ครั้งแรกในประวัติศาสตร์! ยูเอ็นจัดประชุมสมัชชาใหญ่ แบบออนไลน์ เริ่มวันนี้

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 21 กันยายน 2563

การประชุมระดับสูงของสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ หรือ UNGA ครั้งที่ 75 จะเริ่มขึ้นในวันนี้ (21 ก.ย.) ตามเวลาในสหรัฐ ที่นครนิวยอร์ก โดยในปีนี้ถือเป็นปีฉลองครบรอบ 75 ปีการก่อตั้งสหประชาชาติ (UN) ซึ่งบรรดาผู้นำจากทั่วโลกจะกล่าวสุนทรพจน์เนื่องในโอกาสสำคัญนี้ ผ่านระบบการประชุมออนไลน์เป็นครั้งแรก

หัวข้อสำคัญของการประชุม UNGA ในปีนี้ ก็คือเรื่องความพยายามยับยั้งการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อทุกประเทศ

นายแอนโตนิโอ กูเตียเรซ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 ยิ่งเน้นย้ำให้เห็นถึงความไม่เท่าเทียมกันในสังคม และเป็นภัยคุกคาม ต่อการพัฒนาในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา โดยที่วัคซีนอาจไม่ใช่ทางออกในการแก้ไขวิกฤติครั้งนี้

การประชุม UNGA ครั้งที่ 75 จะครอบคลุมประเด็นต่าง ๆ มากกว่า 80 หัวข้อที่เกี่ยวกับโควิด-19 รวมถึง วาระการประชุมระดับสูงในวันที่ 30 กันยายน โดยสหประชาชาติจะเป็นเจ้าภาพร่วมกับองค์การอนามัยโลก รวมทั้งอังกฤษและอาฟริกาใต้ ซึ่งจะมุ่งเน้นที่การตอบสนองต่อการระบาดใหญ่ครั้งนี้โดยเฉพาะ ตลอดจนการพัฒนาและการเข้าถึงวัคซีนด้วย

นอกจากเรื่องโควิด-19 แล้ว ประเด็นสำคัญอื่น ๆ ที่ถูกบรรจุอยู่ในวาระการประชุม UNGA ปีนี้ อาทิ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก และความหลากหลายทางชีวภาพ

ในการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติครั้งที่ 75 บรรดาผู้นำประเทศ และนักการทูตของประเทศต่าง ๆ แต่ละคนจะกล่าวสุนทรพจน์ในรูปแบบของวิดีโอ ความยาว 15 นาที ที่บันทึกไว้ล่วงหน้า และจะแพร่ภาพผ่านทางเว็บไซต์หลักของสหประชาชาติเป็น 6 ภาษา

พิธีเปิดการประชุม UNGA อย่างเป็นทางการ จะมีขึ้นในวันนี้ ส่วนการกล่าวสุนทรพจน์ผ่านวิดีโอจะเริ่มในวันพรุ่งนี้ (22 ก.ย.) เริ่มต้นด้วยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ผู้นำสหรัฐ ตามด้วย ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน จากรัสเซีย

ประเทศสมาชิกสหประชาชาติ 193 ประเทศจะได้รับอนุญาตให้ส่งผู้แทนมาร่วมฟังวิดีโอสุนทรพจน์ ในหอประชุมที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก เพียงประเทศละคนเท่านั้น ตามกฎเกณฑ์การห้ามชุมนุมของผู้คนจำนวนมาก และการเว้นระยะห่างทางสังคม

ทางด้านนายริชาร์ด โกวัน ผู้อำนวยการ International Crisis Group กล่าวว่า การประชุมผ่านรูปแบบออนไลน์แบบบันทึกไว้ล่วงหน้าในปีนี้ อาจจะทำให้ไม่มีประเด็นดราม่าเหมือนปีก่อน ๆ และบรรดาผู้นำโลกจำนวนมาก อาจเพิกเฉยต่อสุนทรพจน์ของผู้นำคนอื่น

ที่มา : VOA

อ่านข่าวเพิ่มเติม