COLUMNISTS

การเปลี่ยนแปลงธุรกิจ……สู่การใช้ดิจิทัล

กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทริส คอร์ปอเรชั่น จำกัด
1429

เมื่อพูดถึงยุคปัจจุบัน หรือ ยุค 4.0 นอกจากต้องพูดถึงเรื่องนวัตกรรมกับการเปลี่ยนแปลงแล้ว การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอีกอันหนึ่งที่เราต้องเผชิญทั้งโดยเต็มใจหรือโดยไม่เต็มใจก็ตาม คือ เรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือที่ปัจจุบันนิยมใช้คำว่าดิจิทัลกัน

หลายครั้งในระยะหลังเราจะได้ยินการใช้คำว่า “การปฏิรูประบบดิจิทัล” กัน ในที่นี้ขอเน้นไปที่สาระสำคัญคือการนำมาใช้มากกว่า จะเป็น “การปฏิรูป” หรือไม่ถือว่าเป็นเรื่องของแต่ละองค์กรแล้วกันว่าจะพลิกโฉมกันขนาดไหน

คำถามแรกที่จะถามกันคือคำถามพื้นฐานเลยว่าทำไม? เราไม่ทำได้หรือเปล่า? เป็นแค่กระแสหรือแฟชั่นหรือไม่? คำตอบของคำถามมันชัดเจนอยู่ในตัวด้วยคำตอบที่ว่า เพราะทุกวันนี้ธุรกิจจะต้องมีความคล่องตัวเพิ่มขึ้น, ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าที่ควรจะมีมากขึ้น หลากหลายขึ้น เร็วขึ้น, ประสิทธิภาพในการดำเนินงานที่จำเป็นต้องดีขึ้น ตลอดจนถึงส่วนแบ่งการตลาดที่จะต้องเพิ่มขึ้น ฯลฯ

คำตอบเหล่านี้เราไม่สามารถทำให้สำเร็จได้เลยถ้าไม่นำเจ้าดิจิทัลมาใช้ เหตุผลหลักง่ายๆ คือการบริหาร จัดการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องประสิทธิภาพเมื่อพูดถึงเรื่องการผลิต โรงงาน หรือความสามารถของพนักงาน จนถึงเรื่องการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ของธุรกิจล้วนต้องพึ่งข้อมูลเป็นตัวตั้งต้นที่สำคัญทั้งสิ้น ทางการบริหารเรียกว่า Management by Fact หรือ Informed Decision แต่ข้อมูลเฉยๆ ก็ไม่พอ ต้องเป็นข้อมูลที่ถูกย่อยวิเคราะห์มาแล้วเพื่อเอาไปใช้ประโยชน์โดยมนุษย์เพื่อทำงานหรือตัดสินใจ และโดยเครื่องจักร หุ่นยนต์เพื่อทำตามที่เราโปรแกรมมันไว้ “ข้อมูล” จึงเป็นตัวจุดชนวนสู่ความจำเป็นของดิจิทัลนั่นเอง

เราต้องใช้ตั้งแต่การรวบรวมข้อมูลที่ต้องเอาเทคโนโลยีที่ประมวลข้อมูลจำนวนมากเพื่อใช้ในการตัดสินใจยิ่งมากและลึกเท่าไหร่ยิ่งดีเรายิ่งได้เปรียบ ไปจนถึงเทคโนโลยีคลาวด์ ระบบเคลื่อนที่ต่างๆ พวกมือถือที่เรียกว่า Mobility และการใช้ Internet-of-Things (IoT) ฯลฯ ในปัจจุบันข้อมูลไหลมาเยอะมาก Sensor แต่ก่อนโรงงานละ 2-3 ตัว อย่างมากไม่เกิน 10 ตัวเพราะราคาแพงเป็นแสน ปัจจุบันมีเป็นร้อยในแต่ละโรงงานเพราะราคาถูกมาก ข้อมูลอื่นๆ ก็เช่นเดียวกัน

สิ่งที่อยากจะเน้นคือการรวบรวมข้อมูลนั้นค่อนข้างง่าย ไม่ยากเท่าไหร่ การจัดหา Software, Hardware มาประมวลผลข้อมูลก็เหมือนกันค่อนข้างง่าย ราคาไม่แพงเหมือนสมัยก่อน แต่การจะคิดว่าหรือรู้ว่าเราจะประมวลผลอะไรและผลที่มันประมวลออกมาแล้วเราจะเอาไปทำอะไรต่อให้ธุรกิจได้สิ่งที่ต้องการได้/ควรได้นั้น? ไม่ง่าย เพราะส่วนหลังนี้คือกึ๋นของ “คน” ที่ต้องตีโจทย์ออกมาเอง!

ดังนั้นก่อนจะเริ่มจึงควรรู้ตัวเองก่อนว่าเราต้องการอะไร? เอาไปทำไม? แล้วจึงค่อยตัดสินใจเดินหน้า เป็นเหตุให้เมื่อเราคิดแล้วทำแล้วจะทำให้เราจำเป็นต้องทบทวนรูปแบบการทำธุรกิจ กระบวนการทางธุรกิจ กระบวนการทำงาน/ผลิตที่มีอยู่ใหม่อีกครั้ง ซึ่งหมายถึงว่าทำให้เกิดการทำอะไรแบบใหม่ คิดแบบใหม่ที่เรียกว่านวัตกรรมของเราขึ้น อย่าลืมว่านวัตกรรมหรือความใหม่นั้นแค่ใหม่ในองค์กรเราถึงแม้จะเก่าจากที่อื่นก็เรียกว่ามีนวัตกรรมหรือความใหม่แล้ว เพียงแต่ระดับความใหม่อยู่ในระดับต่ำมากเท่านั้นเอง

สุดท้ายนี้เมื่อพูดถึงข้อมูลแล้วจำเป็นต้องพูดถึงเรื่องการปกป้องความเป็นส่วนตัว หรือ Privacy Protection รวมถึงความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ ข้อกำหนดต่างๆ หรือ Compliance นั่นเอง ที่จะมีตามมาด้วยกันและจะมีความสำคัญมากขึ้นๆ เนื่องจากแรงกดดันของสังคมโดยตรงและจากหน่วยงานผู้กำกับด้านกฎระเบียบก็จะมีการกำหนดกฎระเบียบและหลักเกณฑ์ที่เข้มงวดมากขึ้น เพื่อปกป้องข้อมูลผู้บริโภคและข้อมูลส่วนบุคคลให้ปลอดภัยมากขึ้น ทุกองค์กรเมื่อเริ่มกระบวนการดิจิทัลจึงจำเป็นต้องคำนึงถึงเรื่องนี้ให้มากเป็นอันดับต้นๆ