Lifestyle

โรคเหงือก อย่ามองข้าม! แพทย์แนะรีบรักษา ก่อนต้องเสียฟัน

โรคเหงือก อย่านิ่งนอนใจ กรมการแพทย์ เผยเป็นหนึ่งในโรคช่องปากที่ไม่ควรมองข้าม แนะพบทันตแพทย์ รักษาด่วน ปล่อยไว้อาจต้องเสียฟันไป

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดี กรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคเหงือก เป็นหนึ่งในโรคช่องปาก ที่ไม่ควรมองข้าม โดยโรคเหงือกนั้น มีสาเหตุมาจากแบคทีเรีย ในคราบจุลินทรีย์ ก่อให้เกิดการอักเสบของเหงือก และ เนื้อเยื่อปริทันต์รอบ ๆ ที่ช่วยพยุงฟัน ทำให้เกิดฟันโยก จนนำไปสู่การสูญเสียฟันในที่สุด

โรคเหงือก

“วิธีการป้องกัน อันดับแรก คือ การรักษาความสะอาด ในช่องปากให้ดี แปรงฟันให้สะอาด และ พบทันตแพทย์เป็นประจำ”นายแพทย์สมศักดิ์ กล่าว

ด้าน ทันตแพทย์อำนาจ ลิขิตกุลธนพร ผู้อำนวยการสถาบันทันตกรรม กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคเหงือก แบ่งได้เป็น 2 ประเภทตามความรุนแรง คือ โรคเหงือกอักเสบ และ โรคปริทันต์อักเสบ

สำหรับโรคเหงือกอักเสบนั้น จะเกิดจากแบคทีเรีย ในคราบจุลินทรีย์ ทำให้เกิดการอักเสบ เฉพาะบริเวณเหงือก ทำให้เหงือกมีสีแดงคล้ำ บวมแดง แปรงฟันมีเลือดออกง่าย มีกลิ่นปาก

ทั้งนี้ เมื่อมีอาการดังกล่าว หากได้รับการรักษาที่เหมาะสม เหงือกจะสามารถกลับไปสู่สภาพเดิมได้ แต่หากปล่อยไว้ ไม่รักษา จะนำไปสู่ การเกิดโรคปริทันต์อักเสบ หรือ เกิดการทำลายของเอ็นยึดปริทันต์ และ การละลายของกระดูกเบ้าฟันตามมา

ขณะที่ อาการเริ่มแรกของโรค คนไข้มักไม่รู้สึกเจ็บ หรือปวด แต่เมื่อโรคเป็นรุนแรงมากขึ้น อาจมีเหงือกบวม เป็นหนอง คนไข้มักจะมาพบทันตแพทย์ ด้วยอาการฟันโยก ฟันยื่นยาว เคี้ยวอาหารเจ็บ แต่ฟันเหล่านี้ ก็มักจะไม่สามารถรักษาได้ และถูกถอนไป เนื่องจากมีการทำลาย ของกระดูกเบ้าฟันไปมากแล้ว

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ 1
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์

ดังนั้น จึงต้องหมั่นสังเกต สภาพของช่องปาก ของตนเอง อย่างสม่ำเสมอ และ ป้องกันการเกิดโรคเหงือก โดยการแปรงฟันให้ทั่วถึง อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ร่วมกับการทำความสะอาดซอกฟัน ด้วยไหมขัดฟัน หรือ แปรงซอกฟัน อย่างน้อยวันละครั้งเป็นประจำ

พร้อมกันนี้ ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และ ควรพบทันตแพทย์ เพื่อตรวจสุขภาพช่องปาก และ ขูดหินปูน ทุก ๆ 6 เดือน

โรงพยาบาลเปาโล ได้ระบุถึง สาเหตุ ของโรคเหงือกอักเสบ ว่า เกิดจากคราบจุลินทรีย์ ที่ก่อตัวขึ้นตามรอยต่อ ระหว่างฟัน และเหงือก ลักษณะเป็นคราบสีขาวขุ่นนุ่ม ที่ประกอบด้วยแบคทีเรีย และคราบอาหาร พวกแป้งและน้ำตาล ที่เกาะบนผิวฟัน

สาเหตุดังกล่าว เกิดจากการทำความสะอาดฟัน ที่ไม่ดีพอ ทำให้คราบเหล่านั้น กลายเป็นอาหารของแบคทีเรีย ส่งผลให้แบคทีเรียเจริญเติบโตเพิ่มจำนวนขึ้น และเมื่อแบคทีเรียบริโภคอาหาร จำพวกแป้ง และน้ำตาลเข้าไป จะปล่อยกรด และสารพิษ ออกมากระตุ้นให้เกิดการอักเสบ

ผลคือ เป็นโรคเหงือก เหงือกบวมแดงอักเสบ และมีเลือดออก โรคเหงือกในระยะแรกเริ่มนี้ ยังสามารถรักษาให้กลับมาอยู่ในสภาวะที่สมบูรณ์เหมือนเดิมได้ เนื่องจากกระดูกและเนื้อเยื่อโดยรอบ ที่พยุงและโอบรัดฟัน ยังไม่ได้รับผลกระทบ

โรคเหงือก แปรงฟัน

ศูนย์ดูแลช่องภาพ คอลเกต ให้คำแนะนำ วิธีการแปรงฟันที่ถูกต้อง เพื่อทำความสะอาดฟัน และเหงือก ดังนี้

  • อันดับแรก ทำให้แน่ใจว่า แปรงฟัน และใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อย วันละสองครั้ง
  • ใช้แปรงสีฟันที่มีขนนุ่ม วางทำมุม 45 องศาบริเวณรอยต่อระหว่างเหงือกและฟัน ขยับซ้าย-ขวาสั้น ๆ
  • ตวัดแปรง (ฟันบนตวัดลง ฟันล่างตวัดขึ้น) ทำแบบนี้ให้กับฟันทุกซี่ ให้ครบทั้ง ฟันด้านบน-ด้านล่าง ฟันด้านนอก-ด้านใน แปรงถูไปบริเวณบดเคี้ยว ของฟันกราม
  • ควรแปรงฟันอย่างนุ่มนวล เพื่อลดการเกิดการเสียวฟัน และ การทำร้ายเหงือก
  • ใช้ไหมขัดฟันขัดซอกฟันแต่ละซี่

ทั้งนี้ แนะนำให้ใช้เวลาอย่างน้อย สองนาที ในการแปรงฟันแต่ละครั้ง และเปลี่ยนแปรงสีฟันทุก ๆ สามเดือน หรือ เมื่อเห็นว่าขนแปรงเริ่มบานออก เพราะเสื่อมสภาพ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

 

Avatar photo