Business

พร้อม! เปิดรับนักธุรกิจ เข้าไทย 1.1 หมื่นคน กระตุ้นการลงทุน ยันคุมเข้มโควิด

เปิดรับนักธุรกิจ เข้าไทย หวังกระตุ้นเศรษฐกิจการลงทุน เผย อนุมัติแล้ว 1.1 หมื่นคน พร้อมขยายเพิ่มกลุ่มเจรจาธุรกิจ ยันควบคุมโควิด-19 เข้มข้น

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้อนุมัติให้ เปิดรับนักธุรกิจ เข้าไทย รวมถึงผู้มีใบอนุญาตทำงานเดินทางเข้าประเทศมาแล้ว จำนวนประมาณ 11,000คน

เปิดรับนักธุรกิจ เข้าไทย

สำหรับคนกลุ่มนี้ ได้ยอมรับการเข้ากักตัวในสถานกักกันทางเลือก (Alternative State Quarantine: ASQ) 14วัน ตามที่ทางการไทยกำหนด

นอกจากนี้ ศบค. ยังได้อนุมัติให้มี นักท่องเที่ยวแบบ Long Stay หรือกลุ่มพำนักระยะยาว โดยใช้ Special Tourist Visa (STV) ซึ่งได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 แล้ว ซึ่ง นักท่องเที่ยวต่างชาติ กลุ่มดังกล่าว จะต้องเข้ารับ การกักตัวในสถานกักกันทางเลือก (Alternative State Quarantine: ASQ) 14วัน ด้วยเช่นกัน

ขณะเดียวกัน ในระยะต่อไป รัฐบาลเห็นความจำเป็น ที่ควรอนุญาตให้ นักธุรกิจ ที่จะเข้ามาเจรจาธุรกิจ และพิจารณาตัดสินใจด้านการลงทุน เดินทางเข้ามาในประเทศเพิ่มเติมด้วย เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพสูง ในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ

อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก นักธุรกิจ กลุ่มดังกล่าว เป็นการเดินทางเข้ามาเป็นระยะสั้น จึงควรต้องมีมาตรการพิเศษ ในการกำกับดูแล ซึ่งในเบื้องต้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะได้เตรียมนำเสนอมาตรการ ในการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจ พิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้ มาตรการในการป้องกัน และยับยั้งการแพร่ระบาด COVID-19 ซึ่งมี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นประธาน เพื่อนำข้อสรุปเสนอท่านนายกรัฐมนตรีต่อไป

อนุชา บูรพชัยศรี
อนุชา บูรพชัยศรี

ทั้งนี้ มาตรการที่เตรียมนำเสนอ มีดังนี้

  • มีผลตรวจโควิด-19 (RT-PCR) ไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย
  • มีกรมธรรม์ประกันภัย ที่ครอบคลุมการรักษาโรคโควิด-19 ในวงเงินไม่น้อยกว่า 1 แสนเหรียญดอลลาร์สหรัฐ
  • ตรวจหาเชื้อ RT-PCR เมื่อเดินทางมาถึง และเมื่อเดินทางออกจากประเทศไทย ที่ช่องทางเข้า-ออกประเทศไทย
  • ให้มีผู้ติดตามด้านการแพทย์ และสาธารณสุข ตลอดระยะเวลาที่พำนักในประเทศไทย หรือเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เหมาะสม
  • ให้เดินทางโดยยานพาหนะที่เตรียมไว้ ตามแผนการเดินทาง ที่กำหนดเท่านั้น
  • ให้มี ติดตั้ง Application ติดตามตัว เพื่อสามารถตรวจสอบได้ ตลอดระยะเวลา ที่อยู่ในประเทศไทย

 

อนุชา บูรพชัยศรีนายอนุชา กล่าวว่า รายละเอียดของมาตรการ อาจมีเพิ่มเติม หรือเปลี่ยนแปลงได้ โดยคณะกรรมการเฉพาะกิจ พิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการ ในการป้องกันและยับยั้ง การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด- 19) จะมีการประชุมเพื่อหาข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้

ขณะที่ขั้นตอนต่อจากนี้ จะมีการพิจารณาเพิ่มเติม เพื่ออนุมัติให้มี  นักท่องเที่ยวต่างชาติ กลุ่มที่มีศักยภาพ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย เป็นลำดับต่อไป

ก่อนหน้านี้ ที่ประชุม ศบค. ได้มีมติเห็นชอบมาตรการเปิดประเทศ สำหรับ นักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ (Special Tourist VISA: STV) แบบ “จำกัดจำนวน” ตามที่กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ

สำหรับเที่ยวบินแรก ที่จะเดินทางเข้าประเทศไทย ที่นำ นักท่องเที่ยวต่างชาติ เข้ามาในประเทศ คือ กลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนจากเมืองกว่างโจวจำนวน 150  คน เดินทางมากับ สายการบินแอร์เอเชีย แบบเช่าเหมาลำ มาสนามบินภูเก็ต วันที่ 8 ตุลาคม 2563

หลังจากนั้น จะเดินทางเข้ามาเพิ่มเติมอีกในวันที่ 25 ตุลาคม 2563 จำนวน 126 คน กับสายการบินไทยสไมล์ มาสนามบินสุวรรณภูมิ จากนั้นวันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 เป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย 120 คน มากับสายการบินไทย มาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ

นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เดินทางมาเข้าพักเป็นสถานกักกันตัวทางเลือก (ALSQ) ในปัจจุบันมี 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชลบุรี, บุรีรัมย์ และภูเก็ต มีห้องพักรวมกันกว่า 300 ห้อง โดยจำนวนนี้มีโรงแรมที่ผ่านการรับรองและประกาศให้เป็น ALSQ แล้ว 5 แห่ง และรอการตรวจเข้าเป็น ALSQ อีกหนึ่งแห่ง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo