‘ไอเอ็มเอฟ’ ยืดชำระหนี้ 28 ประเทศรายได้ต่ำ สู้วิกฤติโควิด

โดย KANYAPORN PHUAKVISUTHI 6 ตุลาคม 2563

คณะกรรมการบริหาร กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) มีมติเห็นชอบขยายระยะเวลา มาตรการคุมภาระหนี้สินต่ออีก 6 เดือน เป็นรอบที่ 2 แก่ 28 ประเทศที่มีรายได้น้อย ท่ามกลางการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)

ไอเอ็มเอฟแถลงว่า การขยายเวลามาตรการคุมภาระหนี้สินนี้ จะช่วยให้ประเทศรายได้น้อยเหล่านี้ นำทรัพยากรทางการเงิน ที่แทบจะไม่เพียงพออยู่แล้ว ไปใช้ด้านการแพทย์ฉุกเฉินที่สำคัญ และการบรรเทาสถานการณ์อื่นๆ ขณะต่อสู้กับผลกระทบจากโรคระบาดใหญ่

มติครั้งนี้มีขึ้นหลังจากคณะกรรมการฯ อนุมัติมาตรการคุมภาระหนี้สิน ระยะ 6 เดือน รอบแรก เมื่อเดือนเมษายน ภายใต้โครงการกองทุนเพื่อการควบคุม และบรรเทาหายนะ (ซีซีอาร์ที)

การอนุมัติครั้งล่าสุดนี้ จะช่วยให้สามารถเบิกเงินช่วยเหลือ จากโครงการซีซีอาร์ที สำหรับการชำระหนี้สิน ที่มีกำหนดจ่ายคืนแก่ไอเอ็มเอฟ ระหว่างวันที่ 14 ตุลาคม 2563 ถึงวันที่ 13 เมษายน 2564 ซึ่งคาดว่าจะคิดเป็นเงินราว 227 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 7,000 ล้านบาท

นางคริสตาลินา จอร์เจียวา กรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟ ทวีตข้อความว่า ภูมิใจที่ไอเอ็มเอฟเห็นชอบขยายระยะเวลา ของมาตรการคุมภาระหนี้สินให้ 28 ประเทศยากจนที่สุด ไปจนถึงเดือนเมษายนปีหน้า ซึ่งจะช่วยให้ประเทศเหล่านั้น สามารถจัดสรรเงินสนับสนุนเศรษฐกิจ และประชาชน เพื่อผ่านพ้นวิกฤติโควิด และขอขอบคุณประเทศสมาชิกผู้มีส่วนสนับสนุนโครงการซีซีอาร์ที

นางจอร์เจียวาได้ออกมาตรการระดมทุนเร่งด่วน ซึ่งทำให้โครงการซีซีอาร์ที สามารถจัดสรรเงินสนับสนุนการผ่อนผันชำระหนี้ได้สูงสุด 2 ปี พร้อมกับมีเงินทุนสำรองเพียงพอต่อความจำเป็นอื่นในอนาคต

ก่อนหน้านี้ ไอเอ็มเอฟระบุว่า โครงการซีซีอาร์ทีต้องการเงินราว 1,000 ล้าน ตามสิทธิพิเศษถอนเงิน (SDR – ราว 4.45 หมื่นล้านบาท) ซึ่งปัจจุบันมีผู้บริจาคเงินแล้ว 360 ล้านเอสดีอาร์ (ราว 1.6 หมื่นล้านบาท)