COLUMNISTS

ว่าด้วยเรื่องภาษีกับการลงทุนอสังหาฯ เพื่อปล่อยเช่า

Avatar photo
รองกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนากลยุทธ์และบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร
1555

ถึงแม้ว่าขั้นตอนการชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับใหม่ จะยังไม่เข้าที่เข้าทาง จนกลายเป็นประเด็นร้อนของสังคมไปในช่วงก่อนหน้านี้ 

แต่ล่าสุด ก็ได้มีการขยายระยะเวลาชำระไปจนถึงสิ้นเดือนตุลาคม 2563 จึงทำให้มีเวลาในการเตรียมเอกสารต่างๆ มากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ถือว่า มีความสำคัญอย่างมาก สำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์

โดยเฉพาะในกลุ่มนักลงทุนหรือผู้ที่มีอสังหาริมทรัพย์ครอบครองแห่งที่ 2 ขึ้นไป รวมถึงผู้มีที่อยู่อาศัยแห่งแรกที่ราคาประเมินเกิน 50 ล้านบาท จะต้องทำการชำระภาษีเพราะถือเป็นหน้าที่ของเจ้าของกรรมสิทธิ์ทุกท่านที่จะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบ โดยประชาชนผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างซึ่งมีที่ตั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ ติดต่อชำระภาษีฯ หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายรายได้ สำนักงานเขตที่ตั้งของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของท่าน

ภาษี24963

ส่วนนักลงทุนที่มีการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ตามหัวเมืองท่องเที่ยว หรือผู้ที่ซื้อสำหรับเป็นบ้านตากอากาศนั้น หากยังไม่ได้รับเอกสารจากท้องถิ่น ก็สามารถโทรศัพท์ไปสอบถาม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะแจ้งเลขบัญชีสำหรับการโอนชำระทางออนไลน์ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปชำระยังพื้นที่

อย่างไรก็ตาม ภาษีฉบับใหม่นี้ในการจัดเก็บปีแรก เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ที่ผ่านมา ทางคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้ลดภาษีที่ดินฯ ของปี 2563 นี้ ลง 90% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจและผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งก็นับเป็นข่าวดีเพราะทำให้จำนวนเงินที่ต้องจ่ายไม่ได้สูงมากจนเป็นภาระแก่เจ้าของกรรมสิทธิ์ อย่างไรก็ดี นอกจากในส่วนของนักลงทุนนั้นแม้จะได้ทำการจ่ายภาษีที่ดินฯ เป็นอันเสร็จสิ้นไปแล้ว

แต่ยังมีในส่วนผู้ที่มีรายได้ยังมีหน้าที่ต้องนำรายได้จากการปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์ไปคำนวณในการจ่ายภาษีเงินได้อีกรอบหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้กรมสรรพากรให้ข้อมูลว่านักลงทุนส่วนมากจะทำการหลีกเลี่ยง แต่เมื่อต้นปีที่ผ่านมากรมสรรพากรออกประกาศเตรียมเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

สำหรับคนที่มีรายได้จากการปล่อยเช่าบ้าน คอนโด และเช่าที่ดิน โดยจะทำการเชื่อมโยงข้อมูลการปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ เพื่อตรวจสอบการเสียภาษีเงินได้ของแต่ละคน ซึ่งหากพบว่ามีการหลีกเลี่ยงจะมีโทษปรับตามมา ดังนั้นจึงควรวางแผนให้พร้อมสำหรับเตรียมดำเนินการจ่ายภาษีต่อไป

ดังนั้น นักลงทุนมือใหม่ที่อาจจะยังไม่ได้เตรียมการรับมือในเรื่องนี้ จะต้องทำการศึกษาและหาแนวทางที่เหมาะสม เช่น ทบทวนประเมินการคิดค่าเช่าสำหรับปีหน้าในอัตราใหม่ที่เหมาะสมกับต้นทุนที่แท้จริง หรือการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายส่วนกลางด้วยการให้ผู้เช่าเข้ามามีส่วนรับผิดชอบ ทั้งนี้การจะขึ้นค่าเช่าในภาวะที่เศรษฐกิจยังชะลอเช่นปัจจุบันก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวัง เพราะอาจทำให้ผู้เช่าได้รับผลกระทบและไม่ต่อสัญญา

อย่างไรก็ดี หากห้องชุดที่จะทำการปล่อยเช่าอยู่ในทำเลที่ดี อยู่ในความต้องการของกลุ่มผู้เช่ากำลังซื้อสูง และเป็นโครงการที่ได้รับการดูแลอย่างดี ทั้งตัวอาคาร และสภาพแวดล้อมของโครงการมีสภาพใหม่อยู่เสมอ รวมถึงมีนิติบุคคลที่มีความเป็นมืออาชีพ ดูแลให้พื้นที่ส่วนกลางน่าอยู่ถูกสุขลักษณะ และบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้โครงการนั้นเป็นที่ต้องการของคนเช่า เพื่อช่วยลดความเสี่ยงให้นักลงทุนให้สามารถรักษาระดับราคาค่าเช่าที่เหมาะสมไว้ได้ค่ะ

อ่านข่าวเพิ่มเติม