งบฯ ปี 64 ล่าช้า! ครม.รับทราบหลักเกณฑ์ – เงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายปี 2563 ไปพลางก่อน ชี้เพื่อความต่อเนื่องและไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อการบริหารราชการแผ่นดิน
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม. รับทราบหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ไปพลางก่อน เนื่องจากรัฐบาล มีการปรับปรุงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 หรือ งบฯ ปี 64 เพื่อรองรับสถานการณ์ การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติ ทำให้กระบวนการจัดทำงบประมาณล่าช้าไปประมาณ 1 – 2 สัปดาห์
ดังนั้น จึงคาดว่า พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 จะประกาศใช้บังคับไม่ทันในวันที่ 1 ตุลาคม 2563 อันเป็นวันเริ่มต้น ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ซึ่งกรณีดังกล่าว รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 141 บัญญัติให้ใช้กฎหมายว่า ด้วยงบประมาณรายจ่ายในปีงบประมาณปีก่อนนั้นไปพลางก่อน
สำหรับสาระสำคัญของหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ไปพลางก่อน ให้สำนักงบประมาณ มีอำนาจจัดสรรงบประมาณ ให้หน่วยรับงบประมาณได้ไม่เกิน 1 ใน 4 ของแผนงานต่าง ๆ รายการงบกลาง และ งบประมาณรายจ่ายสำหรับทุนหมุนเวียนที่กำหนดไว้ตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563
นายอนุชา กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีมีความจำเป็น ต้องจัดสรรงบประมาณเกินกว่า หรือ นอกเหนือจากที่กำหนดไว้ ให้สำนักงบประมาณ มีอำนาจจัดสรรงบประมาณ ได้ตามความจำเป็น แต่ไม่เกินวงเงินงบประมาณ แต่ละแผนงานรายการตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 เฉพาะกรณี คือ รายจ่ายตามข้อผูกพันสัญญา คำพิพากษา หรือคำสั่งของศาล และ ต้องดำเนินการตามข้อตกลง ที่รัฐบาลทำไว้กับรัฐบาลต่างประเทศ สถาบันการเงินระหว่างประเทศ หรือ องค์การระหว่างประเทศ และมีความจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งหากไม่ดำเนินการจะเสียหายต่อการบริหารราชการแผ่นดิน
นอกจากนี้ ได้ให้หน่วยรับงบประมาณจ่ายเงิน หรือ ก่อหนี้ผูกพันได้ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เมื่อได้รับอนุมัติเงินจัดสรรจากสำนักงบประมาณแล้ว โดยให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ซึ่งต้องหักออกเมื่อพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีประมาณ พ.ศ.2564 ประกาศใช้บังคับแล้ว
ทั้งนี้ การใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ไปพลางก่อน เป็นการดำเนินการเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อการบริหารราชการแผ่นดิน
ด้านนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมาธิการพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ยืนยันความล่าช้าของการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 จะไม่สะดุด ทุกอย่างยังเดินหน้าได้ตามกรอบเวลาที่วางไว้ แม้การจัดทำจะล่าช้ากว่ากำหนดการปกติประมาณ 1 เดือน แต่ก็ไม่มีปัญหา เพราะยังสามารถใช้กรอบงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ไปพลางก่อนได้ ขณะเดียวกันเงินคงคลังยังมีความเข้มแข็งที่จะสามารถดึงมาใช้สำรองช่วงนี้ได้
ส่วนข้อเสนอที่ให้มีการแยกบัญชีใช้งบประมาณของกองทัพออกจากบัญชีงบประมาณปกตินั้น นายสันติ กล่าวว่า เรื่องการจัดซื้ออาวุธของกองทัพ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องเรือดำน้ำที่ผ่านมากองทัพยอมถอยเลื่อนการจัดซื้อออกไปอีก 1 ปี ทำให้มีเงินกว่า 3,000 ล้านบาท มาใช้ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจช่วงนี้ ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องแยกบัญชีซื้ออาวุธของทางกองทัพออกจากบัญชีงบประมาณอื่น ๆ
“ต้องขอบคุณกองทัพมากกว่าที่ยอมถอยให้เรา ยอมเลื่อนการจัดซื้อออกไป ทั้ง ๆ ที่มีความจำเป็นที่ต้องซื้อเรือดำน้ำ เพราะประเทศเพื่อนบ้านก็มีเรือดำน้ำทุกประเทศอย่างน้อย 3 – 6 ลำ การที่กองทัพเรือเสียสละตรงนี้ก็ช่วยได้เยอะแล้ว” นายสันติ กล่าว
ส่วนกรณีสถาบันจัดอันดับเครดิต เตรียมพิจารณาอันดับเครดิต ของประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใหม่นั้น นายสันติ มองว่า ควรเพิ่มอันดับเครดิต ให้กับประเทศไทยมากกว่าที่จะปรับลด เพราะไทยมีการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจ ที่เป็นไปตามนโยบายการเงินการคลังที่เข้มงวด สะท้อนได้จากค่าเงินบาทที่ยังคงแข็งค่า แม้ว่า จะพยายามดูแลให้ค่าบาทอ่อนค่าลงแล้วก็ตาม แต่ไทยมีเครดิตที่ดี ทำให้ต่างชาติมีความเชื่อมั่น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ตำรวจ ทหาร รอเลย! ธนารักษ์ปรับเงื่อนไขให้ จอง ‘คอนโดข้าราชการ’ ได้
- พรุ่งนี้หวยออก! เปิดสถิติหวย 16 กันยายน ย้อนหลัง 20 ปี เช็คที่นี่
- ‘เฉลิมชัย’ โยกย้ายใหญ่ข้าราชการเกษตรฯ ‘ซี 10’