Politics

‘บิ๊กป้อม’ สั่งเร่งโครงการบรรเทาภัยแล้ง – น้ำท่วม จ.สมุทรสงคราม

“บิ๊กป้อม” สั่งเร่งโครงการบรรเทาปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม จ.สมุทรสงคราม  พร้อมวางแผนการพัฒนาต่อยอดการใช้ประโยชน์พื้นที่อย่างเป็นระบบ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รายงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่าจากการลงพื้นที่ที่จังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อเร่งรัดโครงการบรรเทาปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม ได้รับจัดสรรงบกลางตามมติครม. เมื่อ วันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา รวมถึงการวางแผนการใช้ประโยชน์จากแก้มลิงทุ่งหินให้เป็นแหล่งน้ำ สำหรับบริหารจัดการน้ำแล้ง น้ำท่วม อุปโภค-บริโภคและเป็นแหล่งท่องเที่ยวในอนาคตนั้น ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการศึกษา ออกแบบ ปรับปรุงประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำและการใช้น้ำให้เหมาะสม การนำน้ำเข้า- น้ำออก การบริหารจัดการแก้มลิง การพัฒนาระบบประปาโครงข่ายถนนและการปรับภูมิทัศน์ รวมถึงการขุดลอกการจัดการเรื่องคุณภาพน้ำทั้งความเค็มและสิ่งปนเปื้อน โดยให้ทุกหน่วยงานวางแผนการพัฒนาต่อยอดการใช้ประโยชน์พื้นที่อย่างเป็นระบบ คำนึงถึงความคุ้มค่าและจำเป็น ทั้งนี้ได้กำชับให้สำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติกำกับติดตามการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง

ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประวิตร ในฐานะผู้อำนวยการ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) พร้อมคณะเดินทางไปปฏิบัติราชการ เพื่อตรวจติดตาม โครงการแก้มลิงทุ่งหิน ต.ยี่สาร  อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม โดยมีนายชรัส บุญณสะ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม ให้การต้อนรับ

โดยพล.อ.ประวิตร รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำ และการเตรียมพื้นที่รองรับน้ำในพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม จากเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ซึ่งมีความคืบหน้าการดำเนินงานอย่างน่าพอใจมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่สำคัญในความรับผิดชอบนำเสนอการจัดการและการดำเนินงาน การใช้ประโยชน์จากการพัฒนาพื้นที่แก้มลิงทุ่งหินได้แก่ กรมชลประทาน ,กรมโยธาธิการและผังเมือง,กรมทางหลวงชนบท และการประปาส่วนภูมิภาค

ประวิตร3 2

ทั้งนี้ โครงการแก้มลิงทุ่งหิน เป็นโครงการที่มีเนื้อที่แก้มลิงประมาณ 2,623ไร่ มีความจุน้ำได้ประมาณ 15 ล้าน ลบ.ม. ระยะเวลาโครงการตั้งแต่ปีงบประมาณ 64-66 ประกอบด้วย งานขุดดิน ,ขนย้าย และทำคันดิน รวมถึงการก่อสร้างอาคารชลประทาน มีจำนวน 6 แห่งได้แก่ โครงการท่อรับน้ำ1แห่ง ,โครงการท่อระบายน้ำ 2 แห่ง และโครงการประตูระบายน้ำ 3 แห่ง เมื่อก่อสร้างโครงการแก้มลิงทุ่งหินแล้วเสร็จ จะสามารถใช้เป็นพื้นที่เก็บกักน้ำต้นทุน เพื่อการอุปโภค-บริโภคของประชาชน จ.สมุทรสงครามได้ และสามารถแก้ปัญหาน้ำหลากในฤดูฝน กรณีเมื่อฝนตก และมีปริมาณน้ำมาก แต่ไม่สามารถระบายสู่ทะเลได้ทันที

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight