The Bangkok Insight

ท่องเที่ยวขยายตัวดันบริการโตเพิ่ม หนุนดัชนีความเชื่อมั่นพุ่งสุด 8 เดือน

ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย พุ่งสูงสุดในรอบ 8 เดือน ที่ 49.8 แรงหนุนจากการท่องเที่ยวขยายตัว ดันภาคบริการดีขึ้น แต่เอกชนยังห่วงเศรษฐกิจโตแบบกระจุกตัว

glinn
กลินท์ สารสิน

นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย และนางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ในวันนี้ (18 ก.ย.) ว่า ค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 49.8 ถือว่าสูงสุดในรอบ 8 เดือน เป็นผลมาจากการท่องเที่ยวขยายตัวดี ส่งผลให้ภาคบริการปรับตัวดีขึ้น และราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการปรับตัวดีขึ้นแต่ยังไม่เต็มที่ ประกอบกับตัวเลขการส่งออกของไทยเพิ่มขึ้นทุกรายการ

ดอกเบี้ยซึ่งอยู่ในระดับคงที่ และรัฐลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งใกล้เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว ทำให้ภาคธุรกิจโดยรวมต่างมั่นใจสถานการณ์เศรษฐกิจในอนาคตอยู่ในช่วงขาขึ้น

อย่างไรก็ดี สมาชิกหอการค้าไทยส่วนใหญ่แสดงความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ยังกระจุกตัว โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคกลาง ที่ได้อานิสงส์จากการขยายตัวของเศรษฐกิจค่อนข้างน้อย และยังต้องเผชิญปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ

ทั้งยังถูกซ้ำเติมจากปัญหาอุทกภัย และธนาคารเพิ่มเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ดังนั้น อยากให้รัฐบาลดูแลบริหารจัดการให้อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจแต่ละภูมิภาคกระจายสู่ทุกภูมิภาคอย่างเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง

สำหรับเรื่องสงครามการค้าโลก ที่มีแนวโน้มปะทุรอบใหม่นั้น ภาคเอกชนมองว่าน่าจะส่งผลดีต่อไทย ทั้งด้านการส่งออกและการลงทุน

นอกจากนี้ ยังเชื่อมั่นว่า การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น จะทำให้นักลงทุนมั่นใจเสถียรภาพเศรษฐกิจไทย ส่งผลให้เข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งแม้โดยรวมแล้วแม้จะไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐ-จีน ไม่ได้ส่งผลกระทบกับการส่งออกไทยแต่อย่างใด

โดยมองว่าทั้ง 2 ฝ่ายขัดแย้งกัน ไทยจะยิ่งได้อานิสงส์เชิงบวกทั้งด้านการส่งออกและการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่ 24 กันยายนนี้ ภาคเอกชนสหรัฐกว่า 300 รายจะร่วมคณะมากับหอการค้าสหรัฐเดินทางมาประชุมร่วมกับหอการค้าไทยที่โรงแรมดุสิตธานี และจะเข้าพบพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีด้วย

ส่งออก3

ทั้งนี้ ในจำนวนนักธุรกิจสหรัฐหลายรายที่เข้าไปลงทุนในจีน ก็มีความเป็นไปได้ที่จะพิจารณาเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่ม ในฐานะประเทศที่เป็นศูนย์กลางของอาเซียน เพื่อจะยังคงรักษาตลาดจีนไว้ ประกอบกับไทยกำลังเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย และไทยก็จะเป็นประธานอาเซียนปีหน้า ทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเพิ่มขึ้น และจะยิ่งเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจไทยในภาพรวม

นางเสาวณีย์ กล่าวว่า แม้ว่าสงครามการค้าที่กำลังจะปะทุขึ้นรอบใหม่ โดยรวมคิดว่าจะไม่กระทบการส่งออกของไทย แต่ในทางตรงกันข้ามจะยิ่งเป็นโอกาสของไทย เพราะจะทำให้มีการนำเข้าสินค้าจากไทยมากขึ้น

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight