ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้านี้ (23 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ปรับลดลง หลังข้อมูลแสดงให้เห็นว่า กิจกรรมทางธุรกิจหดตัวลงในเดือนนี้ แต่ราคาหุ้นไนกี้ ที่พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ หลังรายงานผลประกอบการอย่างแข็งแกร่ง ยังช่วยพยุงขาลงขอองดาวโจนส์ ไม่ให้รุนแรงมากนัก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 27,282.10 จุด ลดลง 6.08 จุด หรือ 0.02% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,302.70 จุด ขยับลงมา 12.87 จุด หรือ 0.39% และดัชนีแนสแด็กที่ 10,898.42 จุด ลบ 65.22 จุด หรือ 0.59%
ไอเอชเอส มาร์กิต ระบุว่า ดัชนีกิจกรรมธุรกิจ ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 54.4 ในเดือนกันยายน จากระดับ 54.6 ในเดือนสิงหาคม โดยที่ดัชนีผู้จัดการจัดซื้อ ขยับลงเล็กน้อย จากระดับ 55 ในเดือนที่แล้ว มาอยู่ที่ 54.6 ในเดือนนี้ ส่วนดัชนีภาคการผลิตเบื้องต้น เดือนกันยายน ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 53.5 จากระดับ 53.1 เมื่อเดือนสิงหาคม
นอกจากนี้ ภาคธุรกิจลดความเชื่อมั่นในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ท่ามกลางความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพฤศจิกายน และการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นักลงทุนมองว่า ดัชนีที่ลดลงดังกล่าว บ่งชี้ว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ กำลังสูญเสียแรงหนุนขาขึ้น ในช่วงเวลาที่ใกล้จะสิ้นสุดไตรมาส 3 ของปีแล้ว
อย่างไรก็ดี ขาลงของตลาดยังได้ราคาหุ้นไนกี้ อิงค์ ที่พุ่งขึ้นถึง 9.7% พยุงไว้ไม่ให้ร่วงลงมากนัก หลังจากที่ผู้ผลิตเสื้อผ้ากีฬารายใหญ่รายนี้ รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง แรงหนุนจากยอดขายทางออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดอเมริกาเหนือ ช่วยชดเชยยอดขายในร้านที่ร่วงลง
ไนกี้ ระบุว่า ในช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม ซึ่งเป็นไตรมาสแรกตามปีงบการเงิน บริษัทมีกำไรที่ระดับ 95 เซนต์ต่อหุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 47 เซนต์ต่อหุ้น โดยได้ปัจจัยบวก จากการที่ยอดขายออนไลน์พุ่งขึ้นถึง 82%
บริษัทยังทำได้รายได้สูงถึง 10,590 ล้านดอลลาร์ มากกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 9,150 ล้านดอลลาร์
ราคาหุ้นของ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) พุ่งขึ้น 1.5% หลังเปิดเผยว่า บริษัทได้เริ่มทำการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในเฟส 3 แล้ว โดยจะมีอาสาสมัครเข้าร่วมในโครงการมากถึง 60,000 ราย
การทดลองดังกล่าวจะมีขึ้นในสถานที่กว่า 200 แห่งทั้งในสหรัฐ และประเทศต่างๆ รวมถึง อาร์เจนตินา บราซิล ชิลี โคลอมเบีย เม็กซิโก เปรู และแอฟริกาใต้ โดยอาสาสมัครจะต้องมีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป
การทดลองวัคซีนต้านโควิด-19 ของ J&J ในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดในโลก ขณะที่บริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นาทำการทดลองวัคซีนโดยมีอาสาสมัครเพียง 30,000 ราย
J&J นับเป็นบริษัทแห่งที่ 4 ในสหรัฐที่เข้าสู่การทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เฟส 3 ซึ่งเป็นเฟสสุดท้าย โดยอีก 3 บริษัทคือ โมเดอร์นา ไฟเซอร์ และแอสตร้าเซนเนก้า
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ศบค.ชุดเล็ก เสนอต่ออายุ ‘พ.ร.ก.ฉุกเฉิน’ ออกไปอีก 1 เดือน!
- เอาออก 700 คน! อสมท เปิดโครงการ ‘เต็มใจจาก’ ฝ่าวิกฤติให้องค์กรไปต่อ
- สอบด่วน ‘ศรีพันวา’ กมธ.ที่ดินฯ ตั้ง 3 ประเด็นที่ตั้งโรงแรม เรียกถก 1 ต.ค.นี้