แคร์ เดวี่ (Clair Deevy) ผู้อำนวยการงานด้านสังคมประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกและละตินอเมริกาจากเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นอีกผู้หนึ่งที่อยู่กับดาต้าจำนวนมากเผยว่า หน้าที่ของเฟซบุ๊กคือการเชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน ไทยเป็นอีกประเทศหนึ่งที่สร้างดาต้าให้กับแพลตฟอร์มของเฟซบุ๊กมามากมาย ตั้งแต่ยุคแรกของเฟซบุ๊กที่เน้นข้อความเป็นหลักมาสู่ยุคของการโพสต์ภาพ การโพสต์วิดีโอ ซึ่งในอนาคต แคร์เผยว่า อาจเป็นการใช้ AR – VR ในการเชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน เช่น เราอาจอยู่ที่บ้าน และโทรหาคุณตาคุณยายที่อยู่ไกลออกไปด้วยแว่น VR
ปัจจุบัน แคร์เผยว่า ประเทศไทย เฟซบุ๊กมีผู้ใช้งาน 35 ล้านคนต่อวัน และ 52 ล้านคนต่อเดือน โดย 51 ล้านคนในจำนวนนี้เข้าถึงเฟซบุ๊กผ่านโทรศัพท์มือถือ แต่ในการทำสำรวจของเฟซบุ๊กยังพบด้วยว่า ธุรกิจ SME ถึง 80% สามารถเพิ่มฐานลูกค้าได้ผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งทำให้เห็นว่า มีความเข้าใจในดาต้าและคุ้นเคยกับการวิเคราะห์ดาต้าเกิดขึ้นมานานแล้วในหมู่ SME ไทย
แคร์ชี้ว่า ข้อมูลที่อยู่บนแพลตฟอร์มของเฟซบุ๊กยังมีประโยชน์ในอีกหลายด้าน หนึ่งในนั้นคือเครื่องมืออย่าง Community Help ที่สามารถให้ผู้คนเสนอความช่วยเหลือกันเองได้บนแพลตฟอร์ม โดยเมื่อเกิดภัยพิบัติ จะมีผู้คนที่บอกว่าตัวเองประสบภัยอยู่ที่ไหนบ้างปรากฏอยู่บนแผนที่ และจะมีคนที่เห็นความเดือดร้อนนั้นและเสนอความช่วยเหลือ แต่ไม่ใช่แค่ให้ผู้คนช่วยเหลือกัน หน่วยงานอย่างสภากาชาด ยังสามารถเข้าถึงคนที่ประสบภัยได้อย่างรวดเร็วด้วย
“เหล่านี้คือวิชันของเฟซบุ๊กเกี่ยวกับการใช้ดาต้าในประเทศไทย โดยที่บทบาทของเฟซบุ๊กก็คือเป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อนั่นเอง” แคร์กล่าวปิดท้าย
