การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยังคงเติบโต หลายโครงการขยายทำเลออกไปนอกใจกลางเมือง ด้วยเหตุผลหาที่ดินแปลงที่เหมาะสมในเมืองไม่ได้ เพราะที่ดินขนาดใหญ่ทำเลในเมือง นับวันยิ่งหายาก แถมราคาทีดินในเมืองก็ปรับตัวสูงขึ้น ตามความต้องการของตลาดและเจ้าของที่ดิน
ล่าสุด ซีบีอาร์อี ประเทศไทย บริษัทตัวแทนขายและที่ปรึกษาการลงทุนเชื้อสายอังกฤษ ที่อยู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยมายาวนานกว่า 20 ปี ได้เป็นตัวแทนขายที่ดินแปลงใหญ่ เนื้อที่ 28 ไร่ บนถนนรัชดาภิเษก เตรียมนำออกขายในลักษณะการเปิดประมูล โดยกำหนดวันเปิดซองประมูลเป็นวันพุธที่ 28 พฤศจิกายนนี้ คาดว่าจะเป็นที่ดินอีกแปลงที่ทำราคาขายสูงเป็นประวัติศาสตร์
นางกุลวดี สว่างศรี กรรมการบริหารและหัวหน้าแผนกการลงทุนและที่ดิน ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวว่า ราคาที่ดินบนถนนรัชดาภิเษก มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้ง ขนาด รูปร่างของที่ดิน และที่สำคัญถ้าติดรถไฟฟ้า ก็จะมีผู้สนใจมากและราคายิ่งสูง
ย่านรัชดาภิเษกนั้น ถือเป็นย่านที่มีความเจริญ มีความสำคัญทางเศรษฐกิจและการเงิน และมีระบบขนส่งมวลชนที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง โดยอาคารเอไอเอ แคปิตอล เซ็นเตอร์ นับเป็นโครงการนำร่องที่ประสบความสำเร็จมีผู้เช่าเต็ม ทำให้ย่านรัชดาภิเษกมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันแปลงที่ดินขนาดใหญ่ ที่มีการเสนอขายนั้นมีน้อยมาก การเปิดขายที่ดินแปลงใหญ่ขนาด 28 ไร่บนถนนรัชดาภิเษก จึงเป็นโอกาสที่สำคัญของผู้พัฒนาโครงการประเภทมิกซ์ยูส ขนาดใหญ่
ที่ดินแปลงดังกล่าว เป็นที่ดินเปล่าขนาดใหญ่ บนถนนรัชดาภิเษก มีเนื้อที่ประมาณ 28 ไร่ และมีอัตราส่วนพื้นที่อาคารรวมต่อพื้นที่ดิน (FAR : Floor Area Ratio) ที่ 7 : 1 สามารถพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ และเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานครได้
ซีบีอาร์อีคาดว่า ที่ดินแปลงนี้จะเป็นการซื้อขายที่ดินขนาดใหญ่ ที่มีมูลค่าสูงมากอีกแปลงหนึ่ง
ก่อนหน้านี้ ซีบีอาร์อี ได้เป็นตัวแทนขายที่ดินสถานทูตอังกฤษขนาดที่ดิน 23 ไร่ ซึ่งเป็นการซื้อขายที่ดินที่มีมูลค่ารวมสูงสุดของประเทศเมื่อไม่นานมานี้
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ราคาที่ดินในย่านรัชดาภิเษก ได้ปรับตัวสูงขึ้นถึง 250% เนื่องจากย่านนี้ เป็นทำเลใหม่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จากผู้ซื้อคอนโดมิเนียมและผู้เช่าพื้นที่สำนักงาน ส่งผลให้ผู้พัฒนาโครงการต่างมองหาที่ดินในย่านนี้ เพื่อนำมาพัฒนาเป็นโครงการที่พักอาศัยและเชิงพาณิชย์ ด้วยขนาดและทำเลที่ตั้ง จึงทำให้ที่ดินเปล่าแปลงนี้ เหมาะสมที่จะนำมาพัฒนาเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ โดยพัฒนาเป็นโครงการแบบผสมผสาน หรือมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ได้