Social

ครูภาษาไทยใจเด็ด! ป้องลูกศิษย์พาเด็กม.2 แจ้งความตำรวจจับผอ.

ครูภาษาไทย ปกป้องลูกศิษย์ พานักเรียนชั้น ม.2 เข้าแจ้งความกับตำรวจ ถูกผู้อำนวยการโรงเรียนลวนลาม ลั่นดำเนินคดีถึงที่สุด เรียกร้องย้ายผู้อำนวยการโดยด่วน!

ที่ สภ.บ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ครูภาษาไทย โรงเรียนแห่งหนึ่ง จ.ขอนแก่น พานักเรียนหญิงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 5 คน เข้าแจ้งกับ ร.ต.อ.ประนอม มะลาหอม สว.(สอบสวน) สภ.บ้านไผ่ หลังนักเรียนหญิงทั้ง 5 คน ถูกผู้อำนวยการโรงเรียนลวนลาม จึงได้ตัดสินใจพานักเรียนเข้าแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สืบสวนสอบสวน และดำเนินคดีตามกฎหมาย

ขอนแก่น1 1

โดยเด็กหญิงทั้ง 5 คน ให้การตรงกันว่า ถูกผู้อำนวยการโรงเรียน มักจะมาโอบกอด ลูบไล้ที่แขน ที่หลัง และถามว่า มีเงินใช้หรือไม่ ถ้าไม่มีให้เข้าไปหาที่ห้องทำงาน  ถามว่ามีแฟนกันหรือยัง ทุกคนเชื่อว่าการกระทำดังกล่าว คือการลวนลาม ไม่ใช่ความเอ็นดูที่ครูมีต่อนักเรียน จึงนำเรื่องบอกผู้ปกครองและบอกครูภาษาไทย  ผู้ปกครองมอบให้ครูภาษาไทย เป็นตัวแทนพานักเรียนเข้าแจ้งความ จะไม่มีการยอมความ ทั้งยังขอเรียกร้องให้ย้ายผู้อำนวยการออกจากโรงเรียนโดยเร็วที่สุด

ขอนแก่น
ภาพ:เฟซบุ๊ก ตี๋ปังตอ สุขกระโทก

ด้านครูภาษาไทย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนทราบเรื่องจากนักเรียนหญิงชั้น ป.6 มาก่อน และทราบว่ามีนักเรียนหญิงระดับชั้น ม.1 ม.2 และ ม.3 ถูกกระทำด้วยพฤติกรรมเดียวกันคือโอบกอดลูบไล้ และจับมือถือแขน รวมทั้งพายามให้เงินแต่นักเรียนไม่รับ ซึ่งเมื่อทราบเรื่องจากนักเรียน ม.6 ขณะนั้นยังไม่ได้สอบถามรายละเอียดเพิ่ม กระทั่งนักเรียนหญิงชั้น ม.2 ทั้ง 5 คน มาแจ้งที่ห้องทำงานว่าถูก ผอ. ลวนลาม จึงได้สอบถามรายละเอียดต่าง ๆ อย่างจริงจัง ซึ่งนักเรียนทุกคนยืนยันว่าเป็นการลวนลามจริงไม่ใช่ผู้ใหญ่เอ็นดูเด็ก

ครูสาว
ภาพ:เฟซบุ๊ก ตี๋ปังตอ สุขกระโทก

ครูภาษาไทย กล่าวว่า สิ่งที่นักเรียนบอกเล่ามา ถ้าไม่ใช่เรื่องจริง นักเรียนคงไม่พูด คงไม่ยืนยันเช่นนี้  ส่วนตัวเชื่อว่า นักเรียนคงไม่แต่งเรื่องมากลั่นแกล้งผู้อำนวยการ เพราะนักเรียนหญิงหลายคนมาเล่าให้ฟัง แต่ไม่กล้ามาแจ้งความ เพราะผู้ปกครองกลัวเรื่องราวอื่นๆจะตามมา เนื่องจากนักเรียนหญิงทั้ง 5 คน ถูกครูในโรงเรียนข่มขู่ว่า ถ้าแจ้งความจะย้ายให้ไปเรียนที่อื่น ทำให้นักเรียนรายอื่นๆไม่กล้าแจ้งความ ส่วนตัวเองในฐานะครู คิดว่า ขณะนี้เพียงแค่การลวนลามควรปกป้องลูกศิษย์ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น และไม่ได้กลั่นแกล้งใคร ส่วนจะจริงไม่จริง ตำรวจต้องมีการตรวจสอบและสอบสวนตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight