การบินไทย ยุค ‘รักษาการ’ พบฝ่ายบริหารเซ็นแต่งตั้งโยกย้ายพนักงานไม่เว้นแต่ละเดือน ทั้งๆที่เป็นองค์กรที่ต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ พนักงาน”งง”ทำได้ยังไง
การบินไทย ยุค ‘รักษาการ’ หลายๆหน่วยงานช่วงนี้ คงเป็นช่วงแต่งตั้งโยกย้าย ช่วงเก้าอี้ดนตรี ทั้งส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและกึ่งรัฐวิสาหกิจ แต่สำหรับคนที่เกษียณอายุราชการไป หรืออายุครบ 60 ปี ถือเป็นช่วงแห่งการพักผ่อนของชีวิต หลังตรากตรำ ทำงานกันมาทั้งหนัก ทั้งเบา แล้วแต่หน้าที่
เรียกว่า”เก่าไป ใหม่มา” เป็นเรื่องปกติ แต่ที่ไม่ค่อยปกติ เห็นทีจะเป็นการแต่งตั่งโยกย้าย ในบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ทั้งๆที่ศาลล้มละลายกลาง เพิ่งเห็นชอบให้การบินไทย เข้าสู่กระบวนการให้ฟื้นฟูกิจการ พร้อมให้บริษัท อีวาย คอร์ปอเรทแอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด และกรรมการบริษัทอีก 6 คน ทั้ง พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน, นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค, นายบุญทักษ์ หวังเจริญ, นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ และนายชาญศิลป์ ตรีนุชกร เป็นผู้ดำเนินการฟื้นฟูกิจการ
วันก่อนเห็น ชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ การบินไทย บอกว่าจะเปิดให้เจ้าหนี้ยื่นขอรับชำระหนี้ตั้งแต่ 14 กันายน เป็นต้นไป เป็นเวลา 1 เดือน ที่กรมบังคับคดี สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) บริษัทการบินไทย สำนักงานใหญ่ ยังมั่นใจว่าเจ้าหนี้จะให้ความร่วมมือ ประนีประนอมหนี้ร่วมกัน ยังเชื่อว่ากระบวนการจัดทำแผนฟื้นฟูจะแล้วเสร็จ พร้อมเสนอศาลภายในไตรมาสที่ 4 ปีนี้ ก็อยากจะเอาใจช่วยการบินไทยให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ ในฐานะ เจ้าหนี้คนหนึ่ง จะไม่ขอคัดค้านใดๆทั้งสิ้น
แต่ใครจะเชื่อว่าอีกมุมหนึ่ง ในการบินไทยเวลานี้ มีแต่เสียงบ่นพรึมพรำ ออกมาจากพนักงาน โดยเฉพาะการแต่งตั้งโยกย้าย ที่มีแต่ประเภท (รักษาการ) ทุกเดือนบางเดือนมีคำสั่งออกมาถึง 2-3 ครั้ง ยิ่งช่วงหลังตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา ดูเหมือนมีแต่การแต่งตั้งโยกย้าย “ประเภทรักษาการ”ถี่มาก บางคำสั่งเซ็นแต่งตั้งโยกย้ายกว่า 30 ตำแหน่ง จนบางครั้งทำให้อดคิดไม่ได้ว่า เราเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า การบินไทยไม่เป็นอะไรใช่ไหม เขายังอยู่ดีมีสุข ไม่ได้เข้าสู่กระบวนการล้มละลาย ตามที่ปรากฎเป็นข่าวใช่หรือไม่ เพราะเห็นคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายออกมาถี่มากช่วง 3 เดือนนี้ไม่ต่ำกว่า 60-70 ตำแหน่งไปแล้ว โอ้แม่เจ้า!!
ผู้คนในการบินไทยจำนวนไม่น้อย เกิดอาการข้องใจทำไมมีแต่ การแต่งตั้งโยกย้ายช่วงนี้ ทั้งๆที่องค์กรก็ยังอยู่ในกระบวนการ ยิ่งเห็นเหตุผลของการแต่งตั้ง บอกว่าการบินไทยอยู่ระหว่างการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการ และปัจจุบันมีตำแหน่งงานระดับบริหารที่สำคัญว่างหลายหน่วยงาน ผู้บริหารหลายตำแหน่งเกษียณอายุ แต่ที่ประหลาดใจเมื่อองค์กรอยู่ระหว่างทำแผนฟื้นฟูกิจการ และยังไม่รู้ว่าจากนี้ไปองค์กรจะเป็นอย่างไร การเร่งรีบ แต่งตั้งโยกย้าย แบบรักษาการ จำเป็นจริงหรือ สงสัยต่อแค่ “รักษาการ”อำนาจเด็ดขาดมีแค่ไหน ยิ่งไปกว่านี้จากนี้ไปการบินไทยไม่ใช่รัฐวิสาหกิจอีกแล้ว องค์กรไม่น่าจะใหญ่โตอย่างที่เป็นอยู่ ทำไมไม่รอก่อน!!
หลายคนตั้งคำถามว่า ทำไมไม่รอให้การบินไทย จัดทัพโครงสร้างองค์กรใหม่ภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการให้เสร็จก่อนว่า จะมีขนาดองค์กรแค่ไหน แต่ละฝ่ายแต่ละแผนกเป็นอย่างไร พนักงานที่จะอยู่ต่อไปต้องมีเท่าไหร่ ทำไมไม่รอตอนนั้น ทำไมต้องมาเร่งรีบแต่งตั้งโยกย้าย “รักษาการ” แบบเทกระจาดซะอย่างนั้น
มีเสียงนินทาแว่วๆมาว่า การแต่งตั้งโยกย้ายยุคนี้ ตำแหน่งสำคัญหลายๆตำแหน่ง แทบจะไม่มีการสอบแข่งขัน วัดความสามารถโดยแท้จริงกันซะแล้ว แต่อยู่ในสภาพเด็กใครเด็กมัน จริงเท็จแค่ไหนฝ่ายบริหารการบินไทยหรือผู้ที่เกี่ยวข้องเท่านั้นที่จะรู้ดีเรื่องนี้ บางคนแอบกระวิบบอกว่า ทำแบบคู่เทียบยังกับงานประมูล โดยที่คู่เทียบอีกฝ่ายไม่รู้เรื่องเอาเสียเลย
ทำให้พนักงานมองว่าฝ่ายบริหารสมัยนี้ สงสัยจะเก่งและถนัด อยู่กับการเซ็นโยกย้ายหรืออย่างไร
ยิ่งเห็นคำสั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2563 มีการเซ็นแต่งตั้งโยกย้ายถึง 32 ตำแหน่ง เหมือนเทกระจาดยังไงไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ เป็นไปตามคำทำนายของคนในการบินไทย ทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ ถึงการแต่งตั้ง “เจเจ” รักษาการระดับ “ผู้อำนวยการ” เม้าท์กันสนั่นย่านถนนวิภาวดี ทำนองต้องเร่งรีบแต่งตั้ง เพราะไม่เช่นนั้น อาจจะ ตกขบวนรถไฟได้ ที่สำคัญจะผิดกฎระเบียบการบินไทยอีกต่างหาก ยังไงๆต้องรีบเซ็นแต่งตั้งก่อน 1 ตุลาคม เพื่อจะได้อยู่ในตำแหน่งครบ 1 ปี นั่นหมายถึงไปจบที่ 30 กันยายนนั่นเอง
ก่อนหน้านี้ เม้าท์กันกระจาย ว่ามีความพยายามที่จะดันให้เป็น ผู้อำนวยการฝ่ายกำกับกฎเกณฑ์และส่งเสริมธรรมาภิบาล แต่บังเอิญช่วงนั้นข่าวรั่วซะก่อน เลยต้องเบนเข็มทิศใหม่ มาคราวนี้รอช้าไม่ได้ เวลาไม่คอยท่า จำต้องจรดปลายปากกา เซ็นคำสั่งให้ “เจเจ” สมดั่งใจ
หลายคนยังเกิดความสงสัยว่า ฝ่ายบริหารการบินไทยยังจะต้องเซ็นแต่งตั้งโยกย้ายอีกนานเท่าไหร่ แล้วองค์กรแห่งนี้จำเป็นต้องใช้พนักงานสักเท่าไหร่ ส่วนพนักงานที่ไม่ประสงค์จะทำงานต่อ พวกเขาสามารถลาออกไปแล้วได้รับสิทธิ์อะไรบ้าง ที่สำคัญการบินไทยจะต้องปรับลดพนักงานเท่าไหร่ เมื่อไหร่ นี่คือสิ่งที่พนักงานอยากรู้
ตรงกันข้ามวันนี้ฝ่ายบริหาร ยังสนุกสนานกับปรากฎการณ์ “ปาท่องโก๋ ฟีเวอร์” มุ่งมั่นกับการ เพิ่มกระทะทอดปาท่องโก๋ ก็ต้องยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ดี กับการหารายได้เพิ่มให้กับองค์กร แต่คงไม่ใช่ภารกิจหลักของการบินไทยแน่นอน กับ“ปาท่องโก๋ ฟีเวอร์” จริงๆ ปาท่องโก๋ ของการบินไทยก็มีขายมานานแล้วนะ แต่มาช่วงนี้กลายเป็น ปาท่องโก๋ การบินไทย ฟีเวอร์ ไปซะอย่างนั้น ขอก็แสดงความยินดีด้วย แต่อาจต้องเผื่อใจไว้บ้างวันหนึ่งผู้บริโภคอาจจะเน้นสุขภาพ จนอาจต้องลดการกินปาท่องโก๋ลงก็เป็นได้
ฉะนั้นภารกิจหลักของการบินไทย น่าจะยังเป็นเรื่องการจัดการองค์กรให้ฟื้นขึ้นมา จากแผนฟื้นฟูกิจการ การลดพนักงาน การหารายได้ จากการบินหลังวิกฤติโควิด-19 คลี่คลายไม่ใช่หรือ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- การบินไทยยุคฟื้นฟู! กับ ‘หญิงใหญ่วัยใกล้เกษียณ’
- ไม่ต้องตื่นตี 5 ไปต่อคิว! ไทยสมายล์เสิร์ฟ ‘ปาท่องโก๋การบินไทย’ บนเครื่องบิน
- อีกระลอก!! การบินไทยหั่น 10-70% ‘เงินเดือน-ค่าตอบแทน-ลาไม่รับค่าจ้าง’
