ทำความรู้จัก “วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร” สถานที่ ที่ “พระจักรทิพย์” เลือกเป็นสถานที่บวช ขณะรายงานระบุ อดีตผบ.ตร. ตั้งใจอยู่ในสมณะเพศนาน 1 เดือน ก่อนลาสิกขา และไปเที่ยวกับครอบครัว ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ก่อนเกษียณอายุ
วันนี้ (3 ต.ค.) เฟซบุ๊ก “ยุทธเศรษฐ วังกานนท์” ได้โพสต์ข้อความบอกเล่าเรื่องราวของ “วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร” วัดที่ “พระจักรทิพย์” หรือ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (อดีต ผบ.ตร.) อุปสมบท ทันทีที่เกษียณอายุราชการ เมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา โดยตั้งใจบวช 1 เดือนนั้น ตั้งอยู่หน้ากองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม
วัดแห่งนี้ เดิมชื่อ “วัดเจ้าขรัวหง” เป็นวัดเก่าที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยเศรษฐีชาวจีนชื่อนายหง ต่อมาเมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้สถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานีแล้ว ได้กำหนดเขตพระราชฐานขึ้น
ย้อนหลังไปเมื่อ 10 ปีเศษวัดหงส์รัตนาราม มีสภาพชำรุดทรุดโทรมจนเมื่อ พระเทพปริยัติมุนี หรือเจ้าคุณมีชัย (มีชัย วีรปญฺโญ ป.ธ.9, ผศ.ดร.) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม มาเป็นเจ้าอาวาสวัดหงส์รัตนาราม ก็ได้ทะนุบํารุงปฏิสังขรณ์ วัดหงส์รัตนาราม จนมีสภาพสวยงามดังปัจจุบัน
จะสังเกตเห็นได้ว่า ข้าราชการทหาร ตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายท่าน มีความเลื่อมใสศรัทธาในพระเทพปริยัติมุนี มาสนทนาธรรม และร่วมทำบุญ เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลในชีวิต ที่วัดหงส์รัตนารามเห็นอยู่บ่อยครั้ง อาทิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง, พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีต ผบ.ทบ., รวมถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร.
ภายในวัดแห่งนี้ ยังมีโบราณสถาน และโบราณวัตถุที่สำคัญ ประกอบด้วย พระอุโบสถ ที่มีขนาดใหญ่ ด้านในมีเสาใหญ่ขนาด 3 คนโอบ ตั้งตระหง่านถึง 12 ต้น
ภายในพระอุโบสถ ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญ คือหลวงพ่อพระแสน (องค์ดำ เล็ก ๆ หน้าองค์พระประธาน) เป็นพระพุทธรูป ศิลปะล้านช้าง ปางมารวิชัย ขัดสมาธิราบ ขนาดหน้าตักกว้าง 25.5 นิ้ว ทำจากสำริด
ส่วนพระประธานในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นลงรักปิดทอง ปางมารวิชัย ศิลปะสมัยอู่ทอง หน้าตักกว้าง 2.60 เมตร สูง 3.50 เมตร ไม่มีพระนามและไม่ทราบประวัติว่าสร้างขึ้นในสมัยใด
ด้านหลังพระอุโบสถ เป็นวิหารที่ประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำโบราณ คือ หลวงพ่อสุข เดิมทีเป็นพระหุ้มปูน มีพระลักษณะเป็นพระพุทธรูปสมัยรัตนโกสินทร์ ประดิษฐานอยู่ในพระวิหารหลังพระอุโบสถ ซึ่งชำรุดทรุดโทรมหักพังใช้การไม่ได้จนคนทั้งหลายเรียกว่า “วิหารร้าง”
ต่อมาเกิดความบังเอิญ คือ รอยกะเทาะของปูนหุ้มที่พระอุระหลุดออก เห็นเนื้อในเป็นทองสีสุกงาม มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก ว่ากันว่า “หลวงพ่อทองคำวัดหงส์” มีขนาดใหญ่ เป็นรองจากหลวงพ่อทองคำวัดไตรมิตรเลยทีเดียว
ด้านปีกซ้ายของวัด มีสระน้ำมนต์ขนาดใหญ่ รูปสระเป็นลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้ากว้างประมาณ 6 วา ยาวประมาณ 26 วา ลึกประมาณ 1.5 เมตร ตั้งอยู่ด้านตะวันตกส่วนท้ายของวัดแต่ตามพื้นที่เดิมของวัดทั้งหมดอยู่ตรง กลางติดไปทางตะวันตก
มีตำนานเล่าขานสืบต่อกันมาว่า สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงเสด็จมาสรงน้ำที่วัดหงส์แห่งนี้ ก่อนออกศึกสงครามทุกครั้ง และเมื่อมีพิธีสำคัญของแผ่นดิน
สำหรับการออกบวชของ พระจักรทิพย์ ในครั้งนี้ แหล่งข่าวยืนยันว่า พระจักรทิพย์ มีความคิดที่จะบวชพระ หลังจากเกษียณราชการตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาก่อนหน้านี้แล้ว โดยกลุ่มคนใกล้ชิดทราบเรื่องนี้ดีว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ มีสิ่งที่อยากทำหลังจากเกษียณ 2 อย่าง คือ บวชพระ และท่องเที่ยวกับครอบครัว
การบวชครั้งนี้ จะบวชประมาณ 1 เดือน คาดว่าหลังจากบวชครบ 1 เดือนแล้ว พระจักรทิพย์จะลาสิกขา หลังจากนั้นจะเดินหน้าตามความตั้งใจที่ 2 คือเดินทางท่องเที่ยวกับครอบครัว
ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผบ.ตร. คนที่ 11 เกษียณอายุราชการ และได้ส่งมอบหน้าที่ต่อให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ขึ้นเป็น ผบ.ตร. คนที่ 12 ของประเทศไทย อย่างเป็นทางการ
ต่อมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. ได้เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ บวชเป็นพระสงฆ์ ที่วัดหงส์รัตนาราม บางกอกใหญ่ กทม. เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2563 และในเช้าวันนี้ (3 ต.ค.63) ได้ออกบิณฑบาตร
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- อนุโมทนาบุญ ‘บิ๊กแป๊ะ’ ออกบวช หลังพ้นตำแหน่ง ผบ.ตร.
- ‘บิ๊กแป๊ะ’ ส่งมอบตำแหน่งให้ ‘ผบ.ตร.คนใหม่’ ย้ำต้องหนักแน่น!
- ‘บิ๊กแป๊ะ’ เปิดใจ ‘ผบ.ตร.’ คนใหม่ต้องเก่งทั้งบู๊และบุ๋น!
