World News

จีนขอเสียงสนับสนุนการค้าเสรี ย้ำต้องแก้ปัญหาผ่านการเจรจา

นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ของจีน เรียกร้องเสียงสนับสนุนการค้าเสรี พร้อมให้คำมั่นถึงการปรับปรุงกฎระเบียบการเข้าลงทุนในประเทศสำหรับนักลงทุนต่างประเทศ หลังจากที่จีนดำเนินมาตรการตอบโต้แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน กับการที่สหรัฐประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนรอบใหม่ มูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์

li kechiang
หลี่ เค่อเฉียง

นักวิเคราะห์ชี้ว่า ท่าทีล่าสุดของนายหลี่ ตอกย้่ำความพยายามของจีน ในการที่จะแสดงถึง การเป็นชาติผู้ปกป้องการค้าโลก ที่สนับสนุนรูปแบบพหุภาคี ท่ามกลางเสียงวิจารณ์จากสหรัฐ และประเทศคู่ค้ารายอื่นๆ เกี่ยวกับนโยบายอุตสาหกรรมของแดนมังกร ที่ประเทศเหล่านี้ ระบุว่า ไม่เป็นไปตามคำมั่นเกี่ยวกับการเปิดตลาด

ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมเวิลด์ อิโคโนมิค ฟอรัม (ดับเบิลยูอีเอฟ) ในเมืองเทียนจิน ทางตะวันออกของจีนนั้น นายหลี่ไม่ได้กล่าวโดยตรงถึงความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐที่กำลังดำเนินอยู่ แต่เรียกร้องให้รัฐบาลประเทศต่างๆ แก้ไขความขัดแย้ง ผ่านการเจรจา และปฏิเสธระบบเอกภาคนิยม

“เป็นเรื่องจำเป็นที่เราต้องยึดมั่นในหลักการพื้นฐานของระบบพหุภาคี และการค้าเสรี เราจำเป็นที่จะต้องแก้ไขความขัดแย้งที่เกิดขึ้นผ่านทางการหารือ ไม่ควรมีการเสนอรูปแบบการผูกขาดแต่เพียงฝ่ายเดียวเป็นทางออกในการแก้ไขปัญหา”

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (18 ก.ย.) จีนได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าต่อสินค้าสหรัฐมูลค่า 60,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อตอบโต้คำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ที่ให้ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนรอบใหม่

กระทรวงการคลังจีน ระบุว่า การขึ้นภาษีนำเข้าดังกล่าว มีเป้าหมายเพื่อควบคุม “ความขัดแย้งทางการค้า” การผูกขาดแต่เพียงฝ่ายเดียว และการปกป้องการค้าของสหรัฐ

แม้จะไม่ได้ระบุว่า จีนจะกลับไปเปิดโต๊ะเจรจาการค้ารอบใหม่กับสหรัฐ ตามที่เคยประกาศออกมาก่อนหน้านี้ว่า ได้รับคำเชิญจากสหรัฐให้ไปหารือกัน แต่แถลงการณ์ของกระทรวงพาณิชย์จีน ระบุว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดของสหรัฐ ทำให้การเปิดหารือรอบใหม่อยู่บนความไม่แน่นอน

Avatar photo