“อนุทิน” ย้ำเป้าคนไทยต้องได้วัคซีนโควิด-19 เป็นกลุ่มประเทศแรก เผยปัญหา “แอสตราเซนนิกา” ระงับการทดลอง ไม่กระทบแผนจัดหาวัคซีนของไทย
การประชุมติดตามความก้าวหน้าการวิจัยพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทย และแผนการสนับสนุน ซึ่งมีทีมผู้ผลิตวัคซีน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่ายังยืนยันเป้าหมายเดิมที่คนไทย ต้องได้รับวัคซีนเป็นกลุ่มประเทศแรกของโลก ซึ่งได้มอบหมายให้สถาบันวัคซีนไปดูแลภารกิจข้างต้นแล้ว โดยครม.อนุมัติงบเบื้องต้นมาให้ 1,000 ล้านบาท เพื่อดำเนินการ
ที่ผ่านมามีการหารือกับทีมผู้ผลิตทั้งในไทย และต่างประเทศ ทีมที่ได้รับความน่าเชื่อถือ มีประสิทธิภาพในการผลิต ประเทศไทยได้หารือมาหมดแล้ว บางทีม ได้ทำ MOU ร่วมกัน ทางไทยจำเป็นต้องกระจายโอกาสเข้าถึงวัคซีน จะไปยึดติดกับทีมใด ทีมหนึ่งไม่ได้
ในกรณีที่ทาง “แอสตราเซนนิกา “ พบปัญหาระหว่างทดลอง และได้ระงับการทดลอง ทางไทยได้รับแจ้งแล้วว่า ทางนั้นจำเป็นต้องหาสาเหตุและแนวทางแก้ไข เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นกระทบต่อสุขภาพ ของผู้ได้รับวัคซีน ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้อง แน่นอนว่าเรื่องนี้ ไม่กระทบกับทางไทย เพราะเราร่วมมือในเรื่องของการถ่ายทอดเทคโนโลยี หลังจากที่พัฒนาวัคซีนเสร็จสมบูรณ์ มีความปลอดภัย 100% มีประสิทธิภาพ ก็ต้องส่งมอบเทคโนโลยีให้ไทย และต้องอนุญาตให้ไทยผลิตวัคซีนในประเทศได้
เมื่อถามถึงความคืบหน้า ในการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากเคสดีเจ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่างทำไปตามหลักการ แต่ขอย้ำว่า ระบบควบคุมโรคของไทยยังมีประสิทธิภาพสูง ได้ไล่ตรวจผู้มีความเสี่ยงสูง กลาง ต่ำ อย่ารวดเร็ว การพบผู้ติดเชื้อในประเทศ เป็นเรื่องต้องให้ความสำคัญ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องกลับไปล็อกดาวน์ ปิดบ้าน ปิดเมือง จนกระทบประชาชนจำนวนมหาศาล ประเทศไทยมีประสบการณ์ และมีแนวทางจัดการที่เหมาะสม ทั้งนี้ ประชาชน เป็นกลไกสำคัญในการควบคุมโรค ขอให้สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง และล้างมือ เพื่อป้องกันการระบาด
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘อนุทิน’ ดูงานสาธารณสุขระนอง ย้ำ ‘การ์ดอย่าตก’ แจ้งข่าวดี 21 ก.ย. อสม.ได้เงินพิเศษ
- ‘อนุทิน’ ลั่นไม่ขวาง ‘ภูเก็ตโมเดล’ รอประชาชนตัดสินใจร่วมกัน
- ‘บำรุงราษฎร์’ หนุนไทย ‘ท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของโลก’ หลังโควิด-19