Economics

ขสมก.เคาะปรับโครงสร้างองค์กร ดึงฝ่ายตรวจสอบขึ้นตรงบอร์ด

news36272 855

ขสมก. เห็นชอบปรับโครงสร้างองค์กร ดึงฝ่ายตรวจสอบขึ้นตรงกับบอร์ด เตรียมยุบสำนักรถร่วม 1-2 ปีข้างหน้า  พร้อมตีกลับโครงการปรับปรุงรถเมล์ 323 คัน สั่งเขียนทีโออาร์ให้เปิดกว้าง

นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานกรรมการบริหารกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ประธานบอร์ด ขสมก.) เปิดเผยว่า วานนี้ (19 ก.ย.) ที่ประชุมบอร์ด ขสมก. มีมติเห็นชอบการปรับปรุงโครงสร้างองค์กร เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของแผนฟื้นฟูที่จะปรับลดพนักงานจาก 13,000 คน เป็น 8,000 คนในอนาคต

การปรับปรุงโครงสร้างหลักๆ ได้แก่ การลดขนาดของสำนักงานปฏิบัติการรถเอกชนร่วมบริการฯ ลงและสุดท้ายจะปิดแผนกนี้ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า เพราะ รถร่วมฯ ขสมก. จะย้ายไปอยู่ภายใต้การดูแลของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และการปรับโครงสร้างของพนักงานเก็บค่าโดยสารที่มีกว่า 4,000 คน ให้ค่อยๆ ลดลงในอนาคต เพราะ ขสมก. จะนำระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-Ticket) มาใช้แทนพนักงานเก็บค่าโดยสาร

นอกจากนี้จะมีการเพิ่มบทบาทและอัตรากำลังให้กับแผนกไอซีที เพราะ ขสมก. จะบริหารการเดินรถด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น รวมถึงได้ย้ายหน่วยงานตรวจสอบภายใน จากเดิมที่อยู่ภายใต้ฝ่ายบริหารงาน ให้มาขึ้นตรงต่อบอร์ดแทน ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางของบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ส่วนใหญ่

โดยที่ประชุมบอร์ดได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้น 1 ชุด เพื่อเกลี่ยพนักงานในองค์กรให้สอดคล้องกับโครงสร้างใหม่ดังกล่าว คาดว่าจะใช้เวลา 3 เดือนจึงเกลี่ยเสร็จและทราบว่า พนักงานส่วนใดขาดและส่วนใดเกิน

“คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นจะเกลี่ยพนักงานที่มีอยู่ให้เหมาะสมกับโครงสร้างใหม่ เช่น พนักงานเก็บค่าโดยสาร อาจเกลี่ยไปเป็นพนักงานขับรถหรือพนักงานในสำนักงานแทน คาดว่าการเกลี่ยคนจะเสร็จภายในปีนี้ ถ้าแผนกไหนเกลี่ยแล้วยังขาดคน ก็จะขอแก้ไขมติ ครม. เพื่อรับพนักงานเพิ่มเติม คาดว่าจะเริ่มเสนอเรื่องรับพนักงานได้ในต้นปีหน้า” นายณัฐชาติ กล่าว

นอกจากนี้จะเสนอโครงการสมัครใจจาก (early retire) เข้าที่ประชุมบอร์ดในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้พนักงานสมัครเข้าร่วมโครงการเออรี่รีไทร์ได้ตามความต้องการ ซึ่งโครงการเออรี่รีไทร์ จะดำเนินการคู่ขนานไปพร้อมกับการปรับโครงสร้างองค์กรและการขอรับพนักงานเพิ่มเติม โดย ขสมก. จะสรุปภาพรวมของการปฏิรูปด้านบุคลากรทั้งหมด ก่อนเสนอให้กระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป

ที่ประชุมบอร์ดวานนี้ (19 ก.ย.) ยังขอให้ ขสมก. ไปทบทวนเรื่องการเปิดประมูลปรับปรุงรถเมล์ฮีโน่ปรับอากาศ เครื่องยนต์เอ็นจีวีจำนวน 323 คัน วงเงินราว 135 ล้านบาท เนื่องจากต้องการให้เงื่อนไขการประมูล (TOR) เปิดกว้างมากขึ้นและมีขอบเขตงานที่ชัดเจน เพื่อไม่ให้มีปัญหาในตรวจรับ โดยคาดว่าจะแก้ไขทีโออาร์เสร็จและเสนอให้บอร์ดพิจารณาได้อีกครั้งในเดือนตุลาคมนี้

Avatar photo