Business

ผู้ว่าอัศวิน ลั่นไม่มีเบี้ยว จ่ายเบี้ยยังชีพ ‘สูงวัย-ผู้พิการ’ ทุกวันที่ 10

จ่ายเบี้ยยังชีพ ผู้สูงอายุ และผู้พิการ ผู้ว่าอัศวิน ออกโรงยัน จ่ายตรงเวลา ทุกวันที่ 10 ของเดือน โดยกรมบัญชีกลางโอนเข้าบัญชีเงินฝากผู้ได้สิทธิโดยตรง

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์เพจเฟซบุ๊ก “ผู้ว่าฯ อัศวิน” ถึงกรณีการ จ่ายเบี้ยยังชีพ ผู้สูงอายุ และผู้พิการ หลังมีกระแสข่าว กรมบัญชีกลางเลื่อนจ่าย ยืนยันจ่ายตามปกติ โดยระบุว่า

จ่ายเบี้ยยังชีพ ผู้สูงอายุ และผู้พิการ

“กทม.จ่ายเบี้ยยังชีพสูงอายุและเบี้ยผู้พิการวันที่ 10 ของเดือนตามปกติ

กรณีข่าวกรมบัญชีกลาง เลื่อนจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และเบี้ยความพิการ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประจำเดือนกันยายน 2563 เนื่องจากติดขัดขั้นตอน เรื่องการจัดสรรงบประมาณ ทำให้ผู้สูงอายุ และผู้พิการ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ตกใจต่อข่าวดังกล่าว และสอบถามไปยังสำนักงานเขตจำนวนมาก

ผมขอแจ้งว่า ในส่วนของกรุงเทพมหานคร ไม่ได้รับผลกระทบครับ กรมบัญชีกลาง ได้โอนเบี้ยยังชีพให้ท่านเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2563 ตามปกติเรียบร้อยแล้ว ขอให้ท่านตรวจสอบบัญชีเงินฝากของท่านได้เลยครับ

การจ่ายเบี้ยยังชีพ ในส่วนของกรุงเทพมหานครนั้น จะแตกต่างจากองค์กรปกครองท้องถิ่นอื่น ๆ โดย กรมบัญชีกลาง จะโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากให้แก่ผู้สูงอายุ และผู้พิการโดยตรง ไม่ได้จัดสรรงบประมาณผ่าน กทม. และสำนักงานเขต เพื่อโอนจ่ายให้แก่ผู้มีสิทธิ์อีกทอดหนึ่งเหมือนในอดีตที่ผ่านมา

ปัจจุบัน กทม. ทำหน้าที่รับลงทะเบียน ผู้ขอรับเบี้ยยังชีพ และตรวจสอบสิทธิ์ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีปฏิบัติของรัฐบาล จากนั้น จะจัดส่งบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ์ ให้แก่กรมบัญชีกลาง เพื่อโอนจ่ายเบี้ยตามหลักเกณฑ์ ทุกวันที่ 10 ของเดือน แต่หากเดือนใดตรงกับวันหยุด ก็จะเลื่อนวันขึ้นมาจ่ายให้เร็วขึ้นครับ”

อัศวิน
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง

นอกจากนี้ ยังมีสียงยืนยันจากรัฐบาล กรณีการจ่ายเบี้ยยังชีพสูงอายุ และเบี้ยความพิการ เดือนกันยายน ล่าช้า เนื่องจาก ตัวเลขจำนวนผู้ได้สิทธิ์เพิ่มขึ้น

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจ่ายเบี้ยคนพิการและเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ยืนยันว่า ทั้ง กรมบัญชีกลาง สำนักงบประมาณ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ดำเนินการจัดสรรงบประมาณ สำหรับจ่ายเบี้ยคนพิการและเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุอย่างต่อเนื่อง

หลังจากได้มีการปรับปรุงตัวเลขจากเดิมที่ตั้งเบิกจ่ายไว้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2562 พบว่า จำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น 184,538 ราย จำนวนผู้พิการเพิ่มขึ้น 265,608 ราย ประกอบกับการพัฒนาการโอนตรงด้วยระบบ E-Payment เพื่อเป็นการจ่ายเบี้ยสู่บัญชีธนาคารของคนพิการและผู้สูงอายุโดยตรง ซึ่งมีสูงถึง 80% ส่วนที่เหลือ 20% ซึ่งเป็นผู้ที่ไม่ได้ลงทะเบียนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะทำหน้าที่จ่ายเบี้ยเป็นเงินสด

“ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดขึ้นเพราะไม่มีงบประมาณ แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนระบบและวิธีการชำระเงิน รวมทั้งจำนวนผู้ได้รับสิทธิ์เพิ่มขึ้น และเชื่อว่าหลังจากปี 2563 ที่เปลี่ยนระบบแล้วเมื่อผู้ลงทะเบียนได้รับสิทธิแล้วก็จะได้รับเงินทันทีในเดือนถัดไป และจะไม่เกิดความล่าช้าอีก” นายอนุชา กล่าว

ทั้งนี้ หลังจากการปรับปรุงระบบ การชำระเงินให้กับผู้มีสิทธิ จะมีความคล่องตัวเพิ่มมากขึ้น เพราะเมื่อผู้สูงอายุหรือผู้พิการ ได้ขึ้นทะเบียนแล้ว จะได้รับเบี้ยยังชีพในเดือนถัดไปทันที โดยไม่ต้องรอการประกาศสิทธิ์เหมือนในอดีต

สำหรับงวดเดือนกันยายนนี้ ให้กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ได้อนุมัติงบเหลือจ่าย เพื่อนำไปจ่ายเบี้ยคนพิการและเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุทันที จำนวน 2,400 ล้านบาท แบ่งเป็นเบี้ยคนพิการ 700 ล้านบาท และเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 1,700 ล้านบาทที่มีการแบ่งจ่ายแบบขั้นบันไดตามช่วงอายุ

ส่วนความล่าช้าในการใช้จ่ายงบประมาณประจำปี 2564 ตามร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา ของผู้สภาผู้แทนราษฎร ในวาระที่ 2 และ 3 ในช่วงสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจมีความล่าช้าไม่เกิน 1 อาทิตย์ และสำนักงบประมาณ จะนำเรื่องดังกล่าว แจ้งให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบ เนื่องจากต้องมีการใช้งบประมาณประจำปี 2563 ไปพลางก่อน

ขณะที่การใช้งบประมาณปี 2564 อาจไม่ทันใช้ในเดือนตุลาคมนี้ ว่า ขณะนี้ร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสภาในวาระที่ 2 และ 3 ในสัปดาห์นี้ หากเกิดความล่าช้าก็ไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo