บุรีรัมย์ มาราธอน เตรียมยกชั้น World Major เทียบชั้น 6 สนามวิ่งระดับโลก จัดอันดับแห่งที่สองของอาเซียน ด้านการกีฬาพร้อมพัฒนาเมืองศักยภาพเป็นไทยแลนด์โอเพ่น
นายเนวิน ชิดชอบ ประธาน บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จำกัด เปิดเผยว่า การจัดงานวิ่งบุรีรัมย์ มาราธอน 2 ครั้งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับอย่างดี จึงมีการจัดครั้งที่ 3 ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2562 และกำหนดจัดครั้งต่อไปในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2563 และจะพัฒนาให้เป็น Gold Label ภายใน 5 ปี ยกระดับเป็นการแข่งขันวิ่งมาราธอนรายการระดับโลก (World Major Marathon) ที่ปัจจุบันทั่วโลกมี 6 สนาม โดยคาดว่าจบการแข่งขันบุรีรัมย์ มาราธอน ครั้งที่ 4 จะได้รับการรับรองเป็นระดับ Bronze Label และเป็น Silver Label ตามลำดับ
การจัดงาน 2 ครั้งที่ผ่านมาทำให้เราได้เรียนรู้ และปรับปรุงการบริหารจัดการมาตามลำดับ จนได้รับการตอบรับจากนักวิ่งมากขึ้น จาก 7,291 คนในปี 2559 เพิ่มมาเป็น 13,070 คนในปี 2560 งานบุรีรัมย์ มาราธอน ครั้งที่ 3 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2562 คาดว่าจะมีนักวิ่งเข้าร่วมแข่งขันกว่า 20,000 คน และจะเป็น 30,000 คนในปี 2563
สำหรับปี 2562 กำหนดจุดสตาร์ท ณ สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ เงินรางวันรวมกว่า 1.65 ล้านบาท การแข่งขันแบ่งเป็น มาราธอน 42.195 กิโลเมตร ฮาล์ฟ มาราธอน 21.1 กิโลเมตร มินิ มาราธอน 10 กิโลเมตร และฟันรัน 7 กิโลเมตร
สำหรับที่พักนั้นยอมรับอาจไม่พอ จึงเปิดสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ซึ่งเป็นสนามแข่งรถระดับโลก เป็นแคมป์รองรับนักวิ่งได้ 3,000-4,000 คน สามารถการันตีได้ว่า นักวิ่งมีที่พักอย่างแน่นอน เสียค่าใช้จ่ายเพียงค่าน้ำ และค่าทำความสะอาดเท่านั้น และต่อไปจะจัดระบบให้เป็นงานแรกของโลก ที่มีแคมป์ที่พักนักวิ่งที่ได้มาตรฐาน และในระยะต่อไปจะพัฒนาเชื่อมต่อกับโฮมสเตย์ของชาวบ้านมีแพคเกจรับส่งนักวิ่งมาที่สนามแข่งด้วย
ขณะเดียวกันที่บุรีรัมย์มีบริการแท๊กซี่ Grab ให้บริการจากท่ารถหรือสนามบิน รวมถึง Shuttle Bus รับส่งนักวิ่งมายังที่พักหรือสนามช้าง
“และจะปิดถนน 100% ไม่มีการ cut off รอจนกว่านักวิ่งคนสุดท้ายจะเข้าเส้นชัย เพราะถือว่าเราเป็นเจ้าบ้านต้องดูแลอย่างดี ขณะเดียวกันจะมีกองเชียร์ และคนบุรีรัมย์เข้ามาร่วมเชียร์ตลอดเส้นทาง ทั้งหมดเพื่อให้ งานวิ่งบุรีรัมย์ มาราธอน เป็น Your Ultimate Destination หรือ สวรรค์สำหรับนักวิ่งอย่างแท้จริง”
นอกจากนี้ ยังมีการเปิดจองหมายเลขนักวิ่ง ( BIB ) เพื่อบริจาคโรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ เพื่อซื้ออุปกรณ์การแพทย์ มีผู้จองแล้วจำนวน 128 หมายเลขและจะมีเพิ่มมากขึ้นอีก ขณะนี้มียอดบริจาคแล้ว 1 ล้านบาทเศษ
สำหรับการเตรียมพร้อมจัดการแข่งขันนั้น ถือว่างานบุรีรัมย์ มาราธอน บริหารจัดการได้ไม่ยาก เมื่อเทียบกับ รายการ MOTO GP บุรีรัมย์ การจัดแข่งขันจักรยานยนต์ระดับโลก ที่จะจัดขึ้นในช่วง 5-7 ตุลาคม 2561 ซึ่งจะมีคนกว่า 3 แสนคนเข้าชมการแข่งขัน และจัดที่พักที่สนามแห่งนี้
นายอนุสรณ์ แก้วกังวาล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ในช่วง 6-7 ปีที่ผ่านมา บุรีรัมย์เป็นเมืองที่ใช้กีฬาเป็นตัวนำการท่องเที่ยว และขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับ งานวิ่ง บุรีรัมย์ มาราธอน ที่ดึงดูดนักวิ่งชาวไทย และต่างชาติเข้ามานับหมื่นคน รวมผู้ติดตามไม่ต่ำกว่า 2-3 หมื่นคน ทำให้เกิดหมุนเวียนในระบบหลักร้อยล้านบาท และเส้นทางวิ่งที่จะผ่านสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของบุรีรัมย์ทำให้นักท่องเที่ยวได้เห็น
ขณะที่ดร.ก้องศักดิ์ ยอดมณี ว่าที่ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กล่าวว่า จังหวัดบุรีรัมย์มีศักยภาพสูงมากที่จะเป็น World Majors Marathon เทียบชั้นบอสตัน มาราธอน แต่การจะไปถึงระดับนัั้นได้ต้องเตรียมพร้อม เพื่อไปสู่มาตรฐานระดับสากล ตั้งแต่การปิดถนน ความปลอดภัย
การเชิญ Elite Runner หรือ นักวิ่งชั้นนำระดับโลกเข้าร่วมงาน การตรวจสารเสพติด ซึ่งทาง กกท. ก็พร้อมสนับสนุน ขณะเดียวกันก็มีหลายเมืองที่พัฒนาให้เป็นลักษณะ ไทยแลนด์ โอเพ่น ได้ ซึ่งกกท.จะวางแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาต่อไป
“สิงคโปร์ เป็นเมืองเล็กๆยังเป็นสนามที่ได้ Gold Lebel สนามแรกของอาเซียน ทำไมไทยจะทำไม่ได้”
