Politics

เตรียมพร้อม! ประกาศเตือนพายุลูกใหม่ จ่อทวีกำลังเป็นโซนร้อนวันนี้

พายุลูกใหม่ “กรมอุตุนิยมวิทยา” ประกาศเตือนพายุจ่อทวีกำลังแรงขึ้นเป็น “โซนร้อน” ในวันนี้ “นายกรัฐมนตรี” สั่งทุกหน่วยเตรียมความพร้อม เตือนประชาชนติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 14 – 16 ต.ค. 2563)
ฉบับที่ 1 ลงวันที่ 12 ตุลาคม 2563

เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันนี้ (12 ตุลาคม 2563) พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางที่ละติจูด 17.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 116.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว ประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

พายุลูกใหม่

ทั้งนี้ คาดว่า จะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุระดับ 3 (โซนร้อน) ในวันนี้ มีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าผ่านเกาะไหหลำ เข้าสู่ประเทศเวียดนามตอนบน ในช่วงวันที่ 14 – 15 ตุลาคม 2563 โดยจะทำให้มีฝนเพิ่มขึ้นในบริเวณด้านตะวันออกและตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อนึ่ง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ยังคงมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และควรงดการเดินเรือในระยะนี้

จึงขอให้ประชาชนติดตาม พายุลูกใหม่ และประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 12:00 วันนี้ ถึง 12:00 วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ เมฆบางส่วน กับมีฝน ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมฆมาก กับมีฝน ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ และสุรินทร์
อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 26-30 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง เมฆมาก กับมีฝน ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี
ราชบุรี สุพรรณบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และนครปฐม
อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออก เมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) เมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่จังหวัดขุมพรขึ้นมา : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) เมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 27-28 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เมฆมาก กับมีฝน ร้อยละ 30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 29-30 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

พายุลูกใหม่

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์สภาพอากาศ จังหวัดและการบรรเทาสาธารณภัย เตรียมพร้อมรับมือกับพายุลูกใหม่ที่คาดว่ามีกำลังแรงตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนภัย

“พายุระดับดีเปรสชั่นหลิ่นฟาได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง บริเวณเมืองอัตตะปือ สาธารณรัฐประชาธ ปไตยประชาชนลาวแล้ว ทำให้ด้านตะวันออกและตอนล่างของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดมุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พายุระดับดีเปรสชั่น บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อนในระยะต่อไป คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้เกาะไหหลำในช่วงวันที่ 13 – 14 ตุลาคมนี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีกำชับและสั่งการให้หน่วยงานและเจ้าหน้าที่เตรียมรับมือและป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายและผลกระทบการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน หากพื้นที่ใดคาดว่าจะได้ผลกระทบรุนแรงให้รีบแจ้งเตือน เช่น การยกสิ่งของขึ้นพื้นที่สูง หรือเตรียมอพยพหากจำเป็น เพื่อความปลอดภัย รวมทั้งหลีกเลี่ยงการสัญจร หากไม่จำเป็นเร่งด่วน

“นายกรัฐมนตรีขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลได้เฝ้าระวัง และสั่งทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมรับมือ เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน หากประชาชนมีข้อสงสัย สอบถามได้ที่สายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง” นายอนุชา กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK