จากกรณี “ซาร่า คาซิงกินี” ได้ออกมาแถลงทั้งน้ำตา เคลียร์ทุกประเด็นที่ถูกมองว่าใช้ลูกเป็นตัวประกันเรียกเงิน พร้อมทั้งยกเลิก 6 ข้อเรียกร้อง ขณะที่ “ไมค์ พิรัชต์” ได้ตัดสินใจถอนคำร้องสิทธิ์ในการปกครองบุตรร่วมแล้ว โดยให้เหตุผลว่า กลัวว่าเรื่องราวจะยืดเยื้อและส่งผลกระทบต่อลูกชาย จากนี้ตนจะขอเก็บเงินเข้าบัญชีของลูกเอง และจะมอบให้ในวันที่ลูกบรรลุนิติภาวะ ขอให้จบทุกเรื่องเพราะไม่อยากให้ลูกรู้สึกเจ็บปวดหากโตมาแล้วต้องเห็นข่าวที่เกิดขึ้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด (7 ต.ค.) “ซาร่า คาซิงกินี” ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องราวดังกล่าวอีกครั้งในรายการ วันบันเทิง ทางช่องวัน 31
-เมื่อวานตนได้พูดผ่านสื่อไปแล้วว่าเรามีนัดไกล่เกลี่ยอีกทีคือ 2 พ.ย. ถ้าอีกฝ่ายมีความคิดเห็นตรงกัน คืออยากให้เรื่องนี้จบเร็วที่สุดและเกิดผลประโยชน์ต่อลูกเราที่สุด ระหว่างนี้เราสามารถเจรจาพูดคุยกันได้ตลอด
-ก็รู้สึกขอบคุณที่เขาออกมาโพสต์แบบนั้น ขอบคุณที่เขาอยากจะทำให้เรื่องนี้มันจบเร็วๆ อย่างที่ตนก็คิดเหมือนกัน
-จากข้อความที่ไมค์บอกว่า จะขอเก็บเงินเข้าบัญชีของลูกเอง และจะมอบให้ในวันที่ลูกบรรลุนิติภาวะ อยากให้ทุกบาททุกสตางค์ที่หามาไปถึงลูกชายเพียงคนเดียว ตนเคารพการตัดสินใจของเขา เพราะ 6 ปีที่ผ่านมาเงินทุกบาททุกสตางค์ถึงน้องมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว
-เราพยายามกันแล้วที่จะให้เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบแต่ ณ วันนี้มันไปต่อกันไม่ได้ ที่ผ่านมาความรักของตนอาจจะล้มเหลว แต่ ณ วันนี้ตนอยากจะขอโอกาสได้ทำหน้าที่แม่ที่ตนทำมาตลอด 6 ปี เพราะเชื่อว่าตนเองไม่ได้บกพร่องในการทำหน้าที่แม่
-ตั้งแต่ตนมีแม็กซ์เวลล์ก็รู้อยู่แล้วว่าชีวิตจะต้องมีแค่ตนกับลูก ณ วันหนึ่งที่พ่อเขามีความเมตตาต่อน้องแล้วช่วยซัพพอร์ทมา ก็รู้สึกขอบคุณและดีใจแทนลูก
-หลังจากนี้มองว่ามันไม่ได้ต่างอะไรกับที่ผ่านมา 6 ปี ตนยังสามารถที่จะซัพพอร์ตดูแลลูกต่อไปได้ ไม่ได้ติดปัญหาอะไร
-โดนคนในโซเชียลดูถูกว่าน่าจะไม่มีปัญญาดูแลลูก เพราะไม่มีอาชีพแน่นอน ตนมองว่า ไม่มีใครรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง เหรียญมันมีสองด้าน ตนไม่ได้มานั่งพูดว่าตัวเองทำงานอะไรบ้าง ที่ผ่านมา 6 ปี ตนไม่ได้นั่งเลี้ยงลูกอยู่บ้าน ตนมีธุรกิจกับครอบครัว มีหน้าที่การงาน ยังไงก็ซัพพอร์ทลูกได้
-ตลอด 6 ปี มีงานในวงการบ้าง ละคร หนัง อีเวนต์ต่างๆ ทำธุรกิจร่วมกับครอบครัว ทำแบรนด์เสื้อผ้า และจัดแฟชั่นโชว์อีเวนต์ใหญ่ๆ ในภูเก็ต เป็นออแกไนเซอร์เจ้าใหญ่ในภูเก็ต มีธุรกิจร้านอาหารที่ทำกับคุณแม่ที่ภูเก็ต
-เพราะการเลี้ยงดูลูกไม่ใช่แค่จำนวนเงิน คือการที่เราฟูมฟัก อบรมสั่งสอน ต้องอยู่กับลูก 24 ชั่วโมง มันไม่ใช่แค่ว่าเราต้องรวยเราต้องมีเงินมาก ลูกเราถึงจะเป็นคนดีลูกเราถึงจะเป็นคนที่โตมาแล้วมีความสุขคือเราเลี้ยงลูกด้วยหัวใจและความรัก
-หลังจากนี้ก็ยังให้โอกาสพ่อลูกได้เจอหน้ากันเหมือนเดิม เหมือน 6 ปีที่ผ่านมา
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เอาแล้ว! เพื่อนซาร่า แฉละเอียดยิบ ไมค์ พิรัชต์ ฟาดกลับทุกประเด็นและคำครหา
- ประเด็นนี้ปัดตก! ซาร่า เผยเอาไอจีลูกฟอล วาดิม หลังถูกจี้ถามเหตุอันฟอลโลกัน
- พี่แซน ให้กำลังใจ ไมค์ ชี้สถานะพ่อไม่มีวันเปลี่ยน สักวันลูกจะเข้ามาหาด้วยตัวเขาเอง