ยอดผู้ติดเชื้อโควิดวันนี้ 14 ก.ย. อยู่ที่ 29,153,843 คน ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 237,833 คน “หมอธีระ” เตือนสถานการณ์ “เมียนมาร์” น่าเป็นห่วงมาก ชี้สายพันธุ์ไวรัสในไทยเปลี่ยนเป็นสายพันธุ์ G ระบาดง่ายกว่าเดิม
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat รายงาน ยอดผู้ติดเชื้อโควิดวันนี้ 14 ก.ย. โดยระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิดวันนี้ 14 ก.ย. สถานการณ์ทั่วโลกล่าสุด ทะลุ 29 ล้านไปตั้งแต่เมื่อวานตอนบ่าย ด้วยความเร็ว 1 ล้านคนในเวลาเพียง 3.5 วัน ติดเพิ่มอีก 237,833 คน รวมตอนนี้ 29,153,843 คน
- อเมริกา ติดเพิ่ม 35,189 คน รวม 6,706,219 คน
- อินเดีย ติดเพิ่ม 93,215 คน รวม 4,845,003 คน
- บราซิล ติดเพิ่ม 14,768 คน รวม 4,330,455 คน
- รัสเซีย ติดเพิ่ม 5,449 คน รวม 1,062,811 คน
- ส่วนอันดับ 5-10 ยังเป็นไปในลักษณะเดิม ติดกันหลายพันต่อวัน บางประเทศยังไม่ได้รายงานมา ยอดรวมราว 5-7 แสนคน
ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร อิตาลี เนเธอร์แลนด์ อิหร่าน บังคลาเทศ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลายพัน
- ฝรั่งเศสยังหนักหน่วง ติดเพิ่มถึง 7,183 คน
- หลายประเทศในยุโรป รวมถึงแคนาดา ปากีสถาน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเมียนมาร์ ติดกันหลักร้อยถึงเฉียดพัน
- จีน สิงคโปร์ ฮ่องกง และมาเลเซียติดเพิ่มกันหลักสิบ ส่วนนิวซีแลนด์และเวียดนามก็ยังติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ
…สถานการณ์เพื่อนบ้านเรา คือ เมียนมาร์ น่าเป็นห่วงมาก เมื่อวานติดเพิ่มไปถึง 337 คน หากติดตามมาตลอดเราจะพบว่า ยอดติดเชื้อต่อวันมีแนวโน้มสูงขึ้นแบบ exponential…เชื่อว่า เราทุกคนเอาใจช่วยให้เมียนมาร์ควบคุมโรคได้โดยเร็ว
…ขอเน้นย้ำความสำคัญของมาตรการต่างๆ ที่ประชาชนและรัฐควรทำเพื่อป้องกันการระบาดซ้ำในประเทศ
หนึ่ง จังหวัดชายแดนและข้างเคียง หากเห็นคนต่างด้าวแปลกหน้า ควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่รัฐได้ทราบและไปตรวจสอบ
สอง เจ้าของครัวเรือน รวมถึงธุรกิจห้างร้านเล็กกลางใหญ่ และโรงงานต่างๆ โปรดคิดไว้ก่อนว่าแรงงานต่างด้าวที่รับเข้ามาทำงานอาจมีการติดเชื้อไวรัสโรค COVID-19 โดยไม่ทราบ หรือไม่มีอาการ ดังนั้น จึงควรส่งไปตรวจคัดกรองที่สถานพยาบาลในพื้นที่ และควรใช้แรงงานต่างด้าวที่ถูกต้องตามกฎหมาย
สาม รัฐควรพัฒนาระบบบริการตรวจ COVID-19 ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตเมืองของแต่ละจังหวัด และมีบริการหลากหลายรูปแบบ ทั้งในสถานพยาบาล รถโมบาย และจุดบริการนอกโรงพยาบาล เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการได้มากขึ้นง่ายขึ้น โดยให้สามารถเบิกจ่ายได้จากทุกกองทุนสุขภาพและไม่ติดเงื่อนไขว่าต้องมีอาการ
สี่ รัฐควรทบทวนนโยบายการนำเข้ากลุ่มเป้าหมายต่างๆ จากต่างประเทศ โดยเน้นเฉพาะที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงงานต่างด้าวนั้น ควรพิจารณาปรับให้คนไทยที่กำลังหางานมาทำทดแทนหากเป็นไปได้ เช่น การสอนภาษา ฯลฯ
ห้า สำคัญที่สุดคือ การระงับ ยุติ หรือ ชะลอการวางแผนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในประเทศ สถานการณ์ระบาดรุนแรงทั่วโลกเช่นนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหยุดไปก่อนอย่างน้อย 6 เดือน แล้วค่อยมาประเมินสถานการณ์อีกครั้ง
…ตอนนี้ในประเทศมีคนติดเชื้อแล้วหลายราย สายพันธุ์ไวรัสเปลี่ยนจากเดิมไปเป็นสายพันธุ์ G ที่แพร่ง่ายขึ้นกว่าเดิม
โรคนี้ไม่ใช่ไข้หวัดธรรมดา ไม่ใช่ไข้หวัดใหญ่… บางคนพยายามให้ข้อมูลลวงที่ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด ความจริงตอนนี้คือ COVID-19 ติดง่าย ติดไปแล้วกว่า 29 ล้าน ตายไปเกือบ 1,000,000 คนทั่วโลก ที่สำคัญคือ ยังไม่มียารักษามาตรฐาน ไม่มีวัคซีนป้องกัน…ไม่เหมือนไข้หวัดใหญ่ที่มียาและวัคซีน…
ดังนั้น ระหว่างที่ทีมงานวิจัยต่างๆ ทั่วโลกกำลังศึกษายาและวัคซีนเพื่อมาใช้เป็นอาวุธสู้กับไวรัส อาวุธเดียวที่เรามีคือ “การป้องกัน”
…ใส่หน้ากากเสมอ…ล้างมือบ่อยๆ…อยู่ห่างคนอื่นหนึ่งเมตร…
…พูดน้อยลง…พบคนน้อยลงสั้นลง…
…เลี่ยงที่แออัดที่ชุมนุมที่อโคจร…
…คอยสังเกตอาการตนเองและครอบครัว หากไม่สบายให้หยุดเรียนหยุดงานและรีบไปตรวจ จะช่วยตัดวงจรการระบาดได้…
ประเทศไทยต้องทำได้
ด้วยรักต่อทุกคน
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์
คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เตรียมกด! พรุ่งนี้เงินคืน VAT เข้า ‘บัตรคนจน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ’ สูงสุด 500 บาท
- พยากรณ์อากาศวันนี้ เตือน 44 จังหวัดระวังฝนตกหนัก!
- สำนักงบฯ แจ้งด่วน งบ ปี 64 ใช้ไม่ทัน 1 ต.ค. ยันไม่กระทบจ่ายเงินเดือน-ระงับลงทุนใหม่