Politics

เปิดสำนวนคดี ‘น้องชมพู่’ 918 หน้า ยันชัดมีคนพาเด็กขึ้นเขาไปตาย!

คดีน้องชมพู่ “ผบ.ตร.” เปิดสำนวน 918 หน้าแถลงความคืบหน้าคดี “น้องชมพู่” สรุปยืนยันชัดเด็กไม่สามารถเดินขึ้นไปบนจุดพบศพด้วยตัวเอง

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวว่า การแถลง คดีน้องชมพู่ ครั้งนี้ เป็นความคืบหน้าว่าวันนี้ตำรวจทำอะไรไปถึงไหน ไม่ใช่การปิดคดี จากข้อมูลพยานหลักฐาน คดีนี้เป็นการตั้งข้อหาว่า ภาคเด็กและกักขังหน่วงเหนี่ยวเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต และข้อหาซ่อนเร้นเคลื่อนย้ายทำลายและอำพรางศพ แต่ผู้กระทำผิดถึงขณะนี้เรายังไม่มีหลักฐานว่า เพียงพอที่จะออกหมายจับหรือดำเนินคดีกับใครได้

อย่างไรก็ตาม แต่เดิมที่เคยวางแผนไว้ ในการสืบสวนสอบสวน ถึงวันนี้ มีความจำเป็น ที่ต้องทำเพิ่มเติมในบางส่วน ความคาดหวังเดิม 100% ทำเสร็จไปแล้ว โดยต้องทำเพิ่มเติม ซึ่งคดีมีอายุความ 20 ปี แม้ว่า ตามระเบียบตำรวจ ถ้าดำเนินคดีใครไม่ได้ ผ่านใน 1 ปี ต้องส่งสำนวนให้อัยการ แต่ถ้ามีหลักฐาน ที่จะเอาผิด ได้ จะมีอายุความถึง 20 ปี ยืนยันว่า ดำเนินไปตามหลักกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม

คดีน้องชมพู่

สรุปว่า เชื่อว่า น้องชมพู่ ไม่ได้เดินขึ้นไปเอง อาจจะถูกบางคนกระทำด้วยทางตรงหรือทางอ้อม ซึ่งจะมีข้อความผิด ตามที่แจ้งไป

พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม ผกก.กก.1 บก.สส.บช.ย. กล่าวว่า จากที่เด็กหญิงอรวรรณ ได้หายตัวไปจากบ้านพัก วันที่ 11 พฤษภาคม 2563 ชาวบ้านได้ช่วยกันออกตามหาแต่ไม่พบ มารดา ได้เข้าแจ้งความ และระดมออกค้นหาอย่างหนัก จนวันที่ 14 พฤษภาคม 2563 เวลา 19.00 น. พบน้องชมพู่เป็นศพ ในสภาพนอนเปลือย บนเขาภูเหล็กไฟ โดยคดีดังกล่าวเป็นที่สนใจของประชาชน จึงมีการแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบสวนคดี

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สัมภาษณ์พยานบุคคลทั้งสิ้น 384 ปาก สอบปากคำเข้าสำนวนสอบสวน 120 ปาก สอบผู้เชี่ยวชาญ 13 ปาก เก็บวัตถุพยาน 113 ชิ้น เป็นพยานหลักฐานที่เกิดเหตุ 16 ชิ้น เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ 154 ตัวอย่าง สำนวนการสอบสวนหนา 918 หน้า สรุปสำนวนชันสูตร ยืนยันว่า ไม่สามารถเดินขึ้นไปบนจุดพบศพ ด้วยตัวเอง

8 เหตุสรุปสำนวน คดีน้องชมพู่

1. เส้นทางที่ยากลำบากเกินความสามารถ จากเส้นทางที่สามารถเดินเท้าขึ้นไปได้จนถึงจุดพบศพมีจำนวนทั้งสิ้น 4 เส้นทาง จะมีอุปสรรคเป็นเนินหินชัน ทีมีความชันมากกว่า 60 องศามาขวางกั้นอยู่ในทุกเส้นทางเกินความสามารถของน้องชมพู่ เพราะน้องชขมพูยังไม่สามารถขึ้นบันไดที่บ้านได้ ซึ่งบันไดที่บ้านนั้นมีความชันเพียง 45 องศา

2. พลังงานไม่เพียงพอ นักโภชนาการและนักวิทยาศาสตร์ด้านสุขภาพและการกีฬา มีความเห็นสอดคล้องกันว่า อาหารเช้ามื้อสุดท้ายที่น้องชมพู่รับประทานเข้าไปมีเพียงไข่เจียว 3 คำ และน้ำส้ม 1 ขวด ไม่สามารถให้พลังงานได้เพียงพอที่จะเดินขึ้นไปบริเวณจุดพบศพด้วยตัวเองได้

3. ชาวบ้านให้การสอดคล้องว่า เด็กไม่สามารถเดินขึ้นเองได้

4. มีการเทียบเคียงจากการหายตัวของชาวบ้านในหมู่บ้าน ชาวบ้านหาเจอได้ในคืนเดียว

5. แพทย์นิติเวช ได้เดินไปถึงจุดพบศพ พบว่า เด็กไม่สามารถเดินขึ้นไปได้ กุมารแพทย์ ให้ความเห็นว่า เดินห่างจากบ้าน 200 เมตรยังเห็นบ้านได้ และไม่สามารถเดินไปยังจุดพบศพได้

6. สภาพศพ มีสภาพเปลือยกาย บิดา มารดา ยืนยันว่า ถอดเสื้อเองไม่ได้

7. พบเส้นผม 36 เส้น ตกอยู่ข้างศพ โดยพบว่า เกิดจากการตัดการเฉือนด้วยมีด เด็กไม่สามารถตัดเองได้

8. เด็กกลัวที่สูง ที่มืด ไม่เคยเล่นไกลบ้าน พ่อแม่ไม่เคยพาไปไกลบ้านเลยทำให้เชื่อได้ว่า ไม่สามารถเดินขึ้นไปเองได้

คดีน้องชมพู่

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวถึงเวลาการเสียชีวิต สาเหตุการเสียชีวิต ของน้องชมพู่ วัย 3 ขวบ ที่หายจากบ้านเวลาประมาณ 09.49 น. วันที่ 11 พฤษภาคม 2563 เวลาเสียชีวิต จากการบ่งชี้ของแพทย์ วันที่ 12 พฤษภาคม 2563 เวลา 14.30 น. – 13 พฤษภาคม 2563 เวลา 14.30 น. ห้วงเวลา 24 ชม. โดยหนอนที่พบจากการผ่าชันสูตร วันที่ 15 พฤษภาคม 2563 เป็นระยะสาม น่าจะเสีย ชีวิตอย่างน้อย 3 วัน และจุดพบศพบนภูเหล็กไฟ มีอัตราเร่งของการเน่า สาเหตุตาย ไม่พบบาดแผลที่ทำให้อันตรายถึงชีวิต ไม่พบการล่วงละเมิดทางเพศ แพทย์ชี้ว่าเป็นไปได้จากการขาดน้ำ ขาดอาหาร ส่วนของเหลว 10 ซีซี ในกระเพาะ เกิดจากกระบวนการเน่า

ผู้สื่อข่าวถามว่า “ลุงพล” มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า ขณะนี้เราไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะตั้งข้อหาดำเนินคดีกับใคร เราไม่สามารถแถลงได้เลยว่าสงสัย หรือไม่สงสัยใคร ส่วนที่ว่าเป็นจำเลยสังคม ต้องถามว่าใครมอบตำแหน่งนี้ให้เขา

ผู้สื่อข่าวถามว่าคดีนี้ถ้าไม่เกิดเหตุกับ “น้องชมพู่” แทบไม่มีใครรู้จักบ้านกกกอก หรืออะไรต่างๆ ดังนั้นพฤติการณ์คนร้ายนั้นต้องการอะไร ผบ.ตร. กล่าวว่า ข้อแรก ตำรวจวางกรอบการทำงานอย่างไร เราคิดถึงหลักธรรมดาว่าคนที่ถึงตัวเด็ก หรือทำให้เด็กออกไปจากจุดนั้นๆไปสู่จุดที่เด็กหาย วันเวลาที่เด็กหาย ก็ต้องอยู่ตรงนั้น ก็ต้องดูว่าใครเข้าถึงตรงนั้นได้กี่คน ข้อ 2 ข้อเท็จจริงของเรื่องนี้ จากการพูดคุยกับญาติ พ่อแม่ พี่สาว ปกติน้องไม่ยอมให้ใครอุ้ม ตนมีความคิดอยู่ในใจว่าจะเชื่อหรือไม่ สังคมไปตัดสินใจเอาเอง

“เราได้รับการยืนยันว่าน้องไม่ไปกับใครที่แปลกหน้า ถ้าเราเชื่อเรื่องนี้ เราต้องดูว่าใครเข้าถึงตัวน้องได้โดยไม่ร้อง ไม่ต่อต้าน ถ้าไม่ใช่แบบนี้ก็อาจถูกบังคับไป ดังนั้น 1.เป็นคนที่สนิท กับ 2.ไม่รู้จักแต่บังคับไป หรือ 3 ทั้ง 2 ส่วนเอามาผสมกัน คนที่จะทำให้เกิดเรื่องนี้ได้ เชื่อว่าเขาต้องรู้จักภูเขานั้น หรือเคยเดินขึ้นไป เพราะตำแหน่งที่พบศพ น้องไม่ใช่ตำแหน่งที่พบได้ง่าย ตำรวจมีข้อสงสัย หรือตำรวจ หรือผมสงสัยใครพิเศษหรือไม่ ยอมรับว่ามี แต่พูดไม่ได้” พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าว

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวอีกว่า 4 เดือนที่ผ่านมา สำหรับตนไม่ถือว่านาน แต่ประชาชนมองว่าทำไมไม่มีคำตอบ ต้องเรียนว่าความยากง่ายของคดีต่างกัน คดีนี้ถ้าจะยากเพราะมีกระแสต่างๆที่ถูกสร้างขึ้น หรือเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ หรือใครสร้างก็แล้วแต่ มีผลให้เจ้าหน้าที่ทำงานยาก แต่ไม่ได้แปลว่าเราจะเลิก เราไม่เลิก ตนบอกได้แค่ว่าถ้ามีพยานหลักฐานพอ เราจับแล้ว

สถานะของลุงพลขณะนี้เป็นผู้บริสุทธิ์ หรือผู้ต้องสงสัย ผมยืนยันคำเดิมว่าขณะนี้ยังไม่ตั้งข้อหาใคร ดังนั้นในทางกฎหมายคนไม่มีข้อหาถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ขณะเดียวกันขอให้คนร้ายที่ฟังอยู่นอนเครียดต่อไป เพราะเรายังไม่เลิก 1 ปีสำนวนอาจจะงดไป แต่การสืบสวนยังทำไปต่อตามอายุความ 20 ปี ผบ.ตร. กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo