“อนุทิน” เร่งซื้อเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็ง ติดตั้งใน 7 โรงพยาบาลทั่วประเทศ พัฒนางานบริการประชาชน ล่าสุดคณะกรรมการกลั่นกรองไฟเขียวแล้ว
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า คณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้ เห็นชอบโครงการจัดหาเครื่องฉายรังสีวงเงิน 878.2 ล้านบาท ให้แก่โรงพยาบาล 7 แห่ง ช่วยผู้ป่วยมะเร็งทั่วประเทศเข้าถึงการรักษาเพิ่มขึ้นในสถานการณ์โควิด-19 ลดความเสี่ยงการติดเชื้อขณะผ่าตัดและพักฟื้น บุคลากรทางการแพทย์เสี่ยงน้อยลง พร้อมลดเวลารอคอย และความแออัด
โรงพยาบาล 7 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลก โรงพยาบาลสุรินทร์ โรงพยาบาลร้อยเอ็ด โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช โรงพยาบาลสมุทรสาคร โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และสถาบันมะเร็งแห่งชาติ
ทั้งนี้ คณะกรรมการกลั่นกรองฯ จะเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์ถัดไป
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า สาเหตุที่ต้องเสนอโครงการดังกล่าวเนื่องจากสถานการณ์โรคโควิด-19 ผู้ป่วยมะเร็งยังต้องได้รับการรักษา หากเลื่อนการรักษาจะส่งผลให้โรคลุกลามรุนแรงมากขึ้น ไม่สามารถหายขาดได้
ขณะเดียวกันสถานพยาบาลต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการผู้ป่วยรูปแบบใหม่หรือ New Normal ด้วยการฉายรังสีเทคนิคชั้นสูง ทดแทนการผ่าตัดได้ เนื่องจากผู้ป่วยมะเร็ง ที่มีโอกาสติดเชื้อสูงกว่าคนทั่วไป
การฉายรังสีจึงเป็นทางเลือกการรักษาที่ปลอดภัย ใช้เวลาครั้งละไม่เกิน 10 นาที จากการผ่าตัดที่ใช้เวลา 3-4 ชั่วโมง จึงช่วยลดความเสี่ยงของผู้ป่วย จากการอยู่โรงพยาบาลเป็นเวลานาน ไม่ต้องพักฟื้นในหอผู้ป่วยระหว่างและหลังรักษา ลดความแออัดในโรงพยาบาล สร้างความปลอดภัยของบุคลากรต่อการสัมผัสเชื้อโควิด 19
อย่างไรก็ตาม เครื่องฉายรังสียังมีไม่เพียงพอ แม้ในสถานการณ์ปกติก็เกิดการสะสมของผู้ป่วยมะเร็ง ทำให้โรงพยาบาลหลายแห่ง มีระยะเวลารอคอยการรักษามากกว่า 4 เดือน จึงจำเป็นต้องเพิ่มศักยภาพการให้บริการ
โครงการจัดหาครุภัณฑ์เครื่องฉายรังสีให้แก่โรงพยาบาลทั้ง 7 แห่งนี้ ช่วยเพิ่มความสามารถการให้บริการแก่ผู้ป่วยมะเร็งได้ดียิ่งขึ้น รักษาคนไข้ได้ปีละ 500-700 ราย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยโรคมะเร็ง ทำให้ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง สามารถรักษาได้กับทุกอวัยวะ ไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด 19 จากการที่อยู่โรงพยาบาลเป็นเวลานาน
ผู้ป่วยสามารถมารับการรักษาที่โรงพยาบาลใกล้บ้านมากขึ้น ไม่ต้องเดินทางไปรักษาที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ หรือในเขตภูมิภาค สามารถลดระยะเวลารอคอยการรักษามะเร็ง โดยใช้การฉายรังสีด้วยเทคนิคที่ทันสมัยทดแทนการผ่าตัด ลดการเสียชีวิตจากมะเร็งในประเทศไทย เนื่องจากได้รับการรักษาในระยะเวลาที่เหมาะสม และลดความเสี่ยงของบุคลากรทางการแพทย์ในการสัมผัสเชื้อโควิด 19 ในระยะประชิดจากกระบวนการผ่าตัด และลดปัญหาการติดเชื้อโควิด 19 ของผู้ป่วยที่ต้องเดินทาง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘อนุทิน’ ดูงานสาธารณสุขระนอง ย้ำ ‘การ์ดอย่าตก’ แจ้งข่าวดี 21 ก.ย. อสม.ได้เงินพิเศษ
- ‘อนุทิน’ ลั่นไม่ขวาง ‘ภูเก็ตโมเดล’ รอประชาชนตัดสินใจร่วมกัน
- ‘บำรุงราษฎร์’ หนุนไทย ‘ท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของโลก’ หลังโควิด-19