Politics

‘ป.ป.ช.’ รอตีความ ‘นิพนธ์ บุญญามณี’ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่!

ป.ป.ช. เตรียมรับรองสำนวน “นิพนธ์ บุญญามณี” สัปดาห์หน้า ก่อนส่ง อัยการ-ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ตีความกฎหมาย ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ด้านเจ้าตัวยันไม่โกง!

ที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณี ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา กรณีละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ มิได้อนุมัติงบประมาณเบิกจ่ายเงินให้กับบริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด เป็นค่ารถซ่อมบำรุงทางเอนกประสงค์ 2 คัน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 50,850,000 บาทว่า คดีดังกล่าวกระบวนการพิจารณาชี้มูลฯ ยังไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ตามขั้นตอน จะมีการนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ในต้นสัปดาห์หน้า เพื่อพิจารณาว่า จะรับรองมติ ที่มีไปก่อนหน้านี้ จากนั้น จึงจะแถลงรายละเอียดทั้งหมดต่อสาธารณชน

ป.ป.ช.

นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษก ป.ป.ช. ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ คดีดังกล่าวได้ถูกนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชุดใหญ่แล้ว แต่ที่ยังไม่ยืนยันมติชี้มูลความผิด เพราะขั้นตอนยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งหากมีการชี้มูลความผิดจริง ก็จะต้องส่งเรื่องต่อให้อัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ

ส่วนปัญหาข้อกฎหมายในประเด็นที่ว่า ถ้าเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทำการทุจริตในตำแหน่งหนึ่ง และปัจจุบันเข้ารับตำแหน่งใหม่ จะส่งผลให้ต้องพ้นจากการดำรงตำแหน่งหรือไม่นั้น ถือเป็นเรื่องที่ต้องตีความ โดยถ้าอัยการสูงสุดยื่นฟ้องไปยังศาล ศาลจะพิจารณาว่า บุคคลดังกล่าวจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งใด ดังนั้น จึงไม่สามารถบอกได้ว่า หากชี้มูลนายนิพนธ์จริง นายนิพนธ์จะต้องพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ตามพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. กำหนดโดยคำสั่ง คสช. ได้ให้อำนาจคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการวินิจฉัยตีความ หากพบว่ามีข้อกฎหมายที่เกิดขึ้นจากการพิจารณาคดี ซึ่งหากนายนิพนธ์ ต้องการจะหารือเรื่องข้อกฎหมาย ก็อาจส่งเรื่องให้องค์คณะเป็นผู้วินิจฉัยได้ แต่ที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีกรณีดังกล่าว เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการ ซึ่งหากมี ก็อาจจะต้องมีการรวบรวมรายละเอียด เพื่อวินิจฉัยต่อไป

“นิพนธ์” โร่แจง ไม่ได้โกง!

ด้านนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2556 (ก่อนที่ตนจะมารับตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา) มีการประกาศจัดหารถซ่อมทาง วงเงิน 52 ล้านบาท และในการประมูลดังกล่าวมีผู้ยื่นประมูล 2 ราย ได้แก่ บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด (ยื่นประมูล 50,850,000 บาท) และบริษัท เอส พี เค ออโต้เทค จำกัด( ยื่นประมูล 50,900,000 บาท) ผลปรากฏว่า บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูลด้วยราคาที่ต่ำกว่า 50,000 บาท โดยในขณะนั้นได้รับข้อมูลร้องเรียนว่า ทั้ง 2 บริษัทมีการทุจริต และต่อมายังตรวจสอบได้ว่า บริษัททั้งสองมีการปลอมแปลงเอกสารเพื่อยื่นประมูลงานอีกด้วย

ป.ป.ช.

ต่อมาวันที่ 31 พฤษภาคม 2556 (ก่อนตนรับตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา) นายก อบจ.สงขลาในขณะนั้น ได้ลงนามในสัญญาซื้อรถซ่อมทางเอนกประสงค์ กับ บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด โดยกำหนดส่งมอบรถภายใน 180 วัน และวันที่ 7 มิถุนายน 2556 (ก่อนตนรับตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา) หลังจากลงนามสัญญาซื้อรถซ่อมทางเอนกประสงค์ได้เพียง 7 วัน นายกอบจ.สงขลา ในขณะนั้น ประกาศลาออกจากตำแหน่ง วันที่ 4 สิงหาคม 2556 มีการจัดการเลือกตั้ง นายก อบจ.สงขลา ขึ้นใหม่ ผลปรากฏว่า นายนิพนธ์ บุญญามณี ได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา คนใหม่และเข้าปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 28 สิงหาคม 2556

จากนั้นวันที่ 8 ตุลาคม 2556 บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด ส่งมอบรถซ่อมทางเอนกประสงค์ ตามสัญญากับ อบจ.สงขลา โดยคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ อบจ.สงขลา ทำการทดสอบและตรวจรับรถซ่อมทางเอนกประสงค์ในวันที่ 9 ตุลาคม 2556 ซึ่งการทดสอบนั้นเป็นการทดสอบระบบต่างๆของรถว่าใช้งานได้จริงตามวัตถุประสงค์หรือไม่ และใช้ระยะเวลากว่า 90 วัน กองช่างจึงได้รายงานผลการทดสอบ ในวันที่ 9 มกราคม 2557

และในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2556 ระหว่างที่ผลการทดสอบตรวจรับรถยังไม่เสร็จสิ้นบริษัท ไทยวินเนอร์ ทรัค จำกัด ได้มีการร้องเรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ผู้ตรวจเงินแผ่นดินภาค 15 ป.ป.ช และ ตนในฐานะนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ถึงความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อว่า มีการฮั้วประมูลและล็อกสเปค ทำให้ตนที่เพิ่งรับตำแหน่งนายกอบจ.สงขลา คนใหม่ และไม่ทราบถึงรายละเอียดการจัดซื้อจัดจ้างรถซ่อมทางเอนกประสงค์ดังกล่าวมาก่อน และเป็นการดำเนินการก่อนที่ตนจะมารับตำแหน่งอีกด้วย

จึงจำเป็นต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า การจัดซื้อรถดังกล่าวที่ผ่านมานั้นถูกต้องตามระเบียบและตามข้อร้องเรียนหรือไม่เพื่อไม่ให้ทางราชการเสียหายและรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง อบจ.สงขลาก็ได้มีการจัดซื้อรถดังกล่าวไปแล้ว 2 ครั้ง ครั้งละ 1 คัน และครั้งนี้เป็นการจัดซื้ออีกเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 1 ปี อีกจำนวน 2คัน รวมเป็น 4 คัน

นายนิพนธ์ กล่าวว่า วันที่ 7 มกราคม 2557 รองผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งปฏิบัติหน้าที่แทนผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้มีหนังสือถึงตนให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องที่ บริษัท ไทยวินเนอร์ ทรัค จำกัด ได้ทำการร้องเรียนปัญหาดังกล่าว โดยตนในฐานะที่บริหารองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ในตำแหน่งนายกอบจ.สงขลา จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาและตามที่คู่กรณีทั้งสองฝ่ายร้องเรียนเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อราชการ

และในวันที่ 5 มิถุนายน 2557 ซึ่งยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลามีหนังสือถึง อบจ.สงขลา ขอให้จ่ายเงินให้แก่บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด แต่ในขณะเดียวกันก็ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องที่มีผู้ร้องเรียนถึงความไม่โปร่งใส ในการประกวดราคาซื้อรถครั้งนี้ด้วย โดยตนพิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการยังไม่เสร็จสิ้น

ดังนั้น เพื่อเป็นประโยชน์แก่ทางราชการ และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ควรรอผลตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนที่จะมีการชำระเงินให้แก่ บริษัท พลวิศว์ เพค พลัส จำกัด และหากอนุมัติให้จ่ายเงินไป โดยที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการประกวดราคาและจัดซื้อยังไม่เสร็จสิ้น และถ้าหากภายหลังคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเห็นว่า การจัดซื้อไม่ชอบ และการประมูลจัดซื้อตกเป็นโมฆะ จะทำให้รัฐเสียหายเป็นเงินจำนวนมากยากที่จะเรียกเงินคืน เพราะ บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด มีทุนจดทะเบียนเพียง 1 ล้านบาทเท่านั้น 

อีกทั้งหากอนุมัติให้จ่ายเงินไป ตนอาจถูกดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญาได้ ดังนั้นเพื่อให้ได้ข้อยุติที่เป็นธรรมกับทุกฝ่ายและรักษาผลประโยชน์ของทางราชการ การจ่ายเงินควรดำเนินการภายหลังผลสรุปของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าการประมูลจัดซื้อได้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามระเบียบและกฎหมายหรือไม่เสียก่อน

นายนิพนธ์ กล่าวว่า วันที่ 25 กรกฎาคม 2557 คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง รายงานผลการสอบข้อเท็จจริงว่า การประมูลซื้อไม่เป็นไปตามคุณลักษณะเฉพาะตามที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลากำหนด การที่คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง มีความเห็นว่า การประกวดราคาและการจัดซื้อรถ มีเจตนาไม่สุจริต เป็นการสมยอมกันในการเสนอราคาทำให้การแข่งขันกันอย่างไม่เป็นธรรมนั้น ผลก็คือการประกวดราคาและการจัดซื้อรถจึงตกเป็นโมฆะ และ อบจ.สงขลา ได้นำผลการสอบสวนของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงรายงานให้ศาลปกครองพิจารณาแล้ว อีกทั้ง อบจ.สงขลาได้นำผลรายงานการสอบสวนดังกล่าวให้ จังหวัดสงขลา ผู้ตรวจเงินแผ่นดินภาค 15 และ ป.ป.ช. ทราบแล้ว

“นอกจากนี้ ยังปรากฏหลักฐานจากต่างประเทศหลายแห่ง เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ออสเตรเลีย หลักฐานจากนอร์เวย์ สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย เป็นต้น ที่รับรองไว้แล้วว่า บริษัทคู่เทียบเอกชนในการจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ดังกล่าว ไม่ได้มีตัวตนอยู่จริง และจากกรณีปลอมแปลงเอกสารดังกล่าวองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ก็ได้มีการไปแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลาไว้แล้ว” นายนิพนธ์ กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo