อุดรธานีเป็นจังหวัดชายแดนภาคอีสานตอนเหนือ ที่ได้อานิสงส์กำลังซื้อจากธุรกิจการค้าในท้องถิ่น ที่มีแรงหนุนจากลูกค้าข้ามชายแดนจากลาวเข้ามา ทำให้กิจการร้านค้าต่างๆ คึกคัก โดยเฉพาะกิจการร้านเพชร และร้านทอง ที่ได้ลูกค้าลาวข้ามฝั่งมาอุดหนุนอย่างต่อเนื่อง
เช่นเดียวกับ “ห้างเพชรทองแม่ไพจิตร” ซึ่งเป็นร้านค้าเพชรและทองรายใหญ่ของจังหวัดอุดรธานี เปิดดำเนินการมากว่า 20 ปี มีสาขาร้านเพชรทองภายในจังหวัดมากถึง 12 สาขา เติบโตต่อเนื่องมาตลอด แม้ใน 3 ปีหลังมานี้เศรษฐกิจชะลอตัว แต่กิจการร้านเพชรทองก็ยังคงไปได้เรื่อยๆ
ด้วยความพร้อมของจังหวัด และกำลังซื้อที่ค่อนข้างดีทำให้เจ้าของห้างเพชรทองแม่ไพจิตร ตัดสินใจแตกไลน์ธุรกิจ ลุกขึ้นมาลงทุนในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โครงการแรกในนามบริษัท รอยัล ครีค กอล์ฟ คลับ แอนด์ รีสอร์ท จำกัด ใช้งบลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท พัฒนาที่ดิน 500 ไร่ ขึ้นมาเป็นทั้งสนามกอล์ฟ มาตรฐาน 18 หลุม บ้านจัดสรรระดับหรู และรีสอร์ทริมสนามกอล์ฟ โครงการแรกในอุดรธานี
นายธีระ เธียรวาริช ประธานกรรมการ บริษัท รอยัล ครีค กอล์ฟ คลับ แอนด์ รีสอร์ท จำกัด นักธุรกิจอุดรธานี เชื้อสายเวียดนาม ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในท้องถิ่น กล่าวว่า การลุกขึ้นมาพัฒนาโครงการสนามกอล์ฟ รีสอร์ท และบ้านจัดสรรระดับหรูครั้งนี้ เนื่องจากมองว่าอุดรธานี มีความพร้อม มีกำลังซื้อ แต่ยังไม่มีโครงการระดับนี้ ออกมารองรับตลาด ทั้งที่จำนวนนักกอล์ฟในจังหวัดมีอยู่มากกว่า 6,000 คน และกลุ่มเศรษฐีในพื้นที่มีจำนวนไม่น้อย จึงตัดสินใจลงทุนพัฒนาโครงการนี้ขึ้นมา
โดยเป็นการซื้อที่ดิน จำนวนกว่า 500 ไร่ ที่อำเภอเพ็ญ รอยต่ออำเภอเมือง ห่างจากตัวเมืองอุดรธานี 17 กม. โดยรวบรวมซื้อที่ดินกว่า 26 แปลง ในราคาไร่ละ 5 แสนบาท เมื่อสองปีก่อนหน้านี้ นำมาพัฒนาเป็นโครงการสนามกอล์ฟมาตรฐาน 18 หลุม พาร์ 72 ซึ่งจะพร้อมเปิดบริการ 9 หลุมแรกในช่วงปลายปีนี้ ที่เหลืออีก 9 หลุม จะพร้อมเปิดบริการในเดือนเมษายน 2562
สนามกอล์ฟ รอยัล ครีค ออกแบบโดยโปรกอล์ฟและสถาปนิกคนไทย นายเสกสรร โหนทองหลาง และนายทันสวัสดิ์ กาปัญญา ซึ่งเป็นที่ปรึกษด้านการออกแบบ และก่อสร้างสนามกอล์ฟ มีประสบการณ์ด้านการก่อสร้างสนามกอล์ฟมากว่า 20 ปี ดูแลมาหลายสนาม เช่น สนามกอล์ฟปัญญารามอินทรา สนามกอล์ฟอัลไพน์ฯ สนามกอล์ฟ กรีนวัลเลย์ คันทรีคลับเชียงใหม่ เป็นต้น
นอกจากสนามกอล์ฟแล้ว ในโครงการยังได้แบ่งที่ดินจำนวน 60 ไร่ นำมาจัดสรรเป็นบ้านเดี่ยวสไตล์โมเดิร์น จำนวน 100 ยูนิต เป็นบ้านเดี่ยวสองชั้น 4 ห้องนอน สร้างบนที่ดิน 180 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 240 ตารางเมตร จะเปิดขายที่ระดับราคา 7-13 ล้านบาท เป็นตลาดระดับบน ซึ่งคาดว่ากำลังซื้อในพื้นที่มีมากพอ และมั่นใจว่าจะขายปิดโครงการได้ภายใน 6 เดือนหลังเปิดขายวันแรก 18 กันยายนี้ พร้อมการเปิดแนะนำสนามกอล์ฟ รอยัล ครีค
โครงการนี้จะยกระดับจังหวัดอุดรธานี ให้มีบริการระดับหรูขึ้นมารองรับตลาดในพื้นที่
ตั้งเป้าขายต่างชาติ 60%
นายธีระ กล่าวว่า นอกจากสนามกอล์ฟ และบ้านจัดสรรแล้ว ภายในโครงการยังจะพัฒนาเป็นรีสอร์ท รอยัล ครีค กอล์ฟคลับ อีกจำนวน 48 หลัง และบ้านพักระดับวีไอพีอีก 2 หลัง เพื่อรองรับแขกผู้ใหญ่ โดยในส่วนของรีสอร์ทนั้น คาดว่าจะเปิดบริการได้ ปลายปี 2562 หลังเปิดสนามกอล์ฟอย่างเต็มรูปแบบได้ 6 เดือน โดยจะเปิดบริการในระดับราคา 1,500-2,000 บาท/คืน
สำหรับการบริหารสนามกอล์ฟ นายธีระ กล่าวว่าจะใช้ทีมบริหารมืออาชีพ สร้างมาตรฐานที่เป็นสากล เพราะโครงการนี้ตั้งเป้ารองรับลูกค้าต่างชาติ 60% และคนไทย 40%
ลูกค้าต่างชาติที่เริ่มติดต่อมาบ้างแล้วคือ กลุ่มนักกอล์ฟจากเกาหลี ที่สนใจมาเป็นสมาชิก ซึ่งในเบื้องต้นกำหนดว่าจะมีทั้งสมาชิกรายปี และสมาชิกตลอดชีพ โดยสมาชิกตลอดชีพจะขายในราคา 5 แสนบาท สามารถส่งต่อเปลี่ยนมือได้ ส่วนสมาชิกรายปีขายที่ 6 หมื่นบาท