อองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐของเมียนมา เรียกร้องประชาชนหลีกเลี่ยงการรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ด้วยวิธีพื้นบ้าน แต่ให้เดินทางไปโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากกว่า
“เราพบว่าเมื่อประชาชนบางคนคิดว่าตนติดเชื้อ พวกเขาจะพยายามเยียวยาตัวเองด้วยวิธีพื้นบ้าน และจะไปโรงพยาบาลเฉพาะเวลาที่ไม่สามารถรักษาด้วยวิธีดังกล่าวได้สำเร็จ”
ซูจีสนับสนุนให้ผู้คนไปโรงพยาบาลตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม เนื่องจากการควบคุมโรค และการรักษาจะเป็นเรื่องยากลำบาก หากผู้ป่วยถูกส่งไปโรงพยาบาลเฉพาะหลังเข้าสู่ระยะติดเชื้อ
“การที่ผู้คนพยายามรักษาตัวเองด้วยวิธีพื้นบ้านอาจเป็นผลมาจากข่าวสาวที่เผยแพร่ในโลกออนไลน์ ซึ่งการปฏิบัติตามวิธีรักษาแบบนั้นเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง เนื่องจากไม่มีผู้ใดทราบแนวทางแน่นอนในการป้องกันโรคโควิด-19”
ซูจีกล่าวว่ารัฐบาลได้จัดเตรียมโรงพยาบาลในเขตและเมืองให้พร้อมรองรับการตรวจโควิด-19 อีกทั้งร้องขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และแพทย์จากภาคเอกชน เพื่อเติมเต็มความต้องการทรัพยากรบุคคลที่โรงพยาบาลด้วย
นอกจากนั้น ทางการจะแจกจ่ายชุดทดสอบไปยังโรงพยาบาลในเขตและเมือง เพื่อให้พวกเขาสามารถจัดการตรวจโรคโควิด-19 ได้อย่างเหมาะสมในเร็วๆ นี้
ทั้งนี้ ซูจีแนะนำประชาชนอย่ากังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันมากเกินไป แต่ให้มีความกังวลอย่างเพียงพอในระดับหนึ่ง ซึ่งจำเป็นต่อการตระหนักรู้ถึงผลกระทบของโรค
“ความวิตกกังวลมากเกินไปอาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายลดต่ำลง ภาวะเครียดที่เกิดจากความกังวลอาจทำให้เราสูญเสียภูมิคุ้มกันโรค และเราไม่ต้องการให้ผู้คนกังวลโดยไม่จำเป็น”
ตัวเลขล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุขและกีฬาระบุว่าเมียนมาตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสม 9,112 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 174 ราย เมื่อนับถึงคืนวันศุกร์ (25 ก.ย.)
ทางด้าน กระทรวงสาธารณสุข และกีฬาของเมียนมา แถลงว่า รัฐบาลเมียนมาเตรียมประกาศคำสั่งเพิ่มเติม ที่กำหนดให้ประชาชนในหลายพื้นที่อยู่แต่ในเคหสถาน เริ่มตั้งแต่วันนี้ (26 ก.ย.) เป็นต้นไป
ทางการจะบังคับใช้คำสั่งอยู่บ้านใน 11 เมืองของมัณฑะเลย์ พะโค ภูมิภาคอิระวดี และรัฐมอญ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยที่ไม่มีประวัติการเดินทางในระยะนี้ และไม่มีการติดต่อใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันผล ได้เพิ่มสูงขึ้นในพื้นที่ดังกล่าว
เมื่อไม่นานนี้ รัฐบาลประกาศใช้คำสั่งอยู่บ้านในพื้นที่ส่วนใหญ่ ยกเว้นหนึ่งเมืองของภูมิภาคย่างกุ้ง หลังจากภูมิภาคดังกล่าวตรวจพบการติดเชื้อในท้องถิ่นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่เกิดการระบาดระลอกสองเมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา
รัฐบาลเคยประกาศคำสั่งอยู่บ้านใน 10 เมืองของภูมิภาคย่างกุ้ง และ 1 เมืองในภูมิภาคซะไกง์ ซึ่งตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ส่วนใหญ่ในช่วงระลอกแรกของการระบาดใหญ่ในเมียนมา อย่างไรก็ดี รัฐบาลได้ยกเลิกคำสั่งในเวลาต่อมาหลังไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในพื้นที่
ทั้งนี้ เมียนมาตรวจพบการระบาดของโควิด-19 ในประเทศครั้งแรก เมื่อวันที่ 23 มีนาคม และมีรายงานผู้ป่วยเสียชีวิตรายแรก เมื่อวันที่ 31 มีนาคม
ที่มา : สำนักข่าวซินหัว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เมียนมา’ ปิดประเทศต่ออีก 1 เดือน สกัดโควิดระบาดหนัก ยอดสะสมใกล้ถึงหมื่นราย
- เมียนมา วิกฤติโควิด สั่ง ‘อสม.-อสต.’ ด่านหน้าลาดตระเวน เฝ้าระวังเข้มงวด
- ‘กาญจนบุรี’ สั่งปิดด่าน ‘บ้านพุน้ำร้อน-เจดีย์สามองค์’ สกัดโควิดเมียนมา ฝ่าฝืนโทษหนัก