Politics

‘ทนายเดชา’ ไม่โกรธหลังทัวร์ลงหนัก! ขออภัยตัดสินใจผิดพลาด

“ทนายเดชา” ไม่โกรธหลังทัวร์ลงหนัก! ลั่นสิ่งที่ทำมันคืออาชีพ พร้อมขออภัยที่ตัดสินใจผิดพลาด ส่วนจะให้อภัยตนหรือไม่นั้นก็เป็นสิทธิ์ของท่าน

กลายเป็นประเด็นร้อน หลังทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ได้พา น.ส.อรอุมา ปลอดโปร่ง หรือ ครูจุ๋ม เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ปกครองเด็กนักเรียน โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี ในข้อหาทำร้ายร่างกาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ชาวเน็ต ไม่พอใจเป็นอย่างมาก และ โจมตีทนายเดชาที่เข้าข้างคนผิด จน #ทนายเดชา ขึ้นมาอยู่บนเทรนด์ทวิตเตอร์

ทนายเดชา14

ล่าสุด ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ได้ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ทนายคลายทุกข์ โดยระบุว่า กรณีที่ตนถูกทัวร์ลง จากการที่ตนไปให้คำปรึกษา ครูจุ๋ม หรือ ทางโรงเรียนสารสาสน์ ซึ่งอาจจะทำให้เอฟซี บางท่านไม่สบายใจ และ รู้สึกผิดหวังก็ขออภัยด้วย ซึ่งตนยืนยันว่า  จะมุ่งมั่นให้ความรู้ทางกฎหมาย และ วิเคราะห์ข่าวเด่นคดีดังต่อไป ท่านใดมีปัญหาข้อกฎหมาย ยังคงปรึกษาได้เหมือนเดิม

สิ่งใดที่ผมตัดสินใจผิดพลาดไป ต้องกลับขออภัยพี่น้องประชาชน มานะที่นี้ แต่ทุกสิ่งทุกอย่าง มันคือวิชาชีพ ทนายความ ผมจะสู้ต่อไป ให้ความรู้ทางกฎหมายกับประชาชนต่อไป ส่วนคนที่ด่าตน หรือ โกรธตน ตนก็ไม่โกรธ ตามสบาย ตนไม่ได้ว่าอะไร และ เข้าใจทุกท่าน ตนยังมีเพื่อนแท้หลายๆ คนที่ให้กำลังใจ แต่ไม่อยากเอ่ยชื่อ เพราะเกรงว่าเขาจะได้รับผลกระทบไปด้วย

ตนเชื่อว่า ทุกสิ่งทุกอย่างจะผ่านไป เพราะตนก็ไม่ได้ทำอะไรที่มันเสียหายแต่อย่างใด สิ่งที่ทำมันคืออาชีพ คือ วิชาชีพ ยืนยันว่า เพจทนายคลายทุกข์ ก็จะให้ความรู้กับ ปชช. ต่อไปทุกวัน หากมันเป็นเรื่องของการตัดสินใจที่ผิดพลาด ตนก็ขอโทษอีกครั้ง ส่วนจะให้อภัยตนหรือไม่นั้น ก็เป็นสิทธิ์ของท่าน

ทนายเดชา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (5 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กเพจ “ทนายคลายทุกข์” ของทนายเดชา ได้มีการโพสต์คลิป อธิบายถึงการตัดสินใจรับทำคดี “ครูจุ๋ม” หลังจากที่มีผู้เข้ามาแสดงความเห็นต่อต้านการรับทำคดีนี้ และกล่าวโจมตีทนายเดชาเป็นจำนวนมาก ในบางส่วนของคำอธิบายนั้น ระบุว่า

“เมื่อวานนี้ ผมได้ให้คำปรึกษาทางกฎหมาย กับโรงเรียนผมก็ใช้วิชาชีพทางกฎหมายตามปกติ ใครก็แล้วแต่ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดทางอาญา ก็ต้องมีทนายความ  เท่าที่คุยกับทางพนักงานสอบสวน คดีครูจุ๋ม ทำร้ายร่างกายเด็กนั้น มีครูประมาณ 13 คน ที่ต้องถูกดำเนินคดี เขาได้เชิญผมไปเป็นทนาย ผมก็รับดำเนินการ ไม่ว่าคดีนั้น จะเป็นคดีฆ่าคนตายคดีอะไรก็แล้วแต่ ก็ต้องมีทนายความ มันก็เป็นเรื่องปกติครับใช้วิชาชีพ ใครจะพอใจไม่พอใจ ก็เป็นความคิดส่วนตัวของท่าน”

“ทุกคนไม่มีสิทธิใช้ความรุนแรงซึ่งกัน และกัน ครูจุ๋ม ก็ไม่มีสิทธิใช้ความรุนแรงกับเด็ก ผู้ปกครองเด็ก ก็ไม่มีสิทธิใช้ความรุนแรงกับครูจุ๋ม มันคนละการกระทำกัน เขาก็แจ้งความดำเนินคดีกันไป”

“ส่วนคดีที่ครูจุ๋มทำร้ายร่างกาย หรือ ทำความรุนแรงกับเด็ก ผมก็ให้เขารับสารภาพ ส่วนไหนที่เขาทำ ตามคลิป ตามอะไรต่างๆ ผมไม่ได้บิดเบือนข้อเท็จจริง เป็นเรื่องปกติ”

“ส่วนใครที่เป็นเอฟซีผม ใครอยากจะยกเลิกการตาม ก็ยกเลิกไปเถอะครับ ผมเข้าใจความคิดเห็นของท่าน”

“ผมเป็นทนายวิชาชีพ ผมไม่ใช่ไปเป็นทนาย ให้กับพ่อค้ายาเสพติด แล้วไปทำเอกสารปลอม ช่วยพ่อค้ายาเสพติด จนศาลออกหมายจับ แบบนั้นเขาเรียกว่า ทรยศต่อวิชาชีพ แต่อย่างผม ผมทำงานตามวิชาชีพ ผมได้รับโทรศัพท์จากพี่น้องทนายความมากมาย ว่า สิ่งที่ผมทำเนี่ย ถูกต้องแล้ว มันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ที่ผู้ต้องหาทุกคนต้องมีทนายความ

ในเวลาต่อมา ทนายเดชา ยังโพสต์ข้อความถึงเรื่องนี้อีกครั้ง โดยระบุว่า ผมเป็นที่ปรึกษาโรงเรียนสารสาสน์ ส่วนพี่เลี้ยง ที่ถูกดำเนินคดี ผมเข้าไปช่วยเหลือเรื่องคดี ในฐานะส่วนตัว แยกกันคนละส่วน

ทั้งนี้ น.ส.อรอุมา ปลอดโปร่ง หรือ ครูจุ๋ม ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นายชาญวิทย์ น้อยสุขยิ่ง อายุ 37 ปี และภรรยา ผู้ปกครองของน้องเสือ เด็กนักเรียนอนุบาลที่ถูกครูจุ๋ม ทำร้ายร่างกาย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo