Entertainment

มรสุมชีวิต ‘นุ๊ก สุทธิดา’ รับแยกกันอยู่กับสามี ทำใจยาก ลูก 3 ขวบ ตื่นมาไม่เจอพ่อ

ก่อนหน้านี้ นักแสดงสาว-อดีตนักร้องสาวยุค 90’s นุ๊ก สุทธิดา เกษมสันต์  อยุธยา ได้เข้ารับการรักษาผ่าตัดไทรอยด์บวม จนทำให้ตรวจพบความผิดปกติ ที่ลามไปต่อมน้ำเหลืองประมาณ 17 จุด โดยผลตรวจเผยว่า เป็นเซลล์มะเร็งต่อมน้ำเหลือง จึงต้องผ่าตัดออก กระทั่งเสร็จสิ้นกระบวนการรักษา ได้กลับมาอยู่บ้านพร้อมหน้าครอบครัวและลูกๆ ท่ามกลางเพื่อนพ้อง และแฟนๆ ที่ส่งกำลังใจมาให้อย่างล้นหลาม

ล่าสุด นุ๊ก สุทธิดา ได้ออกมาเปิดใจถึงมรสุมชีวิตที่ผ่านพ้นในรายการ ถามสุดซอย Weekend โดยมี หนุ่ม ศรราม เทพพิทักษ์” เป็นผู้ดำเนินรายการ

11 นุ๊ก สุทธิดา 2

สภาพจิตใจตอนนี้เป็นยังไง?

“เข้มแข็งคูณสามค่ะ เพราะเรามีกำลังรบอยู่สามคนด้วยกัน คนโต 16 แล้วค่ะ คนที่สองอายุ 14 คนที่สาม อายุ 3 ขวบครึ่ง”

รู้ได้ไงว่าตัวเองเป็นมะเร็ง?

“จริงๆ ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว นุ๊กเป็นคนสังเกตตัวเองตลอดเวลา ไม่ว่าจะสภาพจิตใจหรือร่างกาย ทีนี้นุ๊กจะมีระบบที่เรียกว่าเป็นนาฬิกาชีวิต เรื่องการขับถ่าย หรือเข้านอนค่อนข้างตรงเวลา ทีนี้ตื่นเช้ามาเริ่มรู้สึกว่าการขับถ่ายมันเลทไป ไม่คงที่เหมือนแต่ก่อน ทั้งที่ตั้งแต่ 40 ปีผ่านมา เราไม่เคยไม่คงที่ เราก็ไปตรวจหาสาเหตุ ตอนนั้นคิดว่าเกี่ยวกับลำไส้ ไปหายังไงก็หาไม่เจอ ก็คิดว่าอายุคงเยอะเกิน เริ่มแก่แล้วหรือเปล่า พอเราหาไม่เจอ เราก็ปล่อยไป 2-3 ปี เราก็เริ่มคลำเจอก้อนเนื้อ เจอตรงไทรอยด์ก่อนเลย เป็นก้อนออกมา เราก็เลยไปตรวจ คุณหมอไม่ได้บอกว่าเป็นมะเร็งตั้งแต่ครั้งแรก แต่หน้าคุณหมอบอก ระหว่างเราส่องกล้องเราได้ข้อมูลมาว่า คุณหมอ ท่านนี้เก่งมาก สามารถประเมินได้ตั้งแต่ครั้งแรกเลยถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่อัลตร้าซาวด์เลย ซึ่งเราเห็นหน้าคุณหมอเริ่มเปลี่ยนสี ใจวูบเลยนะคะรู้เลยว่าใช่แน่ๆ ก็เลยถามคุณหมอ เป็นคำถามสุดท้ายว่าใช่ ใช่มั้ยคะ แต่เราทำเสียงร่าเริง ไม่ให้คุณหมอรู้สึกอะไร คุณหมอก็ตอบกลับมาว่า คุณหมอไม่สามารถตอบได้ ต้องทำการเจาะชิ้นเนื้อและไปตรวจ นั่นแหละคือคำตอบที่ทำให้เรารู้ว่าใช่แน่นอน”

3 นุ๊ก สุทธิดา 2

วินาทีแรกที่ได้ยิน รู้สึกยังไง?

“ทุกอย่างมันนิ่งหมดเลย มันเคว้งคว้างมาก เหมือนเราถูกปล่อยไว้กลางทะเล ลอยๆ แล้วเคว้งๆ ทุกอย่างเงียบหมด เสียงแอร์ดังมาก รู้สึกตัวอีกทีคือคำถามมาเป็นร้อย น้องปาแปง, ปีโป้, อดัม จะอยู่ยังไง เริ่มเห็นตัวเองสติแตก ระหว่างหมออัลตร้าซาวด์อยู่ เราก็บอกว่ามันไม่ใช่แล้ว ถ้าเป็นอย่างนี้เราจะตอบตัวเองไม่ได้สักคำถาม นุ๊ก ก็บอกตัวเองว่าใจเย็นๆ แล้วถามตัวเองทีละคำถาม อะไรที่กลัวที่สุดถามมา เราจะตอบตัวเอง แล้วเราก็ค่อยๆ ตอบตัวเองทีละคำถามๆ จนสุดท้ายเรารู้สึกว่ามันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เราคิดนะ ถ้าเราเตรียมตัวให้ดี”

เรามารู้ได้ยังไงว่ามะเร็งกระจายถึง 17 จุด?

“ก็ระหว่างอัลตร้าซาวด์เลยค่ะ คุณหมอบอกว่า มีก้อนเนื้ออยู่แล้วค่ะ แต่ยังตอบไม่ได้ว่าเป็นมะเร็งหรือเปล่า แต่มันได้กระจายไปตามจุดต่างๆ เขาก็มาร์กจุดค่ะ ว่าตรงไหนบ้างเพื่อทำการเจาะไปตรวจ ก็เริ่มมาร์กจุดก็รู้ว่ากระจายไปหลายจุด”

ถ้าถามตรงๆ มันอยู่ระยะที่เท่าไหร่?

“มะเร็งไทรอยด์จะไม่เหมือนมะเร็งอื่นๆ มะเร็งอื่นๆ จะวัดตามขนาดชิ้นเนื้อ ถ้าใหญ่คือเข้าสเตทที่ลึกขึ้นไป แต่มะเร็งไทรอยด์วัดตามอายุค่ะ ถ้าเราเป็นตอนอายุน้อยๆ ต่อให้ชิ้นเนื้อใหญ่ ก็จะเป็นแค่สเตทหนึ่ง ซึ่งน่ากลัวค่ะ ถ้าหมอบอกว่าสเตทสี่ปุ๊บ หมอตายเลยนะคะ ไม่ใช่เรา โดนตบค่ะ (หัวเราะ) ก็บอกว่าคุณหมอบอกดีๆ นะคะ สเตทไหนคะคุณหมอ (หัวเราะ)”

11 นุ๊ก สุทธิดา 8

ของนุ๊กเลือกวิธีการรักษายังไง?

“จริงๆ กระบวนการรักษามะเร็งไทรอยด์จะไม่เหมือนมะเร็งชนิดอื่น การรักษาคือเขาตัดมะเร็งออกไปก่อนเป็นอย่างแรก พอตัดไปทั้งหมดแล้วเท่าที่เขาจะหาตัดมาได้เขาจะให้เรากลืนแร่ เรียกว่าแร่ไอโอดีนที่กระจายไปทั่วร่างกาย ทีนี้การกลืนแร่คือการกลืนไอโอดีน ที่ผสมกัมมันตภาพรังสี ที่เข้าผสมเข้าไป เวลากลืนแร่เข้าไป เซลล์ส่วนไหนที่ดูดเอาไอโอดีนจากร่างกายเราไป มันก็อาจมีเซลล์มะเร็งติดไป ตรงนี้แร่ไอโอดีนจะกระจายไปพร้อมกัมมันตภาพรังสีที่จะไปช่วยฆ่าเชื้อมะเร็งในส่วนต่างๆ แต่กัมมันตภาพรังสี ต้องบอกก่อนว่ามันค่อนข้างรุนแรง ฆ่าคนได้ทั้งโลก ฉะนั้นเขาจะมีปริมาณจำกัดว่าในชีวิตคนเรากลืนได้แค่ 6 ครั้ง”

6 ครั้งคุณหมอรับประกันมั้ยว่าระยะห่างถี่แค่ไหนแล้ว 6 ครั้งเราหายมั้ย?

“หนึ่งครั้งต่อ 6 เดือน จะหายมั้ยคุณหมอบอกว่าโดยปกติสูงสุดโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 3 ครั้ง แต่ครั้งเดียวก็เกินจะพอ”

ครั้งแรกรู้สึกยังไง?

“เขาไปฆ่าเซลล์มะเร็ง แต่ก็ไปทำลายเซลล์อื่นๆ ด้วยฉะนั้นเวลาที่ไม่สบายตัวป่วยระดับเซลล์ เรารู้สึกว่าทุกเซลล์มันไม่ปกติมันปวดตัว และเหมือนมีไฟอยู่ในตัวทรมานมากจะอาเจียนตลอดเวลา ข้อเสียอีกอย่างคือ นอกจากป่วยกายเราจะป่วยใจไปด้วย เพราะเราต้องแยกจากทุกคนในโลกใบนี้ไปอยู่ในห้องๆเดียวแล้วถูกกักตัวอยู่ประมาณ 4 วัน เพราะตัวเรามีกัมมันตภาพรังสี ก็เหมือนเราสามารถกระจายกัมมันตภาพรังสี ให้คนอื่นคน ที่เขาไม่เป็นมะเร็ง พอโดนกัมมันตภาพรังสี ก็มีสิทธิ์ที่จะเป็นมะเร็ง เราก็ต้องแยกตัวออกมาอยู่ในห้องของรพ. ทุกอย่างเราต้องดูแลตัวเองหมอจะไม่เข้ามาหาเราเลย เหมือนเวลาเราป่วยจะมีคุณแม่ มาดูแลป้อนข้าวลูกกินนะแต่พอถึงวันนั้น มันไม่มีใครช่วยเราเราต้องอยู่คนเดียวจริงๆ เราก็เหมือนอยากจะอาเจียนมาก แต่เราอาเจียนไม่ได้เพราะถ้าเราอาเจียนเราต้องเช็ดอาเจียนเราเองค่ะ”

11 นุ๊ก สุทธิดา 6

เรื่องสุขภาพกายว่าหนักแล้ว สุขภาพใจก็หนักไม่แพ้กันตอนเป็นมะเร็งแรกๆ สามีไม่เชื่อว่าเราเป็น?

“ใช่ค่ะ ไม่เชื่อเรา ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการอธิบายกับเขาว่าเราเป็นอะไร คือพอนุ๊กกลับจากรพ. นุ๊กเจอเขาคนแรก นุ๊กก็บอกว่าเฮ้ยยูไอ เป็นมะเร็งนะ แล้วก็เดินผ่านเขาไปเล่นกับลูก เราพยายามทำให้เหมือนเป็นปกติโดยที่เราไม่ได้คิดถึงใจเขาว่า ต้องอธิบายอะไร หรือเปล่าใจเราตอนนั้น ไปที่ลูกเพราะเรารู้ว่า หลังจากเราเป็นมะเร็ง เราควรทำอะไรหนึ่งสองสามสี่ เพื่อลูกเพราะอย่างสามีนุ๊ก ก็ต้องขอโทษด้วย ที่เขาอาจไม่ได้อยู่ในลิสต์ของนุ๊ก เพราะเขายังเด็กมากในใจนุ๊ก ก็ไม่มีอะไรต้องห่วงเขาอย่างน้อยเราตาย เขามีครอบครัวใหม่แน่นอน เพราะเขาเด็กจริงๆ แต่ลูกเรา หรือคุณพ่อ คุณแม่ เรามีลิสต์ หรือมีความห่วงว่าลูกเรายังเล็กมาก คุณพ่อ คุณแม่ เราก็อายุเยอะแล้ว”

ลิสต์ที่ว่าเห็นบอกว่าคือ ทำพินัยกรรม?

“ใช่ค่ะไม่ถึงพินัยกรรมขนาดนั้น แต่ได้แจ้งคุณแม่ไว้บ้างว่า เรามีทรัพย์สินอะไร หนี้สินอะไร หนี้สินต้องใช้เขาตามปกติ อย่าทำให้คนเป็นเจ้าหนี้เดือดร้อน เราก็บอกว่าเราหนี้สินอะไร และมีทรัพย์สินตรงไหน ที่นุ๊กกลัวจริงๆคือนุ๊ก ไม่อยากทิ้งภาระให้คุณพ่อ คุณแม่ เพราะคุณพ่อ คุณแม่อายุเยอะแล้วนะคะ แล้วต้องกลับมาเลี้ยงลูกของเราอีก อันนี้เป็นเรื่องที่เราต้องเคลียร์ดีๆ เราก็บอกคุณแม่ว่า ของทั้งหมดไม่มีอะไรที่นุ๊กรักเลยนะ สามารถผันเป็นเงินได้ อย่าให้พ่อ แม่ ลำบากกับการเลี้ยงเด็กอะไรที่เป็นค่าใช้จ่าย เป็นการเรียนของเขาก็ผันได้เลยไม่มีอะไรที่เรารัก”

11 นุ๊ก สุทธิดา 10

สามีและนุ๊กได้แยกกันและสามีขอกลับประเทศเขา?

“แยกกันโดยเหตุบังเอิญ เพราะตอนมีโควิด พาสปอร์ตเขาหมดอายุแล้ว วีซ่าก็หมดอายุเช่นกัน พอหมดอายุปุ๊บเขาต้องกลับประเทศ คือกฎหมายจะอัปเดตทุกเดือน เขาก็ให้กลับภายในเดือนที่ผ่านมา กลับเสร็จวีซ่าจะเดินกลับเข้ามาด้วยท่องเที่ยวไม่ได้แล้ว ก็จะต้องไปทำวีซ่า ที่ติดตามลูก ส่วนวีซ่าตรงนี้เราก็ไม่รู้ว่ามันจะได้หรือเปล่า หรือจะนานแค่ไหนเหมือนกับว่า กลับไปแล้วเราไม่รู้ว่าจะได้กลับมาเจอกันอีกเมื่อไหร่ ส่วนของเราก็อย่างที่บอกพอเป็นความรักที่โตแล้ว บางทีเราไม่ได้เจ็บปวดกับการไม่ได้อยู่ด้วยกัน หรืออะไรเพราะสุดท้ายเรารู้ว่าเจอเพื่อจากอยู่แล้ว”

“แต่ว่าลูกมากกว่าที่เราเจ็บปวดมากๆ จนนุ๊กรู้สึกว่าทำใจยาก นุ๊กต้องบอกลูก 3 ขวบ ว่า เขาตื่นมาไม่เจอพ่อเขา ยังไงเขาไม่เข้าใจนุ๊ก ว่าทุกคนเป็นพ่อ แม่ น่าจะรู้ได้เขาไม่เข้าใจต่อให้เราบอกขนาดไหน แต่เราก็รู้ว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้น เขาจะตื่นมาแล้วไม่เจอพ่อเขา จะใช้ชีวิตปกติใน 2-3 วันแรก แต่ผ่านไปสัก 3-4 วัน เด็กจะเริ่มเพราะเขาอยู่กับพ่อตลอดเรากลัวลูก Broken Heart จริงๆ ต้องบอกว่าด้วยเทคโนโลยีตอนนี้ เราสามารถวิดีโอคอลได้แต่เราก็ยังรู้สึก Broken Heart ไปกับลูกเราแล้วก็มีให้เห็นจริงๆ สมมติรับโทรศัพท์พอบอกให้ เซย์บ๊ายบาย เขาจะเซย์ฮัลโหล นุ๊กก็ถามว่าทำไม ยูไม่เซย์บ๊ายบาย เขาบอกว่า เขาไม่อยากเซย์บ๊ายบาย สิ่งที่เขาพูดมันบาดเรามากตายแล้วพอมันนานขึ้นทุกเช้า เขาตื่นมาก็จะบอกว่าคอลหาแด๊ดดี้ คอลไปเสร็จก็ร้องเพลงให้พ่อ โหแม่จะตาย”

11 นุ๊ก สุทธิดา 11

สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตที่เล่ามาทั้งหมดทำให้เราเกิดการที่เราจะเป็นโรคซึมเศร้ามั้ย?

“พี่หนุ่มรู้มั้ย การเป็นมะเร็งไม่ได้ร้ายแรงเท่าการเป็นซึมเศร้าเลยนะ มะเร็งกินแค่เนื้อเรา แต่โรคซึมเศร้ากินความสุขของเราจริงๆ โรคซึมเศร้า มันเริ่มจากความฟลุค คือนุ๊กไปทานยา โดยหมอสั่งนี่แหละ แต่ผิดไม่ควรทานเราก็ไปปรึกษาหมอที่เกี่ยวกับโรคซึมเศร้า เขาบอกว่ายาตัวนี้มันส่งผลให้เกิดโรคซึมเศร้า ซึ่งตอนนี้ก็เป็นซึมเศร้ารักษาไปปีหนึ่ง”

วิธีการรับมือกับโรคซึมเศร้าเป็นยังไง?

“ตรงนี้นุ๊กยินดีมาก อยากให้เป็นวิทยาทานกับหลายๆคน เรื่องโรคซึมเศร้าจริงๆ ต้องแบ่งเป็นสองกรณีอย่างแรกคือ ส่วนตัวดูแลตัวเองอย่างที่สอง คือคนรอบข้างแพทย์ด้วยพอเราป่วยเรื่องนี้ เราต้องบอกทุกคนรอบข้างกับลูกอาจไม่รู้ว่าซึมเศร้าเป็นอะไร เพราะลูกเป็นเด็กวัยรุ่นเราแค่บอกลูกว่าแม่ป่วยแม่ไม่ปกตินะคะ ช่วงนี้อย่าดื้อเพราะอารมณ์จะสวิงมาก บอกสามีกับคนรอบข้างเพื่อนทุกคนว่า มีอาการนี้นะทุกคนต้องช่วยกันพยุงสุดท้ายคือหากิจกรรมบางคนบอกว่า ให้ออกกำลังกายแต่บางทีคนปกติยังออกกำลังกายยากเลย แต่พอเข้าสเตทของการเป็นซึมเศร้า ออกกำลังกายจะยากมาก เราต้องหากิจกรรมอะไรที่เราได้ขยับแข้ง ขยับขา และหาความสดชื่นให้ร่างกายและทำให้เราไม่ต้องกลับไปรับประทานยาอีก”

วิธีการจัดการโลกโซเชียลบางทีมีคอมเมนต์ไม่ดีตำหนิเข้ามาในพื้นที่ของเรามีวิธีการจัดการยังไง?

“เราเป็นดารายุค 90 เราอาจไม่ถนัดกับโลกโซเชียลเท่าไหร่(หัวเราะ)การที่นุ๊กมาเล่นอินสตาแกรมก็ยากแล้วนะคะ นุ๊กก็มีแต่รูปลูก หรือเฟซบุ๊ก นุ๊กไม่ค่อยได้เล่น แต่มีคนบังคับให้ นุ๊กเล่นยูต้องเล่นต้องรู้จักมันเราก็ปฎิญาณว่ามันคืองานมันต้องทำแต่จริงๆแล้วเราไม่ได้สนใจสักเท่าไหร่ ฉะนั้นเวลานุ๊กเสพโซเชียลเลยไม่สนใจสักเท่าไหร่ สองนุ๊ก รับมือโดยการที่คำชมคำด่า คำติเตียน นุ๊กไม่รับทั้งหมดเลยเวลาเป็นคำชม นุ๊กก็ขอบคุณมากๆเลยเพราะนุ๊กว่าสิ่งที่นุ๊กทำอาจไม่ถูกต้อง แต่ถูกใจเขาพอ เราไม่ได้รับคำชม เข้ามาในหัวใจเขามากขนาดนั้น คำด่าเลยไม่มีผลไปด้วย แต่ถ้าเรารับคำชมมากๆ เวลาเราโดนคำด่า มันก็จะมีผลกระทบกับเราแรงๆ ทั้งคำด่าคำชมมันไม่ได้ทำให้เปลี่ยนแปลงตัวเราสักเท่าไหร่ ถ้าหากมีอะไรเกินเลยเรื่องนี้ เรารับไม่ได้จริงๆ ส่วนมากนุ๊กแค่บอกไป”

11 นุ๊ก สุทธิดา 9

ถ้ายุ่งกับลูกจะเป็นมั้ย?

“ไม่เป็นถ้าเป็นเรื่องพื้นฐานส่วนตัว ดารานุ๊กจะไม่เป็นถ้าเรื่องลูกนุ๊กมองว่า เขาอาจเป็นห่วงแต่บางทีเราอาจไม่ถูกใจไงเพราะเราก็คิดว่า เราเลี้ยงลูกให้ดีที่สุดในแบบของเราพ่อแม่แต่ละคน ก็เลี้ยงลูกให้ดีในแบบตัวเองเขาคงเป็นห่วงเราแหละเขาถึงแนะนำเราคิดในเชิงบวกอะไร ที่ไม่พอใจอ่านไปก็อย่าไปคิดมากให้คิดว่าหลักๆ เขาเป็นห่วงแหละเขาสนใจเราแหละเขาถึงมาเสียเวลาคอมเมนต์(หัวเราะ)”

ขอถามคำถามส่วนตัวตอนนี้ วีจิ ขวบกับห้าเดือน ลูกชายนุ๊กคนโต16 แล้ว?

“พี่จะดองเหรอคะ(หัวเราะ)”

ไม่ใช่ดองจะถามว่า วิธีการดูแลลูกแต่ละปีให้เขาผ่านไป มีสิ่งดีๆในชีวิตไม่ว่าจะการเลี้ยงดูอบรมการศึกษาหนักแค่ไหนให้กำลังใจตัวเองยังไง?

“หนักมากนุ๊ก เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมา 10 ปี นะคะ ก่อนแต่งงานใหม่เราต้องเป็นทั้งพ่อทั้งแม่ เราก็ต้องมีพาร์ทเข้มแข็งกับลูก แต่นุ๊กเลี้ยงลูกเหมือนเพื่อนนุ๊ก ไม่เคยเป็นแม่ของเด็ก 14 วัน ที่เขาเป็นเด็ก 14 วัน ที่เขาเป็นเด็ก15 นุ๊กก็ไม่เคยเป็นแม่ของเด็ก 15 เหมือนกันฉะนั้นเราก็โตไปกับลูกพร้อมๆกัน นุ๊กก็ทำให้ลูกเห็นในเรื่องที่เพอร์เฟกต์ของนุ๊ก ด้วยเพื่อให้เห็นว่าแม่ก็เป็นมนุษย์เวลาที่แม่เสียใจ แม่ก็ร้องไห้ค่ะ มีเรื่องที่เสียใจแล้ว ไปร้องไห้กับเขาและให้เขาปลอบเราบ้างให้เขารู้ว่า จริงๆมันธรรมดามากนะ ที่เราจะทำน้ำหกแล้วตั้งแก้วขึ้นมาใหม่ หรือแค่เช็ดแต่ว่า ก็ธรรมดานะที่เราจะล้มและเราก็ลุกขึ้นมาใหม่แค่นั้นเอง แต่ถ้าทำให้เขาเห็นว่าแม่เก่ง เหลือเกินเพอร์เฟกต์ไปหมด เขาจะรู้สึกว่าเขาผิดไม่ได้เขาพลาดไม่ได้เวลาพลาดแล้วไปไม่เป็นเราทำให้เห็นว่า ชีวิตเราปกติเรามีพลาดได้แค่ลุกขึ้นมาใหม่ และเรียนรู้ไปกับลูกจนกว่าจะโต แต่สุดท้ายแล้วแต่ละบ้านก็มีแนวทางไม่เหมือนกันแต่คิดว่าทุกบ้านเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกแล้ว”

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo