Politics

‘รมว.มหาดไทย’ สั่งเตรียมรับมือพายุ ‘หลิ่นฟา’ ระดมกำลังป้องกัน!

“รมว.มหาดไทย” กำชับ 5 แนวทางเตรียมรับมือพายุ “หลิ่นฟา” ทั่วประเทศ สั่งระดมกำลังป้องกัน – ช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ผบ.บกปภ.ช.) เปิดเผยว่า กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้ติดตามสภาพอากาศร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า พายุระดับ 3 (โซนร้อน) “หลิ่นฟา” ได้เคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองกวางงาย ประเทศเวียดนามแล้ว มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลาง 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

อนุพงษ์1110

ซึ่งพายุนี้มีแนวโน้มอ่อนกำลังลงเป็นพายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) และพายุระดับ 1 (หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง) ตามลำดับ และส่งผลกระทบให้ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้น สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทย จะมีกำลังแรงในช่วงวันที่ 11 – 12 ตุลาคมนี้ ทำให้ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวอีกว่า เพื่อให้การรับมือผลกระทบจากสถานการณ์พายุ “หลิ่นฟา” เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้สั่งการไปยังกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดทุกจังหวัดถือปฏิบัติตามแนวทางการเผชิญเหตุโดยเคร่งครัด และให้ความสำคัญในการดำเนินการตามแนวทาง 5 ด้าน ได้แก่

1. ให้คณะทำงานติดตามสถานการณ์ของจังหวัด ติดตาม ประเมินสถานการณ์และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ให้ครอบคลุมทุกมิติ เพื่อเป็นข้อมูลสนับสนุนการตัดสินใจของผู้อำนวยการในแต่ละระดับ และหากมีแนวโน้มเกิดสถานการณ์รุนแรงในพื้นที่ ให้สั่งการอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยไปยังพื้นที่ปลอดภัยที่จัดเตรียมไว้โดยทันที

2. แจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยทราบถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งแจ้งแนวทางการปฏิบัติตนให้เกิดความปลอดภัย และช่องทางการรับความช่วยเหลือจากภาครัฐ พร้อมกำชับให้ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เครือข่ายอาสาสมัคร และประชาชนจิตอาสา ให้ความสำคัญกับการจัดเตรียมพื้นที่ปลอดภัยสำหรับรองรับประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบ

121163262 1586573074865238 3391999509482943780 o

3. ให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทุกระดับ เตรียมความพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ เครื่องจักรกลสาธารณภัย อาทิ เครื่องสูบน้ำ เรือยนต์กู้ภัย เรือท้องแบน รถสูบส่งน้ำระยะไกล รถปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัย ฯลฯ ให้มีความพร้อมในการเผชิญเหตุช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง

4. ให้แบ่งมอบพื้นที่ ภารกิจ หน่วยงานรับผิดชอบให้ชัดเจนตามแผนเผชิญเหตุอุทกภัย โดยให้ความสำคัญกับการเร่งแก้ไขปัญหาพื้นที่ที่เกิดอุทกภัยซ้ำ ทั้งนี้ เมื่อเกิดเหตุสาธารณภัยในพื้นที่ ให้ระดมสรรพกำลังเร่งเข้าคลี่คลายสถานการณ์ และให้ความสำคัญกับการจัดระบบดูแลประชาชนให้มีสิ่งของจำเป็นในการดำรงชีพ การแจกจ่ายถุงยังชีพตามวงรอบ การจัดตั้งโรงครัวพระราชทานในการประกอบเลี้ยงเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

5. ในจังหวัดที่มีพื้นที่ติดชายทะเล ให้ฝ่ายปกครอง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำชับสถานประกอบการ โรงแรมในพื้นที่ชายทะเล เร่งสื่อสารให้นักท่องเที่ยวระมัดระวัง และห้ามลงเล่นน้ำในช่วงที่มีคลื่นลมแรง พร้อมประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานของกรมเจ้าท่า กองทัพเรือ และตำรวจน้ำในพื้นที่ ดำเนินการตามมาตรการที่กำหนด ในการนำเรือเข้าที่กำบัง และห้ามการเดินเรือช่วงมีคลื่นลมแรงโดยเคร่งครัด

“บกปภ.ช.ได้เน้นย้ำไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเร่งดำเนินการเตรียมการรับมือตามแผนเผชิญเหตุ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน โดยพี่น้องประชาชนสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือจากภาครัฐผ่านสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง” รมว.มหาดไทย กล่าว

สำหรับการพยากรณ์อากาศวันพรุ่งนี้ ประเทศไทยตั้งแต่เวลา 17:00 วันนี้ ถึง 17:00 วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดมุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ
นครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง เมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดราชบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และนครปฐม
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 26-29 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออก เมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) เมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-32 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) เมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 26-31 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 และมีฝนตกหนักบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo