Politics

‘นพ.ยง.’ วิเคราะห์ยารักษาโควิด ‘ทรัมป์’ ประธานาธิบดีสหรัฐ!

ทรัมป์ติดโควิด “นพ.ยง” วิเคราะห์รักษาโควิด “ทรัมป์” ชี้ทั่วโลกสนใจอาการ “ประธานาธิบดีสหรัฐ” อย่างมาก ประเมินหากพ้นวันที่ 5 โดยไม่มีอาการปอดบวม หรือ ต้องการออกซิเจน ถือว่าเบาใจไปได้ระดับหนึ่ง

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ระบุว่า โควิด 19 ยาที่ใช้รักษาประธานาธิบดี ทรัมป์ ทั่วโลกให้ความสนใจกับการที่ประธานาธิบดี ทรัมป์ติดโควิค 19 และสนใจการรักษาของประธานาธิบดี โดยทั่วไปข้อมูลรายละเอียดการรักษา ถือเป็นความลับของคนไข้

จากการรายงานของแพทย์ผู้ให้การรักษา และที่เผยแพร่ออกมาในวารสาร Science โดย Jon Cohen ในวันที่ 2 ตุลาคม 2563 มีข้อมูลที่น่าสนใจคือ

ทรัมป์ติดโควิด

“ทรัมป์” ได้รับการรักษาด้วยยา Remdesivir และ antibody cocktail

ยา Remdesivir เป็นยาที่พัฒนาขึ้นมาโดยบริษัท Gilead Sciences เพื่อมุ่งหวังรักษาไวรัสตับอักเสบซี ต่อมามีการนำมาใช้รักษาอีโบล่า

โดยยาขัดขวางการสร้าง RNA ของไวรัส ที่มีฤทธิ์ได้ต่อไวรัสหลายชนิด จึงมีการนำมาใช้ในการรักษา covid-19 เริ่มจากการศึกษาในประเทศจีน ในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง ผลที่ได้ไม่แตกต่างกับยาหลอก และการศึกษาได้หยุดก่อนที่จะสิ้นสุดเนื่องจากไม่มีจำนวนผู้ป่วยมากเพียงพอ ต่อมา มีการศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า ยาสามารถลดปริมาณไวรัสลงได้และมีผลการรักษาปานกลาง ทางFDA สหรัฐอนุญาตให้ใช้ในภาวะฉุกเฉิน ยานี้ต้องฉีดเข้าเส้น ระยะเวลา 5 ถึง 10 วัน

แอนติบอดี้ที่นำมาใช้รักษาประธานาธิบดี ทรัมป์ติดโควิด ที่กล่าวในวารสาร Science เป็นของบริษัท Regeneron เป็นโมโนโคลนอลแอนติบอดี 2 ชนิด ที่จำเพาะต่อ Spike ใน 2 ส่วน ได้มีการศึกษาในหนูและในลิง และมีการศึกษาในผู้ป่วย covid 19 ระยะที่ 1 และ 2 จำนวน 275 คน โดยที่ผู้ป่วยมีอาการไม่มาก เปรียบเทียบกับยาหลอก โดยให้ยาที่มีแอนติบอดี้ 2 ขนาด ขนาด 8 กรัมและ 2.5 กรัม พบว่า สามารถลดปริมาณไวรัสได้อย่างมีนัยยะสำคัญ และลดระยะเวลาการดำเนินโรคลงได้ ขณะนี้อยู่ในการ ศึกษาใช้รักษาระยะที่ 3 ในผู้ป่วยจำนวนมากขึ้นรวมทั้งผู้ป่วยที่นอนโรงพยาบาล ท่านประธานาธิบดีได้ขนาด 8 กรัม

โมโนโคลนอลแอนติบอดีที่ได้ ใช้หลักการสร้างขึ้นจาก เซลล์เม็ดเลือดขาวของมนุษย์ที่หายป่วยจากโรค covid 19 แล้ว จึงมีลักษณะจำเพาะที่จะขัดขวางการเข้าไปจับของเชื้อไวรัสกับเซลล์

หลักการดังกล่าวคล้ายกับการให้ Plasma ผู้ป่วยที่หายจากโรคแล้ว การให้ Plasma ก็เช่นเดียวกันก็จำเป็นที่จะต้องให้เร็ว ถ้าผู้ป่วยมีอาการรุนแรงหรือเกิน 14 วันไปแล้วร่างกายจะสร้างแอนติบอดี้ขึ้นมาได้แล้ว การให้ไปจะไม่เกิดประโยชน์

Plasma จากผู้ที่หายจากโรคแล้ว จะมีภูมิต้านทานต่อ covid-19 เมื่อมีผู้มาบริจาคเป็นจำนวนมาก ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ก็สามารถที่จะนำพลาสมา ที่มีภูมิต้านทานสูง มาผลิตในรูปแบบของเซรั่ม ที่มีความเข้มข้นของภูมิต้านทาน จะคล้ายกับโมโนโคลนอลแอนติบอดีดังกล่าว แต่จะมีแอนติบอดี้หลายอย่างรวมกันเข้ามา เซรั่มที่ผลิตขึ้นมา จะเก็บได้ยาวนานกว่า การจะนำมาใช้ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม

เซรั่มที่เอามาใช้ในการรักษาในปัจจุบัน เช่น ป้องกันการติดเชื้อไวรัส B หลังสัมผัสโรค เซรั่มที่ใช้ป้องกันการเกิดโรคพิษสุนัขบ้าหลังถูกสุนัขบ้ากัด ก็เช่นเดียวกันการให้ภูมิต้านทานจะต้องให้ ตอนที่ผู้ป่วยยังไม่มีการสร้างภูมิต้านทานเกิดขึ้น และเพื่อป้องกัน ลดจำนวนของไวรัสลง

นอกจากนี้ ในวารสาร Science ยังได้พูดถึงยาที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้รับอยู่แล้วได้แก่วิตามิน ดี ธาตุสังกะสี ยาลดกรด Fomatidine เมลาโทนิน และ aspirin

บทบาทของวิตามินดีในปัจจุบัน เกี่ยวข้องกับระบบภูมิต้านทานของมนุษย์ ในการกำจัดเชื้อโรค ส่วนสังกะสี มีส่วนและบทบาทในระบบเอนไซม์ของมนุษย์ และการสร้าง DNA RNA ยาลดกรดที่ใช้กันมากก็เพื่อป้องกันกรดไหลย้อน ส่วนเมลาโทนิน ไม่ทราบว่าเพื่อต้องการให้นอนหลับเพราะท่านประธานาธิบดีมีเรื่องมาก หรือเปล่าก็ไม่รู้ ส่วน aspirin ก็ช่วยป้องกันการแข็งตัวของเลือด จะมีการใช้มากในผู้สูงอายุอยู่แล้ว

ขณะนี้ทั่วโลกได้สนใจอาการของท่านประธานาธิบดีเป็นอย่างมาก

โดยทั่วไปถ้าผ่านพ้นวันที่ 5 หลังมีอาการ โดยที่ไม่มีอาการปอดบวมหรือต้องการออกซิเจน ก็น่าจะเบาใจไปได้ระดับหนึ่ง

ยังไม่รู้ว่าวันที่ 15 ตุลาคม จะได้มีการดีเบตรอบ 2 หรือไม่และจะจัดกันอย่างไร เพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด 19

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK