Economics

คลังแจงดราม่า ‘ช้อปดีมีคืน’ ย้ำวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นการบริโภค

“กระทรวงการคลัง” แจงดราม่า “ช้อปดีมีคืน” ย้ำมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศ พร้อมยันดูแลประชาชนทุกคน และให้ความสำคัญแก่ทุกภาคส่วนอย่างเท่าเทียมกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ชี้แจงข้อวิจารณ์โครงการ “ช้อปดีมีคืน” โดยระบุว่า

ชี้แจงประเด็น : ข้อวิจารณ์โครงการช้อปดีมีคืน โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง

สาระสำคัญ : ชี้แจงประเด็นเกี่ยวกับข้อวิจารณ์โครงการช้อปดีมีคืน

แจกเงิน12101

1. นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) แสดงความเห็นต่อ “โครงการช้อปดีมีคืน” ว่าเป็นการแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจไม่ตรงจุดและขณะนี้ประชาชนไม่มีความสามารถในการใช้จ่ายเพื่อเอาภาษีคืน ดังนั้นผลประโยชน์จึงตกอยู่กับกลุ่มผู้มีรายได้สูง ซึ่งทำให้เห็นภาพความเหลื่อมล้ำชัดเจนมากขึ้น เพราะกลุ่มคนที่จะได้รับประโยชน์จากโครงการฯ ต้องมีรายได้ 300,000 ขึ้นไป

2. ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่าโครงการดังกล่าว ผู้ได้รับประโยชน์ส่วนใหญ่ น่าจะเป็นผู้ประกอบการขนาดใหญ่ที่อยู่ในระบบภาษี ส่วนผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) อาจไม่ได้รับประโยชน์โดยตรงเท่าใด

ข้อเท็จจริง : กระทรวงการคลังขอชี้แจงว่า มาตรการ “ช้อปดีมีคืน” เป็น 1 ใน 3 มาตรการเพื่อรักษาระดับการบริโภคในประเทศ นอกเหนือจาก โครงการคนละครึ่งและโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ของกระทรวงการคลัง ซึ่งทั้ง 3 มาตรการจะครอบคลุมประชาชนทุกภาคส่วนกว่า 28 ล้านคน และคาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจกว่า 192,000 ล้านบาท และคาดว่า GDP เพิ่มขึ้นประมาณ 0.54%

  • มาตรการ “ช้อปดีมีคืน” มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นการบริโภค ในประเทศ โดยสนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษี และประชาชนผู้ที่มีภาระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา รวมถึงการส่งเสริมการผลิตสินค้าท้องถิ่น ซึ่งเป็นเศรษฐกิจระดับฐานราก และส่งเสริมการอ่าน อันเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้
  • มาตรการ “ช้อปดีมีคืน” เน้นการสนับสนุนผู้ประกอบการ ที่อยู่ในระบบภาษี ไม่มีข้อกำหนดใดๆ ในเรื่องขนาด ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มทุกรายล้วนแล้วอยู่ในข่ายที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการทั้งสิ้น
  • “โครงการคนละครึ่ง” ซึ่งเป็นอีกโครงการภายใต้ความรับผิดชอบของกระทรวงการคลังที่จะดูแลช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าขนาดเล็กที่ประกอบกิจการขายสินค้าหาบเร่แผงลอยที่เป็นบุคคลธรรมดา ซึ่งขณะนี้มีร้านค้าเข้าร่วมโครงการกว่า 226,161 ร้าน (ข้อมูล ณ วันที่ 10 ตุลาคม 2563)
  • “โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือ ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 14 ล้านคน โดยการเพิ่มวงเงินพิเศษสำหรับซื้อสินค้าบริโภคอุปโภคสำหรับซื้อสินค้าบริโภคอุปโภคที่จำเป็น 500 บาท/คน/เดือน 3 เดือน (ต.ค. – ธ.ค. 63) ซึ่งกระทรวงการคลังได้ทำการโอนเงินงวดแรกแล้วเมื่อวัน 8 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา
  • กระทรวงการคลังดูแลประชาชนทุกคนให้โดยความสำคัญแก่ทุกภาคส่วนอย่างเท่าเทียมกัน กระทรวงการคลังจะมีการติดตามทุกมาตรการ/โครงการอย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะกำหนดมาตรการที่เหมาะสมเพื่อดูแลเศรษฐกิจไทยอย่างทันท่วงทีเมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป ทั้งนี้ ขอให้ติดตามรายละเอียดมาตรการ “ช้อปดีมีคืน” ภายหลังผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK