Digital Economy

นายกเปิดงานดิจิทัลไทยแลนด์บิ๊กแบง ย้ำใช้ดิจิทัลลดความเหลื่อมล้ำ

digital thailand big bang
พิธีเปิดงาน Digital Thailand Big Bang 2018

เปิดงานแล้วอย่างเป็นทางการสำหรับ “ดิจิทัล ไทยแลนด์ บิ๊กแบง 2018” ที่มาพร้อมแนวคิด “Thailand BIG DATA: โลกเปิด เราปรับ ประเทศเปลี่ยน” นายกรัฐมนตรีย้ำดิจิทัลต้องเข้ามาเสริมเพื่อให้การเข้าถึงบริการต่าง ๆ เป็นไปโดยสะดวกขึ้น ระบุเก่งประเทศเดียวไม่ได้ ต้องดูแลประเทศเพื่อนบ้าน สังคมรอบข้างด้วย

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานเปิดงานและกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ดิจิทัลกับอนาคตประเทศไทย” โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า ปัจจุบันโลกได้เข้าสู่ยุคระบบเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลที่เทคโนโลยีดิจิทัลจะไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือสนับสนุนการทํางานอีกต่อไป หากแต่ได้หลอมรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่ง กับชีวิตของเราอย่างแท้จริง และได้เปลี่ยนโครงสร้างรูปแบบกิจกรรมทางเศรษฐกิจ กระบวนการผลิต การค้า การบริการ และกระบวนการทางสังคมอื่นๆ รวมถึงการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลไปอย่างสิ้นเชิง

“อยากให้คนไทยช่วยคิดว่าเราอยากให้ประเทศไทยเป็นอย่างไร เพื่อนบ้านเราเป็นอย่างไร โลกเป็นอย่างไร ความซื่อสัตย์จริงใจต่อกันเป็นสิ่งจำเป็น เพราะเราเป็นมนุษยชาติบนโลกเดียวกัน ใช้น้ำ แผ่นดิน อากาศเดียวกัน ทั้งหมดคือโลกใบเดียวกัน เพราะฉะนั้น เราจะเก่งประเทศเดียวไม่ได้ ซึ่งดิจิทัลจะเป็นตัวลดความเหลื่อมล้ำนี้ แต่ต้องทำให้เขาเข้าถึงดิจิทัลให้ได้ก่อน”

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ชี้ว่า รัฐบาลได้ตระหนักถึงความจําเป็นที่ประเทศไทยต้องเร่งนําเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เป็นกลไกสําคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไปสู่ความยั่งยืน โดยเทคโนโลยีดิจิทัลได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมให้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีสัมฤทธิ์ผล สามารถตอบปัญหาความท้าทายที่ประเทศกําลังเผชิญอยู่หรือเพิ่มโอกาสในการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมได้ เช่น ลดความเหลื่อมล้ําของสังคมผ่านการวางโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลทั่วประเทศ สร้างรายได้ให้ประชาชน ในชุมชนผ่าน E-Commerce ยกระดับคุณภาพชีวิตด้านสุขภาพ การเรียนรู้ การเข้าถึงบริการของรัฐ ทําให้เกิดการกระจายทรัพยากรและโอกาสที่เป็นธรรมยิ่งขึ้น

digital thailand big bang
นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขณะกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ ดิจิทัลกับอนาคตประเทศไทยในงาน ดิจิทัล ไทยแลนด์ บิ๊กแบง 2018

นอกจากนี้ รัฐบาลยังเร่งปรับฐานเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรมดิจิทัลผ่านโครงการขนาดใหญ่ของรัฐ อาทิ Smart City, Coding Thailand, Digital Transformation และ Digital Park Thailand ที่จะส่งให้ไทยเป็นผู้นําด้านการค้าการลงทุน และการพัฒนานวัตกรรมดิจิทัลของภูมิภาค

อย่างไรก็ดี สิ่งที่นายกรัฐมนตรีแสดงความวิตกกังวลต่อภาพของการเติบโตในสังคมดิจิทัลก็คือ ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นดังกล่าวมีทั้งผู้ได้และเสียประโยชน์ ซึ่งผู้ที่เสียประโยชน์คือผู้ที่ยังเข้าไม่ถึงเทคโนโลยี ซึ่งในจุดนี้ มีประเด็นเรื่องขีดความสามารถทางด้านดิจิทัลด้วยว่าคนเหล่านั้นจะมีเพียงพอสำหรับการเปลี่ยนผ่านหรือไม่

อีกประเด็นคือเรื่องภัยคุกคามทางไซเบอร์ และการใช้ดิจิทัลของเด็กรุ่นใหม่ ที่นายกรัฐมนตรียกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดขึ้นว่า เป็นเรื่องของหมาป่าในจิตใจ ที่มีสองฝั่งคือ ฝั่งหมาป่าใจดีกับใจร้าย ว่าเราอยากให้ตัวไหนเติบโต ก็ป้อนอาหารให้ตัวนั้น การใช้ดิจิทัลก็เช่นกัน ที่ไม่มีอะไรดีทั้งหมด อยู่ที่ว่าเราจะเลือกทำแบบไหน แต่ไม่ใช่การทำไปโดยที่ทราบดีว่าผิดแล้วมาอ้างว่าไม่รู้กฎหมายทีหลัง จึงขอให้เด็กรุ่นใหม่ใช้ดิจิทัลอย่างมีสติ

เมื่อกล่าวมาถึงจุดนี้ นายกรัฐมนตรีก็มีการกล่าวติดตลกด้วยว่า “แล้วผมมีหมาป่าในตัวกี่ตัวเนี่ย”

โดยหลังจากนี้ ภารกิจของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมจึงต้องเป็นแม่ทัพใน 3 เรื่องหลักได้แก่

1. สร้างคนไทยให้พร้อมเข้าสู่ยุคดิจิทัลด้วยแนวคิดและวิธีใหม่ – Coding Thailand Initiative – ที่ประเทศไทยร่วมมือกับบริษัทยักษ์ใหญ่สร้างคนตั้งแต่วัยเด็กให้มีทักษะ/ ตรรกะด้าน programming ผ่าน digital platform และยังเป็นการสร้างโอกาสการเรียนรู้ของคนยุคดิจิทัล ทุกที่ ทุกเวลา อย่างไร้พรมแดน

2. สร้างความพร้อมในการเป็นผู้นําในการขับเคลื่อน Smart City ระดับ ASEAN และพันธมิตรอื่นๆ นอกเหนือจาก ASEAN ต่อยอดจากแนวนโยบายและการดําเนินงานด้านการบูรณาการข้อมูล ของภาครัฐ ให้ใช้ประโยชน์จากข้อมูลเมือง และข้อมูลเปิดภาครัฐพัฒนาเมืองอัจฉริยะให้ครบ 30 เมือง ในปี 2565

3. ขับเคลื่อนการพัฒนาไอโอที ไม่เพียงแค่จัดตั้งสถาบันไอโอที เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัลแห่งอนาคต และความพร้อมในการพัฒนาพื้นที่ EEC โดยรวม แต่ต้องเร่งสร้างกิจกรรมต่างๆ เพื่อกระตุ้นความสนใจและความ เชื่อมั่นต่อนักลงทุนนานาชาติให้มาลงทุนด้านอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัลที่สถาบัน IoT ซึ่งเป็นสถาบันแรกที่ จะจัดตั้งขึ้นภายใต้โครงการพัฒนา Digital Park Thailand ในพื้นที่ EEC

นอกจากนั้น บนเวที นายกรัฐมนตรียังได้มีการมอบรางวัลดิจิทัลเกียรติยศ 4 รางวัลแก่บุคลากรด้านดิจิทัลประกอบด้วย

  • รางวัล Digital Youth of the Year – ทีมอินสเปคตรา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
  • รางวัล Digital Community of the Year – ศูนย์วิจัยชุมชนเฉลิมพระเกียรติวัดโพธิการาม
  • รางวัล Digital Organizer of the Year – ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
  • รางวัล Digital Startup of the Year – บริษัท บิลค์ วัน กรุ๊ป จำกัด

8 จุดเด่นบนพื้นที่ 60,000 ตารางเมตร

Digital Thailand Big Bang 2018 เป็นมหกรรมดิจิทัลระดับนานาชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและ ภาคเอกชนทั้งในประเทศ กว่า 500 หน่วยงาน และความร่วมมือระดับนานาชาติจาก 12 ประเทศ ได้แก่ ประเทศจีน ญี่ปุ่น ลาว มาเลเซีย โปแลนด์ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา เวียดนาม เนปาล อินเดีย และอิสราเอล เพื่อให้ผู้เข้าชมงานได้ตระหนักถึงการเปลี่ยนผ่านสู่โลกดิจิทัล การก้าวให้ทันเทคโนโลยีและนํามาปรับใช้เป็นกลยุทธ์เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

สำหรับจุดเด่นสำคัญในงานนี้ จะมีการจัดแสดงมิติการเปลี่ยนแปลงของประเทศใน 8 ด้านหลัก ได้แก่

  1. ด้าน นวัตกรรม Cloud computing ที่เชื่อมโยงโลกทั้งใบอย่างไร้ขีดจํากัด
  2. ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ที่จะทํา ให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางข้อมูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในระดับภูมิภาคที่เชื่อมโยงไปทั่วโลกผ่านดิจิทัลเทคโนโลยี อาทิ ระบบเคเบิลใยแก้วนําแสงใต้น้ํา และดวงดาวอัจฉริยะหรือดาวเทียม เป็นต้น
  3. ด้านการเปลี่ยนแปลงข้อมูล ขนาดใหญ่ ที่นําไปใช้ประโยชน์และมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ
  4. ด้านเทคโนโลยีแห่งอนาคต ทั้งเทคโนโลยี ใหม่ เทคโนโลยีก่อกําเนิด และนวัตกรรมดิจิทัลจากเหล่า digital innovators กว่า 800 ราย
  5. ด้านบล็อคเชน ที่ ไม่ใช่ดิจิทัลเฉพาะโลกการเงินแต่คือดิจิทัลสําหรับทุกคน
  6. ด้านการศึกษาระบบใหม่ ให้คนไทยก้าวเท่าทันการ เปลี่ยนแปลงตั้งแต่ทักษะ coding เบื้องต้นจนถึงระดับ advance อย่างเท่าเทียมและทั่วถึง
  7. ด้านเมืองอัจฉริยะ ที่จะ ก้าวล้ําสู่อีกขั้น กับการเตรียมพร้อมรองรับเป็นเจ้าภาพระดับอาเซียน ปี 2019 และ
  8. ด้านกิจกรรมการแข่งขันระดับเยาวชน ที่มีเด็กๆ ตบเท้าเข้าร่วมกว่า 5,000 คน เพื่อแสดงความสามารถทางด้านดิจิทัลเทคโนโลยี ในการแข่งขัน หุ่นยนต์ การแข่งขันบินโดรน การแข่งขัน Coding sport เป็นต้น

สำหรับงานมหกรรม Digital Thailand Big Bang 2018 เปิดให้เข้าชมงานโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่ 19 – 23 กันยายน ที่อาคารชาเลนเจอร์ 1 – 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี  ตามวันและเวลาต่อไปนี้

วันที่ 19 ก.ย. เริ่มเวลา 12.00-19.00 น.
วันที่ 20-21 ก.ย. เวลา 09.00-19.00 น.
วันที่ 22-23 ก.ย. เวลา 10.00-19.00 น.

สําหรับผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดกิจกรรมและความเคลื่อนไหวการจัดงาน “Digital Thailand Big Bang 2018” ได้ที่ www.digitalthailandbigbang.com และ facebook.com/digitalthailandbigbang/

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight