ทางการฟิลิปปินส์เปิดตัวเลขผู้เสียชีวิตจากพายุไต้ฝุ่นมังคุดว่ามีอย่างน้อย 14 คนแล้ว ขณะที่ความเสียหายทางเศรษฐกิจยังไม่มีการประเมินตัวเลขที่ชัดเจนจากทางการปรากฏออกมา ส่วนความเสียหายจากพายุไต้ฝุ่นมังคุดที่คาดว่าจะเกิดกับเกาะฮ่องกงนั้น สื่อตะวันตกบางสำนักรายงานว่า อาจไม่รุนแรงเท่า เนื่องจากมีการเตรียมความพร้อมที่ดีกว่า อีกทั้งระบบสาธารณูปโภคบนเกาะฮ่องกง เช่น ระบบไฟฟ้าก็ติดตั้งไว้ในอุโมงค์ใต้ดินแล้ว
โดยเมื่อคืนที่ผ่านมามีหลายสายการบินแคนเซิลไฟล์ทที่จะเดินทางไปยังเกาะฮ่องกงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสายการบินคาร์เธ่ย์แปซิฟิก แอร์เอเชีย คาเธย์ดราก้อน ฟิลิปปินส์แอร์ไลน์ ฯลฯ เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากไต้ฝุ่นมังคุดที่ได้ชื่อว่าเป็นไต้ฝุ่นที่ทรงอานุภาพมากที่สุดในปีนี้
ส่วนพนักงานโรงแรม ก็ได้รับคำสั่งให้ชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เตรียมไว้แต่เนิ่น ๆ รวมถึงมีการสำรองน้ำและอาหารเอาไว้ด้วย
นอกจากทางการฮ่องกงที่เตรียมรับมือแล้ว อีกหนึ่งจุดที่ต้องเตรียมให้พร้อมก็คือโรงงานปฏิกรณ์นิวเคลียร์สองแห่งในจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในเส้นทางที่พายุไต้ฝุ่นมังคุดพัดผ่านด้วย ได้แก่ Taishan Nuclear Power Plant และ Yangjiang Nuclear Power Plant ที่ตั้งอยู่ในมณฑลกวางตุ้ง โดยในตอนนี้ทั้งสองแห่งอยู่ในโหมดเตรียมพร้อมรับมือแล้วเช่นกัน
ขณะที่ในฟิลิปปินส์นั้น มีรายงานจากบีบีซีนิวส์ว่า เกษตรกรสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ทันก่อนที่พายุจะพัดถล่มเพียง 1 ใน 5 ของผลผลิตทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจะทำให้หลังจากนี้ ผลผลิตเช่น ข้าว และข้าวโพด จะเกิดขาดแคลนได้ในประเทศ
แม้นักวิทยาศาสตร์จะยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่า การเกิดพายุไต้ฝุ่นที่รุนแรงมากระดับนี้มีผลเกี่ยวเนื่องกับการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลก แต่ก็มีทีมวิจัยจากสถาบันวิจัยแห่งชาติ Lawrence Berkeley มหาวิทยาลัย Stony Brook สหรัฐอเมริกา ที่ทำการวิจัยโดยการสร้างโมเดลจำลองบนคอมพิวเตอร์ออกมาเปิดเผยว่า เฮอริเคนฟลอเรนซ์ที่ถล่มเมืองในรัฐนอร์ธ แคโรไลน่า ทำให้เกิดปริมาณฝนมากขึ้นถึง 50% ซึ่งปริมาณระดับนี้อาจเกิดไม่ได้หากไม่มีภาวะโลกร้อนที่รุนแรงนั่นเอง
