Business

หุ้น’ปูนใหญ่’ กลับมาคึกคัก…เมื่อหุ้นลูกตบเท้ารอเข้าตลาด

หุ้น’ปูนใหญ่’ กลับมาคึกคักอีกครั้ง เมื่อหุ้นไอพีโอระดับบิ๊ก อย่าง SCGP รอเข้าตลาดหลังผ่านการอนุมัติไฟลิ่ง จาก ก.ล.ต. ไปแล้ว

ด้วยภาวะตลาดปีนี้ ทำให้มีหุ้นไอพีโอเข้าเทรดในตลาดน้อยกว่าปกติ แต่ถึงอย่างนั้นเร็วๆนี้ เราน่าจะได้เห็นหุ้นไอพีโอระดับบิ๊ก ที่ตบเท้ารอเข้าตลาด อย่าง SCGP หรือ บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) บริษัทลูกในกลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC

SCGP ทำธุรกิจอะไร ทำไมถึงน่าสนใจ?

หุ้น ปูนใหญ่ ที่มีบริษัทลูกอย่าง SCGP มีลักษณะธุรกิจเป็น Holding Company ถือหุ้นในบริษัท ที่ประกอบธุรกิจหลัก ในด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร ซึ่งถ้าว่าด้วยเรื่องขนาดแล้วถือว่า เป็นรายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ครอบคลุมสายธุรกิจใน 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย, เวียดนาม, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย

ธุรกิจของ SCGP แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่

หุ้น'ปูนใหญ่'

1. กลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร (Integrated Packaging Chain) 

คิดเป็นสัดส่วนรายได้ในปี 2562 อยู่ที่ 80.40% หรือประมาณ 71,626 ล้านบาท โดยจะเป็นการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น บรรจุภัณฑ์จากเยื่อและกระดาษ, กระดาษบรรจุภัณฑ์ และบรรจุภัณฑ์จากวัสดุสมรรถนะสูงและพอลิเมอร์

2. กลุ่มธุรกิจเยื่อและกระดาษ (Fibrous Chain) 

คิดเป็นสัดส่วนรายได้ในปี 2562 อยู่ที่ 19.60% หรือประมาณ 17,445 ล้านบาท เป็นการจัดจำหน่ายจำหน่ายบรรจุภัณฑ์สำหรับบรรจุอาหาร และผลิตภัณฑ์เยื่อและกระดาษ ทั้งในประเทศไทย และลูกค้าที่อยู่ในภูมิภาคอื่นๆ รวมทั้งสิ้น 20 ประเทศทั่วโลก

จุดที่น่าสนในของ SCGP ก็คือเมื่อพลิกดูผลประกอบการล่าสุด ของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563 จะพบว่า เป็นธุรกิจที่มีรายได้และกำไรเติบโตเพิ่มขึ้น แม้จะเป็นช่วงเวลาที่เกิดวิกฤติใหญ่ COVID-19 ก็ตาม โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 45,903 ล้านบาท เติบโต11% และกำไรสุทธิ 3,636 ล้านบาท เติบโต 40% เหตุผลที่เป็นเช่นนี้ เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทมาจาก กลุ่มกลุ่มสินค้าอุปโภค-บริโภค ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ขณะเดียวกัน ได้ยังรับประโยชน์จากการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และธุรกิจบริการรับส่งอาหาร (Food Delivery) ซึ่งเติบโตก้าวกระโดดในช่วงที่ผ่านมา 

ทำไม SCGP ถึงทำให้ หุ้น’ปูนใหญ่’ กลับมาน่าสนใจอีกครั้ง

เมื่อย้อนไปก่อนหน้านี้ต้องยอมรับว่าหุ้นปูนใหญ่ ถูกลดความน่าสนใจลง จากแนวโน้มธุรกิจที่ค่อนข้างซบเซา รวมถึงการถูกปรับน้ำหนักลง ของนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างชาติ แต่การเตรียมเข้าเทรดของ SCGP ในครั้งนี้ ทำให้หุ้นแม่อย่าง SCC กลับมาอยู่ในกระแสอีกครั้ง แน่นอนว่าเมื่อเรานึกถึงปูนซิเมนต์ไทย ธุรกิจแพคเกจจิ้งคงไม่ใช่ Top of Mind ของหลายคน เพราะมีธุรกิจอื่นที่มีน้ำหนักมากกว่า ทั้งธุรกิจซีเมนต์ ก่อสร้าง และเคมิคอลส์ โดยแพคเกจจิ้งมีสัดส่วนรายได้เพียง 23% ของทั้งหมดเท่านั้น 

ทว่าเมื่อมองไปในอนาคต SCGP ถือเป็น “ดาวรุ่ง” ที่น่าจับตามองมากทีเดียว และยังมีโอกาสเร่งการเติบโตได้อีกมาก เมื่อเทียบกับสายธุรกิจอื่นๆ ของ SCC โดยล่าสุดในปี 2562 บริษัทมีการลงทุนขยายธุรกิจในกว่า 25,000 ล้านบาท อยู่ระหว่างก่อสร้างโรงงานเพื่อขยายกำลังการผลิตอีก 4 แห่งในไทย, เวียดนาม, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย

ขณะเดียวกันสำหรับผู้ถือหุ้น SCC จะได้รับสิทธิการจัดสรรหุ้นไอพีโอ (Pre-emptive rights) จองหุ้น SCGP จำนวนไม่เกิน 169.1325 ล้านหุ้น หรือ 13.04% ของหุ้น SCGP ที่จะไอพีโอ เรื่องนี้นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ประเมินว่าจะทำให้มูลค่าหุ้น SCC โดดเด่นขึ้นแน่นอนในช่วงครึ่งปีหลัง

การเข้าตลาดหุ้นของ SCGP บริษัทลูกหุ้น’ปูนใหญ่’

กระบวนการเข้าตลาดหุ้นของ SCGP ล่าสุดได้ผ่านการอนุมัติไฟลิ่งจาก ก.ล.ต. แล้ว เมื่อเดือนพฤษภาคม 2563 ปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนกำหนดราคาไอพีโอ  หากเป็นไปตามกระบวนการของจะสามารถซื้อขายใน SET ภายใน 12 เดือนของวันอนุมัติ ทั้งนี้หลังจากเข้าตลาดหุ้นสัดส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่ของ SCGP จะเปลี่ยนไป ดังนี้

หุ้น'ปูนใหญ่'

สุดท้ายนี้คงต้องมาดูดูกันว่า การเลือกปลดล็อกมูลค่า ในสายธุรกิจแพคเกจจิ้งของ SCC ในครั้งนี้ จะสามารถเป็นแรงส่ง ให้ตัวเองกลับมาน่าสนใจได้มากน้อยแค่ไหน และอีกเรื่องที่ต้องลุ้นก็คือ หลังจากการการ Spin-off แล้ว SCGP จะยังรักษาผลงานในการบริหารจัดการได้ดี อย่างที่เป็นมาหรือเปล่า ก็คงต้องมาติดตามกันต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo