World News

สภาญี่ปุ่นเลือก ‘โยชิฮิเดะ สุกะ’ นั่งนายกฯ คนใหม่

สภาญี่ปุ่นลงมติวันนี้ (16 ก.ย.) เลือก “โยชิฮิเดะ สุกะ” ขึ้นเป็น นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น คนใหม่ นับเป็นการเปลี่ยนผู้นำครั้งแรกในรอบเกือบ 8 ปี จ่อตั้งคณะรัฐมนตรีใหม่ ที่มากกว่า ครึ่งหนึ่งมาจากรัฐบาล ชินโซ อาเบะ

นายสุกะ หัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ได้รับคะแนนเสียงท่วมท้นจากสภาผู้แทนราษฎรญี่ปุ่น ให้ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยได้คะแนนเสียงสูงถึง 314 เสียง จากจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 465 คน

suga123
ภาพ : ทวิตเตอร์ @kantei

ผู้นำใหม่ญี่ปุ่นวัย 71 ปี ซึ่งเป็นมือขวาของนายอาเบะ มาเป็นเวลานาน ให้คำมั่นถึงการเดินหน้าโครงการต่างๆ จำนวนมากสืบต่อจากนายอาเบะ รวมถึง “อาเบะโนมิกส์” นโยบายที่มุ่งเน้นการต่อสู้กับปัญหาเงินฝืด และกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตในเวลาเดียวกัน ของอดีตนายกรัฐมนตรีอาเบะ และเดินหน้าปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจในด้านต่างๆ

นายสุกะ ยังกล่าวเป็นนัย ถึงความเป็นไปได้ที่จะดำเนินมาตรการเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะเพิ่มเติมมาจาก มาตรการมูลค่า 230 ล้านล้านเยน ที่รัฐบาลได้อนุมัติไปแล้ว เพื่อรับมือกับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ซึ่งรวมถึง เงินอุดหนุนสำหรับธุรกิจที่ได้รับความเสียหาย และส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ

นอกจากนี้ เขาจะเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดเกี่ยวกับนโยบายความมั่นคงของญี่ปุ่น ที่นายอาเบะริเริ่มไว้ หลังแผนการที่จะนำระบบป้องกันขีปนาวุธ ที่พัฒนาโดยสหรัฐ เข้ามาใช้ ถูกยกเลิกไป เนื่องจากปัญหาทางเทคนิค

การเน้นย้ำถึงคำมั่นที่จะสานต่อนโยบายของนายอาเบะ ยังสะท้อนออกมาให้เห็น จากการที่นายสุกะ เลือกรัฐมนตรีหน้าเดิม มาทำหน้าที่ต่อเนื่อง ในคณะรัฐมนตรี ชุดแรกของตัวเอง รวมถึง นายทาโร อาโซะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายโทชิมิตสึ โมเตกิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายชินจิโร โคอิซูมิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อม

การประกาศเลือกนายสุกะ ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งถือเป็นคนที่ 99 ของประเทศญี่ปุ่น มีขึ้นหลังจากคณะรัฐมนตรีของนายชินโซ อาเบะ ประกาศลาออกทั้งคณะในช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งถือเป็นการสิ้นสุดการบริหารประเทศที่ยาวนานเป็นประวัติการณ์เกือบ 8 ปีของนายอาเบะ

ทั้งนี้ นายอาเบะได้แถลงที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรีในวันนี้ว่า “ผมใช้เวลาทุกวันในการพยายามพลิกฟื้นเศรษฐกิจ และใช้แนวทางการทูตเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของญี่ปุ่น ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่สามารถทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ร่วมกับประชาชนชาวญี่ปุ่นในช่วงเวลานี้ และผมขอขอบคุณทุกท่าน จากใจจริงของผม”

นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น

จากลูกชาวไร่ สู่ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น 

นายสุกะ มีพื้นเพมาจากครอบครัว ที่มีบิดาเป็นเกษตรกร ทำไร่สตรอเบอรี ในเมืองอากิตะ ส่วนมารดาเป็นครู ซึ่งในฐานะบุตรชายคนโต เขาถูกคาดหมายว่า จะต้องมารับช่วงต่อธุรกิจของครอบครัว

แต่ความคาดหมายดังกล่าว ไม่ใช้สิ่งที่เขาต้องการ ถึงขั้นที่ตัดสินใจหนีออกจากบ้าน หลังจากเรียนจบชั้นมัธยมปลาย เข้ามาหางานทำในกรุงโตเกียว และได้เข้าทำงานที่โรงงานผลิตกระดาษแข็ง แต่ทำได้ไม่นานนัก ก็ลาออก และเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยโฮเซอิ

เขาเคยเล่าว่า ในช่วงเวลาที่กำลังเรียนอยู่นั้น เขาไม่สนใจกระแสการประท้วงของนักศึกษา ที่ต่อต้านการเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคง ระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐ และสงครามเวียดนาม ที่เกิดขึ้นทั่วประเทศในเวลานั้น เพราะต้องยุ่งอยู่กับการทำงาน หลายๆ งานพร้อมกัน อาทิ ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และผู้ช่วยระดับล่างในสำนักข่าว เพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเทอม เขายังหาเวลาไปเล่นกีฬา และได้เป็นรองกัปตันทีมคาราเต้

หลังเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว นายสุกะ ได้ทำงานเป็นเลขานุการของ นายฮิโกะซาบูโระ โอโกโนงิ สมาชิกสภาพรรคแอลดีพี มานานถึง 11 ปี ก่อนจะตัดสินใจเดินตามความฝันเข้าสู่วงการการเมือง ลงสมัครชิงสมาชิกสภาท้องถิ่น จนสามารถคว้าชัยชนะได้เป็นสมาชิกสภาเมืองโยกาฮามา เมื่อเดือนเมษายน 2530

นายสุกะ ซึ่งขณะนั้นเป็น นักการเมือง ‘หน้าใหม่’ ‘โนเนม’ ใช้วิธีลงพื้นที่หาเสียงเดินเคาะประตูบ้าน พบปะหาเสียงกับชาวบ้านมากถึง 30,000 หลัง ทั้งเขายังถือเป็นนักการเมืองคนแรกของญี่ปุ่น ที่บุกเบิกริเริ่มการปราศรัยหาเสียงบริเวณหน้าสถานีรถไฟ ซึ่งมีประชาชนสัญจรไปมาคับคั่ง จนได้กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในการหาเสียงของผู้สมัครลงเลือกตั้งในญี่ปุ่นมาจนถึงปัจจุบัน

โอกาสของเขาในการเข้าสู่การเมืองระดับชาติ เกิดขึ้นในปี 2539 เมื่อลูกชายของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสูงวัยรายหนึ่ง ซึ่งกำลังจะเข้ารับช่วงลงสมัคร ส.ส. ต่อจากบิดา เกิดเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ทำให้มีที่ว่างสำหรับผู้สมัครในพรรคเสรีประชาธิปไตย โดยเขาชนะเลือกตั้งได้เป็น ส.ส. ครั้งแรกเมื่ออายุ 47 ปี

นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น

นายสุกะ สร้างภาพลักษณ์ของตัวเองขึ้นมา ในฐานะผู้ชายที่สร้างตัวเองขึ้นมาจากการทำงานหนัก ซึ่งภูมิหลังของเขาตรงกันข้ามอย่างมาก กับนายอาเบะ ที่มาจากตระกูลนักการเมือง และถูกเลี้ยงดูให้เติบโตขึ้นมาเพื่อเข้าสู่เส้นทางการเมืองโดยเฉพาะ

เกือบ 8 ปีที่ผ่านมา นายสุกะ ทำหน้าที่เป็นโฆษกประจำตัวของนายอาเบะ ในการส่งสารไปถึงชาวญี่ปุ่น และชาวโลกในทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นนโยบายทั้งในประเทศหรือต่างประเทศ ไปจนถึงนโยบายเศรษฐกิจ การทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ และการจัดการรับมือ กับการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19

ในฐานะเลขาธิการคณะรัฐมนตรี นายสุกะ ถือว่าเป็นทั้งผู้ช่วย และที่ปรึกษาของนายอาเบะ รวมทั้งยังมีบทบาทในฐานะเป็นผู้จัดการรัฐบาล  โดยเขามีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมให้รัฐบาลส่งเสริมการท่องเที่ยว และแรงงานต่างชาติ รวมทั้งการลดค่าโทรศัพท์มือถือ

นอกจากนี้  ยังเป็นผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ประกาศชื่อรัชสมัยใหม่ ‘เรวะ’ ที่เริ่มต้นในวันที่ 1 พฤษภาคม 2562 เมื่อสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ ขึ้นครองราชย์สืบต่อจากพระราชบิดา อดีตสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ ที่ทรงสละราชบัลลังก์

ที่มา : สำนักข่าวเกียวโด

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo