ปล่อยตัว นพ.เหวง โตจิราการ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ และ นายพงศ์พิเชษฐ์ สุขจินดาทอง แกนนำ นปช. ออกจากเรือนจำ หลังได้รับ อภัยโทษ
วันนี้ (15 ก.ย.) 3 แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้แก่ นพ.เหวง โตจิราการ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ และนายพงศ์พิเชษฐ์ สุขจินดาทอง ได้รับการปล่อยตัว ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ หลังเข้าเกณฑ์พักโทษ ตามนโยบายของกระทรวงยุติธรรม โดยมี นางธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตแกนนำ นปช. และ มวลชนคนเสื้อแดง มาร่วมให้กำลังใจมอบพวงมาลัย ท่ามกลางสายฝนที่โปรยลงมาอย่างต่อเนื่อง
นพ.เหวง อายุ 69 ปี นายวิระกานต์ อายุ 72 ปี และนายพงศ์พิเชษฐ์ อายุ 69 ปี ถูกศาลฎีกาสั่งลงโทษจำคุกคนละ 2 ปี 8 เดือน เมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา ในฐานความผิดมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง จากกรณีนำขบวนผู้ชุมนมหลายพันคน บุกบ้านสี่เสาเทเวศน์เมื่อปี 2550 และติดคุกมาแล้วเกือบ 3 เดือน
แกนนำทั้งสาม ถือเป็นผู้สูงอายุ และมีอาการป่วย ต้องเข้ารับการรักษาสุขภาพ ขณะที่ นพ.เหวง มีปัญหาด้านสุขภาพเช่น อาการบ้านหมุน และปัญหาปวดฟัน รวมถึงอาการเกี่ยวกับต่อมลูกหมาก และไส้เลื่อน ทั้งสามคนได้รับพระราชทาน อภัยโทษ 1 ครั้ง และจะเข้าโครงการพักโทษผู้ต้องขังสูงอายุ พร้อมติดกำไลอีเอ็ม เพื่อปล่อยออกจากเรือนจำ
นพ.เหวง เปิดเผยว่า รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานอภัยโทษให้แก่ตนเอง ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดปรากฎอยู่ในราชกิจจานุเบกษา เช่นเดียวกันกับนักโทษทั่วประเทศ แต่ไม่ทราบว่านายพายัพ ปั้นเกตุ และนายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท ได้รับการปล่อยตัวหรือไม่ ส่วนนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ อาจได้รับการลดโทษ ซึ่งจะเข้าเกณฑ์พักโทษ เชื่อว่าอีกไม่นานน่าจะได้รับการปล่อยตัว
อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณกรมราชทัณฑ์ เจ้าหน้าที่ และผู้ต้องขังทุกคน รวมถึงประชาชนที่ส่งกำลังใจมาให้
ก่อนหน้านี้ นายปลอดประสพ สุรัสวดี และ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ สองอดีตนักการเมืองได้รับการพักโทษ โดยต้องติดกำไลอีเอ็มนาน 1 ปี
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ในช่วงสิ้นเดือนกันยายนนี้ ผู้ต้องขังคนสำคัญ 3 คน ได้แก่ ร.ต.ท.เชาวรินธร์ ลัทธศักย์ศิริ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท และ นายพายัพ ปั้นเกตุ จะได้รับการอภัยโทษ และเข้ารับการอบรมก่อนปล่อยตัวเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2563 โดยเนื้อหาระบุว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่ทรงพระราชดำริเห็นว่า ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2563 เพื่อเป็นการแสดงพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมควรพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ เพื่อให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านั้นกลับประพฤติตนเป็นพลเมืองดี อันจะเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไป
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 175 และมาตรา 179 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและมาตรา 261 ทวิ วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 9) พ.ศ.2517 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้
สำหรับพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ เมื่อประกาศลงราชกิจจานุเบกษา กรมราชทัณฑ์ต้องดำเนินการตรวจสอบว่านักโทษรายใดมีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์ได้รับพระราชทานอภัยโทษ โดยผู้ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษจะได้รับการทยอยปล่อยตัว ภายในเวลา 3 เดือน
ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์มีผู้ต้องขังเด็ดขาดที่ควบคุมในเรือนจำ และทัณฑสถานทั่วประเทศ 312,485 คน จากผู้ต้องขัง 382,452 คน สำหรับพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัย พ.ศ.2563 มีผู้ต้องขังได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำประมาณ 40,000 ราย และมีนักโทษเด็ดที่เข้าหลักเกณฑ์ได้รับการลดวันต้องโทษตามสัดส่วนประมาณ 200,000 ราย
รวมถึงมีรายงานว่า กรมราชทัณฑ์เรียกประชุมผู้บัญชาเรือนจำ เพื่อกำหนดกรอบปฏิบัติในการตรวจสอบผู้ต้องโทษที่จะได้รับการปล่อยตัวพ้นเรือนจำ และการลดโทษตามสัดส่วน
ผู้ต้องขังกลุ่มบิ๊กเนม ซึ่งเป็นนักการเมืองส่วนใหญ่ไม่อยู่ในเกณฑ์ได้รับการพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวออกจากเรือนจำ เนื่องจากกระทำความผิดตามบัญชีแนบท้าย แต่จะได้รับการลดวันต้องโทษตามสัดส่วน เพื่อเข้าสู่กระบวนการพักการลงโทษ ปล่อยตัวก่อนครบกำหนดโทษ โดยติดกำไลอีเอ็ม หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- แก่แล้ว! ‘สมศักดิ์’ แจงยิบเหตุปล่อยตัว ‘ปลอดประสพ-ยงยุทธ’
- ปล่อยตัว ‘ปลอดประสพ-ยงยุทธ’ ได้พักโทษ-ติดกำไลอีเอ็ม
- อิสรภาพ! ศาลสั่งปล่อยตัว ‘อานนท์-ไมค์’ เหตุตร.ยกเลิกฝากขัง