถอดออกจากระบบอย่างรวดเร็ว เพราะทางบริษัทระงับโดเมนทันทีตั้งแต่ได้รับรายงาน

ในบัญชีที่ถูกแฮกนั้นยังรวมถึง แอปเปิล บริษัทเทคโนโลยี, อูเบอร์ บริษัทด้านการขับขี่และการจัดส่ง, โจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี, อดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา, เจฟฟ์ เบโซส ผู้ร่วมก่อตั้งอเมซอนดอทคอม, อีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งเทสลา และสเปซเอ็กซ์ และนักลงทุนในตำนานวอร์เรน บัฟเฟตต์

CnybnyE005033 20180706 NYMFN0A001 11n 1

การโดนแฮ็กข้อมูลข้างต้น ยังเกิดขึ้นหลังจากก่อนหน้านั้น ทวิตเตอร์ เพิ่งประกาศเปิดศูนย์ ทวิตเตอร์ ไพรเวซี เซนเตอร์ (Twitter Privacy Center) แห่งใหม่เพื่อแสดงให้เห็นถึงวิธีการดำเนินมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนตัวของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง

ทวิตเตอร์ ระบุว่าแพลตฟอร์มนี้จะ เป็นพื้นที่ส่วนกลางให้กลุ่มผู้บริโภคได้รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทวิตเตอร์ด้านการปกป้องข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของคุณ รวมถึงความรับผิดชอบาต่อผู้ใช้งานด้วยความโปร่งใส”

ศูนย์แห่งนี้จะให้บริการข้อมูลทุกด้านที่เกี่ยวกับแผนริเริ่มของทวิตเตอร์ คำประกาศต่างๆ ผลิตภัณฑ์ด้านความเป็นส่วนตัวใหม่ๆ รวมถึงการสื่อสารเกี่ยวกับเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย

ทวิตเตอร์จะแจกแจงให้ผู้ใช้ทราบว่าทางบริษัทเก็บ และใช้ข้อมูลของผู้บริโภคอย่างไร พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ควบคุมข้อมูลส่วนตัวได้มากขึ้น รวมถึงสามารถดาวน์โหลดข้อมูลของตนเองได้

“ทุกคนบนทวิตเตอร์ ควรควบคุมข้อมูลของตนเองได้ ว่าจะแบ่งปันข้อมูลส่วนใดให้กับเรา และมีความเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเมื่อแบ่งปันแล้ว ข้อมูลเหล่านั้นจะถูกนำไปใช้อย่างไรบ้าง” ทวิตเตอร์ระบุ

พร้อมกันนั้น ทวิตเตอร์ยังเผยนโยบายด้านความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ทั่วโลกที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญหลายประการ และจะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2563

ทวิตเตอร์ ยกเครื่องความปลอดภัยไซเบอร์

ภายใต้นโยบายใหม่นี้ ทวิตเตอร์จะโยกย้ายบัญชีผู้ใช้นอกสหรัฐ และสหภาพยุโรปมาอยู่ภายใต้การจัดการของบริษัท Twitter, Inc. ซึ่งเป็นสำนักงานที่ตั้งอยู่ในซานฟรานซิสโก แคลิฟอร์เนีย จากเดิมที่เคยอยู่ภายใต้ Twitter International Company บริษัททวิตเตอร์ในไอร์แลนด์

การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้สืบเนื่องจากความต้องการของทวิตเตอร์ในการขยายพื้นที่ทดลองฟีเจอร์ และการตั้งค่าใหม่ๆ เพื่อให้กลุ่มผู้บริโภคสามารถควบคุมตามความต้องการและความคาดหวังของตนได้ เช่น การตั้งค่าการเลือกเข้าร่วมหรือการยกเลิกเพิ่มเติม หรือความต้องการด้านความเป็นส่วนตัวต่างๆ ซึ่งจะถูกจำกัดโดยกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสหภาพยุโรป (GDPR) ที่มีการบังคับใช้อย่างแพร่หลายในยุโรป

อนึ่ง ทวิตเตอร์ระบุว่ากฎหมายใหม่เกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของยุโรปไม่มีความยืดหยุ่นมากพอในการจัดการกับข้อมูลส่วนตัวของกลุ่มผู้บริโภค

ที่มา : สำนักข่าวซินหัว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo